เมื่อมีสมาชิกตัวน้อยในบ้านเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 พ่อแม่ก็ต้องเตรียมขยับขยายจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้ลูกๆ แต่ด้วยข้อจำกัดของครอบครัวยุคใหม่มักจะมีพื้นที่ใช้สอยในบ้านไม่มากนัก การซื้อเตียงทั่วไปมาใช้อาจจะกินพื้นที่เกินไป เตียงนอนเด็ก 2 ชั้นจึงตอบโจทย์นี้ได้อย่างดี ทว่าพ่อแม่บางคนอาจจะไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยรวมถึงความคุ้มค่าในระยะยาวเท่าไหร่นัก เราจึงอยากแนะนำวิธีการเลือกซื้อเตียงชนิดนี้ให้คุณได้รู้
1.วัสดุ
โครงสร้างเตียงที่ทำจากโลหะมักเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาไม่แพง แต่ต้องพิจารณาการออกแบบดีๆ ว่าดูแข็งแรง มั่นคงแค่ไหน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากพอหรือเปล่า ซึ่งเรื่องความแข็งแรงนี้เตียงที่ทำจากไม้หรือวัสดุแทนไม้มักจะทำหน้าที่ได้ดีกว่า และยังมีความปลอดภัยมากกว่าโลหะที่อาจมีสารพิษตกค้าง นอกจากนี้ยังนำมาขึ้นรูปได้หลากหลายกว่าด้วย เราจึงได้เห็นเตียง 2 ชั้นที่มีรูปร่างสวยงามให้เลือกมากมาย อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเตียงรุ่นนั้นรองรับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัมหรือไม่ เพื่อความอุ่นใจและใช้งานได้จนเด็กโต
2.ราวกั้น
ราวกั้นคือองค์ประกอบด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของเตียงนอนเด็ก 2 ชั้น เพื่อเอาไว้กันเด็กตกจากเตียง ซึ่งมักจะติดตั้งมากับเตียงชนิดนี้ในตัวอยู่แล้ว ราวกั้นต้องมีความแข็งแรงและครอบคลุมพื้นที่ข้างเตียงทั่วถึงรวมถึงมีความสูงมากพอ ทั้งนี้ควรระวังราวกั้นที่ออกแบบเป็นตะแกรงเพราะอวัยวะของเด็กอาจติดอยู่ในนั้นได้ ทั้งนี้ควรเป็นราวที่ถอดออกได้เผื่อต้องการแยกเตียงออกในอนาคต
3.เตียง
ขอบทุกส่วนของเตียงควรดัดหรือตกแต่งให้โค้งมนเพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กๆขนาดมาตรฐานของเตียงนอนเด็กคือ 3.5 ฟุต ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับขนาดตัวเด็กปกติ และสามารถหาซื้อผ้าปูเตียงไซส์นี้ได้ทั่วไป เว้นแต่ว่าคุณจะอยากได้ใหญ่กว่านั้นและมีพื้นที่มากพอก็สามารถทำได้ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือความสูงของเตียง เพราะต้องเผื่อระยะห่างระหว่างเตียงชั้นบนกับเพดานในกรณีที่เด็กอยากลุกขึ้นยืน เตียงมาตรฐานจะมีความสูงไปไม่เกิน 130 ซม. หากเตี้ยเกินไปก็จะทำให้เด็กอึดอัด
4.บันได
บันไดมี 2 แบบหลักๆ คือแบบแนวทแยง กับแนวตั้ง แบบแนวทแยงจะทำให้การปีนขึ้นลงทำได้ง่ายและปลอดภัยเพราะมีความลาดชันต่ำ แต่จะใช้พื้นที่มากกว่า ส่วนแบบแนวตั้งจะประหยัดพื้นที่กว่า แต่อาจไม่ปลอดภัยกับเด็กเล็ก จึงควรระวังเรื่องนี้ด้วย
5.ฟังก์ชันเพิ่มเติม
เตียงนอนเด็ก 2 ชั้นมักจะมีการใส่ฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ลิ้นชักเก็บของใต้เตียงและตรงขั้นบันได มีชั้นวางและช่องใส่ของรอบเตียง ไปจนถึงลูกเล่นต่างๆ เช่น มีมุ้งครอบ มีสไลเดอร์จากเตียงชั้นบน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกสนานกับการได้เล่น ได้เก็บของเล่น เก็บหนังสือเล่มที่เขาชอบไว้ใกล้ตัว และได้สร้างสรรค์ตามจินตนาการด้วยกันตามประสาพี่น้อง นอกจากนี้เตียงบางรุ่นยังสามารถถอด หมุน หรือพับบางชิ้นส่วนออกเมื่อไม่ต้องการใช้งานได้ สามารถแยกเตียง ปรับเตียงล่างเป็นโซฟา ปรับเป็นเตียงเดี่ยว หรือแม้กระทั่งปรับขนาดให้เหมาะสมกับวัยของเด็กได้ด้วย จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่าราคาก็จะสูงขึ้นตาม
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงจะพอคิดออกแล้วว่าควรจะซื้อเตียงนอนเด็ก 2 ชั้นมาใช้ดีหรือเปล่า และเลือกซื้ออย่างไรเพื่อให้ได้เตียงที่ถูกใจทั้งครอบครัว
