“เฉลิมชัย” มั่นใจผลงาน 1 ปี ช่วยเกษตรกรทั่วไทย

ดร.เฉลิมชัย โชว์ผลงาน 1 ปี ช่วยและพัฒนาเกษตรกรได้รอบด้าน ยกระดับอาชีพและรายได้เห็นชัด ทั้งการการผลิตและการตลาด และช่วยเหลือจากภัยพิบัติต่างๆ  พร้อมสัญญาขอเดินหน้าพัฒนาต่อ ด้วยความทุ่มเท

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากในช่วง 1 ปี ที่ได้เข้ามาบริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งมั่นในการดำเนินงานตามตามแผนยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี ภายใต้แผนงานโครงการที่สำคัญทั้งเพื่อการส่งเสริมพัฒนา และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร สถาบันเกษตรกรมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และสินค้าเกษตรมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด เช่น การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเพิ่มแหล่งน้ำทั้ง ขนาดใหญ่ กลาง เล็ก เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอกับความต้องการ

“ด้านการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น วิกฤติการระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เยียวยาเกษตรกรจำนวน 7,552,509 ครัวเรือน เป็นเงินกว่า 1 แสนล้านบาท และชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรอีก 200,000 ครัวเรือน ในอัตราไร่ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 3,400 ล้านบาท พร้อมแจกจ่ายพันธุ์กุ้งก้ามกรามปล่อยในแหล่งน้ำ 1,436 แห่งๆ ละ 200,000 ตัว ใน 19 จังหวัด และแจกจ่ายปลานิลแปลงเพศ ใน 37 จังหวัด กว่า 44,00 ล้านตัว เพื่อให้เป็นห่วงโซ่อาหาร และสร้างอาชีพ และได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชนแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว ภายใต้แนวคิด “ปลูกไว้บริโภค ที่เหลือขาย” จำนวน 400,000 ชุดทั่วประเทศ โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว”

Advertisement

ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนจากโรคแมลงที่ระบาด เช่น โรคใบด่างมันสำปะหลัง ได้สั่งการให้ทำลายต้นมันสำปะหลัง และชดเชยให้เกษตรกร 3,442 ราย พื้นที่ 26,000 ไร่ ใน 11 จังหวัด งบประมาณ 130 ล้านบาท ขณะที่โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรได้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ยกระดับเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบ และรักษามูลค่าการส่งออกที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทไว้ได้

พืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง ยางพารา เประกันราคาเฟสแรก 1.7 ล้านราย และเฟสสองอีก 2 ล้านราย รวมพื้นที่ 17 ล้านไร่ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ผลักดันการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยและจีน เพื่อผลิตถุงมือยาง ตั้งรับเบอร์ วัลเลย์ ขึ้น ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้านนโยบายตลาดนำการผลิต ได้ดำเนินการทั้ง ตลาดออนไลน์ เช่น ทำสัญญาข้อตกลงกับบริษัทด้านอี-คอมเมิร์ซชั้นนำของโลก เช่น อาลีบาบา ลาซาด้า, แกร๊บ และช็อปปี้ ทำให้ช่วยเพิ่มยอดขายแก่เกษตรกรได้ถึงร้อยละ 30 ตลาดแบบออฟไลน์ เซ็นสัญญาร่วมกับ เทสโก โลตัส และแมคโคร เพิ่มการรับซื้อสินค้าเกษตร จากเดิม 1,000 ตัน เพิ่มเป็น 10,000 ตันในปี 2564 มีมูลค่าเพิ่มเป็น 197,638,494 บาท” 

Advertisement

ดร.เฉลิมชัย กล่าวถึงผลงานสนับสนุนด้านการส่งออกว่า กระทรวงเกษตรฯ ลงนามในพิธีสารกับจีน เรื่องการส่งออกผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งวางเป้าหมายสัดส่วนตลาดทุเรียนในประเทศจีน ให้ได้ที่ร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยใน 4 เดือนแรกของปี 2563 ไทยสามารถส่งออกทุเรียนได้ถึง 17,800 ล้านบาท แม้อยู่ช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังผลักดันให้ไทยเป็นมหาอำนาจส่งออกจิ้งหรีดเบอร์ 1 ของโลก พร้อมจัดทำโครงการ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลของไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสูง

“ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารและทำงานในรอบปีที่ผ่านมาด้วยความมุ่งมั่น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยก้าวการพัฒนาต่อไปนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังจะทำงานด้วยความทุ่มเทเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้พี่น้องเกษตรกรก้าวสู่ความยั่งยืนตามนโยบายที่วางไว้
ดร.เฉลิมชัย กล่าวในที่สุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image