“แมริออท มาร์คีส์” สร้างปรากฏการณ์ใหม่เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดตัว “สิริมหรรณพ” เรือใบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

“แมริออท มาร์คีส์” สร้างปรากฏการณ์ใหม่เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา

เปิดตัว “สิริมหรรณพ” เรือใบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ชู “ไอคอนิค แลนด์มาร์ค”
ร่วมสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารและดื่มด่ำบรรยากาศบนเรือหรู ณ เอเชียทีค

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 16 ตุลาคม 2563 – โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สร้างปรากฏการณ์เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเปิดตัว “สิริมหรรณพ” เรือใบสามเสาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รังสรรค์ห้องอาหารและนิทรรศการรูปภาพสะท้อนประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของเอเชียทีค ชูความเป็น “ไอคอนิค แลนด์มาร์ค” ชวนสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศบนเรือหรู ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของคนกรุงเทพฯ ยังคงมีมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่ทำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติหลงใหล ที่ดินริมสองฝั่งแม่น้ำถือเป็นทำเลทองที่โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ต่างประเทศมาเยี่ยมเยือนอย่างต่อเนื่องคือ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการที่พัฒนาโดย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC

Advertisement

ด้วยศักยภาพของพื้นที่ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก แอสเสท เวิรด์ จึงได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการทุ่มทุน 135 ล้านบาทสร้างเรือภายใต้ชื่อ “สิริมหรรณพ” ซึ่งจะเป็นเรือใบสามเสาที่ใหญ่ที่สุด ความยาว 58.50 เมตร กว้าง 11 เมตร จอดเทียบท่าเรือเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ บริหารงานโดย โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มืออาชีพระดับโลกเพื่อชูความเป็น “ไอคอนิค แลนด์มาร์ค” ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน

สิริมหรรณพมีต้นแบบจากเรือทูลกระหม่อม ซึ่งเป็นเรือหลวงที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2411-2453) สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนประวัติศาสตร์ สะท้อนจิตวิญญาณของเอเชียทีค ซึ่งมีประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยเมืองไทยเริ่มมีการค้าขายกับต่างชาติ เนื่องจากที่ดินตรงนี้มีประวัติศาสตร์ ในฐานะท่าเรือระหว่างประเทศแห่งแรกของสยามประเทศ ในสมัยที่ประเทศในแถบเอเชียนั้นอยู่ภายใต้การคุกคามของการรุกรานจากมหาอำนาจยุโรป ไม่เพียงแต่เรือลำนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและยุโรปแล้ว ยังมีส่วนช่วยกอบกู้บ้านเมืองและรักษากรุงเทพฯ ให้พ้นภัยในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 เมื่อปี พ.ศ. 2436 อีกด้วย

Advertisement

ด้วยการมองการณ์ไกลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีความคิดริเริ่มที่จะยกระดับสยามให้เป็นประเทศชั้นนำของโลก โดยตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเดนมาร์ก ให้นาย ฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซนอดีตกัปตันของเรือลำนี้ ตั้งบริษัท อีสต์เอเชียติ๊กเทรดดิ้ง ซึ่งทำธุรกิจส่งออกไม้สัก สร้างท่าเรืออีสต์เอเชียติ๊กบนพื้นที่ที่ตั้งของโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในปัจจุบัน เป็นการเริ่มต้นการทำการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับประเทศในยุโรป รวมทั้งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาอธิปไตยและความเป็นอิสระจวบจนทุกวันนี้

สิริมหรรณพร่วมต่อยอดการอนุรักษ์หลักฐานอิงประวัติศาสตร์เมื่อครั้งอดีต และพร้อมแล้วที่จะพาแขกผู้มีเกียรติย้อนเวลาสู่สมัยรัชกาลที่ 5 ภายในเรือตกแต่งบรรยากาศอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนความคลาสสิคเหนือกาลเวลา จัดแสดงภาพถ่ายและสิ่งของเครื่องใช้ในอดีตอันบอกเล่าเรื่องราวของยุคสมัยอันเรืองรอง

สิริมหรรณพจอดเทียบท่าถาวรที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อน ศูนย์รวมสินค้าและไลฟ์สไตล์หลากหลายที่ขึ้นชื่อริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเรือใบสามเสาที่งามสง่าลำนี้พร้อมแล้วที่จะต้อนรับแขกทุกท่านเข้าสู่โลกของอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ เครื่องดื่มต้นตำรับผสานสมุนไพรและผลไม้เมืองร้อน ค็อกเทลจากรัมสูตรพิเศษ คราฟท์เบียร์ ไวน์ชั้นดี สปิริตระดับพรีเมียม และเมนูอาหารมากมายทั้งไทยและยุโรปรวมไปถึงอาหารทะเลและเมนูสไตล์ทาปาส

