รมว.จุรินทร์ พลิกฟื้น 4 ธุรกิจบริการนำรายได้เข้าประเทศ ร่วมกับ 3 ธนาคารปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ “เสริมสภาพคล่อง”

การช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ฝ่าวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการไทยทั้ง SMEs รายเล็ก และรายใหญ่ จำนวนมาก

ล่าสุด รมว.จุรินทร์ เดินหน้าช่วยผู้ประกอบการในจุดที่ถือเป็นปัญหาหลักคือเรื่อง “เงินทุน” เนื่องจากพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ขาดสภาพคล่อง ในการดำเนินงาน

เป็นที่มาของการเปิดตัว “โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal” ภายใต้แนวคิด “Thriving in the New Normal ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส” เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ หาแนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูภาคธุรกิจของไทย โดยมุ่งไปที่ธุรกิจบริการ 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการจัดงาน ธุรกิจเกม ธุรกิจแอนิเมชั่น และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

“จุรินทร์” ระบุว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือกับ 3 สถาบันการเงินชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) กับภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจบริการ ได้แก่ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สมาคมการแสดงสินค้าไทย และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย ประสานพลังพาธุรกิจบริการผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

Advertisement

ความร่วมมือดังกล่าว มุ่งแก้ปัญหาเรื่อง “ขาดสภาพคล่อง” ให้ผู้ประกอบการไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และถือเป็นปัญหาหลักของผู้ประกอบการไทยในขณะนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำการค้าขายระหว่างประเทศ

รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ไม่เพียงผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 กลุ่มธุรกิจต่างๆ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านอื่นๆ อีกมาก จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินการเพื่อสนองตอบความต้องการของภาคเอกชนในด้านการแสวงหาแหล่งเงินทุน และการเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ”

สำหรับการจัดงานเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรม “จับคู่ธุรกิจ” และให้คำปรึกษาระหว่างสถาบันทางการเงินทั้ง 3 แห่งกับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจการจัดงาน แอนิเมชั่น เกม และโลจิสติกส์ รวมจำนวนกว่า 50 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 คู่ และเกิดการปล่อยสินเชื่อมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท

Advertisement

“จุรินทร์” ระบุว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา การค้าในภาคบริการได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และโลก โดยการค้าบริการมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการค้าด้านเกษตรหรืออุตสาหกรรม จึงได้กำหนดให้การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการเป็น 1 ใน 10 นโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

เขากล่าวต่อว่า ภาคธุรกิจบริการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย สร้างมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท โดยตลอดปีที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่เป็น “เซลส์แมนประเทศ” นำทัพผู้ประกอบการไทย เดินทางไปเจรจาการค้าในต่างประเทศ และผลักดันให้เกิดกิจกรรมเจรจาการค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้กับผู้ประกอบการในภาคบริการเป็นจำนวนมาก

กิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ อาทิ ปลายปี 2562 นำทีมคณะผู้บริหาร และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  เจาะตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ระดับโลกที่ Walt Disney และ Nickelodeon สหรัฐอเมริกา ด้วยการนำผู้ประกอบการภาพยนตร์ แอนิเมชัน และขายโลเกชันสร้างภาพยนตร์ จำนวน 8 บริษัทเข้าร่วมงาน American Film Market 2019 ซึ่งสามารถเจรจาธุรกิจสร้างยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ยังได้หารือกับนักสร้างการ์ตูนแอนิเมชันคนไทย ที่ทำงานให้กับ Nickelodeon Animation Studio และ Walt Disney studio เพื่อมาแลกเปลี่ยนให้ความรู้กับผู้ผลิตคนไทย

ส่วนในปีนี้ ในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมมาสู่ออนไลน์ โดยจัดโครงการ MOVE (Multimedia Online Virtual Exhibition ) งานแสดงสินค้าออนไลน์ดิจิทัลคอนเทนท์แบบครบวงจรของไทย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านา และล่าสุดกับโครงการจับคู่เจรจาผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทยผ่านช่องทางออนไลน์” (TILOG-LOGISTIX Online Matching) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคมที่ผ่านมา

“จุรินทร์” ย้ำว่า จากนโยบายการผลักดันการส่งออกธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอด 1 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 – สิงหาคม 2563 สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ถึงกว่า 14,200 ล้านบาท

“กระทรวงพาณิชย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยง สร้างเครือข่ายและส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการ มีความพร้อม มีศักยภาพ และพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image