พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชู 15 จังหวัดต้นแบบการจัดการขยะที่เป็นเลิศ ย้ำผู้ว่าฯ จับมือทุกภาคส่วนเร่งแก้ไข พร้อมเดินหน้าสู่วาระแห่งชาติ

วันที่ 21 กันยายน 2563 ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธี

งานมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” สืบเนื่องมาจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะของประเทศที่สะสมมาอย่างยาวนาน มีการเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจึงได้จัดทำแผนปฎิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ด้วยการเน้นการจัดการครบวงจรตั้งแต่ระยะต้นทาง ระยะกลางทาง และระยะปลายทาง พร้อมทั้งจัดให้มีการจัดการประกวดและมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีนี้เป็นปีที่ 3 เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและยกย่อง เชิดชูเกียรติ แก่จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการจัดการขยะมูลฝอยดีเด่น

ผลการคัดเลือกจังหวัดที่มีการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัด ได้แก่ “กลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่” โดยจังหวัดอุดรธานีคว้ารางวัลชนะเลิศ ตามมาด้วยจังหวัดลพบุรีได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และจังหวัดชัยภูมิได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษได้รับรางวัลชมเชย

Advertisement

“กลุ่มจังหวัดขนาดกลาง” รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดเลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดยโสธร รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก

และ “กลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก” โดยจังหวัดลำพูนครองรางวัลชนะเลิศจนถึงปีนี้รวม 3 ปีซ้อน ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดสิงห์บุรีกับจังหวัดอุทัยธานีได้รับรางวัลชมเชย

ทั้งนี้ จังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละกลุ่มจังหวัดได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัล 1,000,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัล 800,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัล 500,000 บาท และรางวัลชมเชยได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการถอดบทเรียนความสำเร็จของ 3 จังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมกล่าวแสดงความยินดีในความสำเร็จของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือตั้งแต่ครัวเรือนสู่ชุมชนจนถึงระดับประเทศ เนื่องจากการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนไม่ใช่เป็นเพียงการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาคมโลก เมื่อบ้านเมืองสะอาด เรียบร้อย สวยงาม นอกจากจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ

“ขอชื่นชมกับความสำเร็จของจังหวัดที่ได้รับรางวัลในวันนี้ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความจริงจังในการจัดการปัญหาขยะของทุกจังหวัด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำแนวทางการบริหารจัดการนี้ ไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในด้านอื่นๆ รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ความตระหนักในการจัดการขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สร้างบ้านเมืองที่สะอาด สวยงาม สร้างความเข้มแข็งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image