สิริมหรรณพ สามารถรองรับผู้มีเกียรติได้ราว 300 คน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ชั้นหลัก ๆ ประกอบด้วยชั้นบน(Upper Deck) และชั้นล่าง (Lower Deck) ที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยชั้นบนที่สามารถรองรับแขกได้ราว 100 คน เอื้อต่อการรับประทานอาหารเคล้าไวน์ในพื้นที่เปิดโล่ง เพื่อสัมผัสวิวสวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม เลือกอิ่มอร่อยกับอาหารพอดีคำหรือเมนูจานใหญ่สำหรับแบ่งปัน จึงเหมาะทั้งสำหรับกลุ่มครอบครัวและเพื่อนฝูง ด้านกราบขวาของเรือยังมีม้านั่งเรียงรายให้ซึมซับวิถีชีวิตริมแม่น้ำของแผ่นดิน พร้อมเพลงเฮ้าส์สร้างบรรยากาศจากดีเจที่สปินแผ่นกันสด ๆ ทั้งยังมีรายการบันเทิงอาทิวงดนตรีสด การแสดงและธีมปาร์ตี้มากมายตามแต่วันเวลา

นอกจากนี้ที่ชั้นบนยังมีห้องวีไอพี เดอะ บริดจ์ (The Bridge) รองรับได้สูงสุด 6 ท่าน มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารตั้งแต่ 3 ถึง 5 คอร์ส ที่ผสานรสชาติแบบไทย และยูโรเปียนอื่น ๆ เข้ากันอย่างลงตัว และจะต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ หากกัปตันอนุญาต แขกยังสามารถเปิดประตูเข้าสู่บาร์รัมที่ซ่อนตัวอยู่ เพื่อลิ้มรสรัมของชาวเรือที่เรียกว่า ท็อตส์ (tots) ซึ่งเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ที่นักเดินเรือได้รับอนุญาตให้ดื่มในแต่ละวัน

ส่วนของชั้นล่าง (Lower Deck) ประกอบด้วยพื้นที่ห้องโถงสามารถสำรองทั้งชั้นเพื่อเป็นห้องจัดเลี้ยง งานแต่งงาน หรือปาร์ตี้ที่มีความเป็นส่วนตัว ที่รองรับผู้มีเกียรติได้ถึง 120 คน และห้องรับรองส่วนตัวอีก 2 ห้องที่รองรับแขกได้ห้องละ 6 คนพร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่ม

“เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่เปิดตัวสิริมหรรณพให้ทุกท่านได้สัมผัส และพร้อมพาคุณย้อนกลับไปยังรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของไทยยุคหนึ่ง เพื่อมอบค่ำคืนแสนพิเศษและอีเวนต์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแก่แขกของเรา รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ผสานในวัฒนธรรมการเดินเรือแบบดั้งเดิมตามประวัติศาสตร์ไทย ไม่ว่าคุณจะมองหาสถานที่หรูหราสง่างามเพื่อดื่มกับคนรัก หรือสถานที่จัดงานในโอกาสพิเศษ สิริมหรรณพพร้อมแล้วที่จะพาคุณไปสู่การเดินทางที่น่าประทับใจ” มร. ไซมอน เบลล์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กล่าว

สิริมหรรณพพร้อมเปิดให้บริการทุกท่านที่ต้องการความพิเศษในทุกโอกาสสำคัญ อาทิ งานวิวาห์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว งานเลี้ยงฉลองสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้งแบบค็อกเทล และ กาลาดินเนอร์ รวมถึงการจัดงานอีเว้นท์ที่ต้องการความแตกต่างอย่างมีสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิค พร้อมมอบประสบการณ์ความอร่อยด้วยอาหารไทยเลิศรส และอาหารนานาชาติจากสุดยอดเชฟฝีมือคุณภาพ ตลอดจนบาร์ที่คุณสามารถดื่มด่ำความสุนทรีย์ด้วยเครื่องดื่มที่รังสรรค์โดยมิกซ์โซโลจิสต์มืออาชีพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นทางการเดินเรือจากอดีตที่เผยให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างของแต่ละประเทศและทวีป จึงเกิดเป็นเมนูเหล้ารัมต่าง ๆ ที่เสิร์ฟคู่กับช็อคโกแลตและผลไม้แห้ง ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้กับทุกท่านอย่างมิรู้ลืม นอกจากนี้สมาชิก แมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy) และ คลับ แมริออท (Club Marriott) ยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมายจากการใช้บริการอีกด้วย

ร่วมสัมผัสจิตวิญญาณของเอเชียทีค และเปิดประสบการณ์ความอร่อยบนเรือหรูท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้า พระยา รวมถึงเต็มอิ่มกับเสน่ห์ย้อนประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าในสิริมหรรณพซึ่งเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป (วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 00.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12.00 – 00.00 น.) ที่ท่าเรือ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อน สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ รวมไปถึงเรือรับส่งฟรีจากท่าเรือติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image