แพคริม กรุ๊ป เปิดตัว Result-based Innovation Solutions (RIS) โซลูชันสร้างคนตอบโจทย์ธุรกิจ

แพคริม กรุ๊ป เปิดตัว Result-based Innovation Solutions (RIS) โซลูชันหนึ่งเดียวที่บูรณาการโซลูชันด้านนวัตกรรมทั้งหลักการและกระบวนการในการสร้างนวัตกรและผู้นำผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมจนสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริงๆ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนนวัตกรรม (Innovative Culture) โดยมีเนื้อหาหลักการจากพันธมิตรระดับโลก อาทิ  FranklinCovey, DPI เช่น “Job to be Done : Customer Centric Innovation” ที่คิดค้นโดยปรมาจารย์ด้านนวัตกรรม Clayton M. Christensen เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจไทยในยุค Business Transformation โดยในงานนี้มีแขกรับเชิญที่เคยนำโซลูชันและบริการจากแพคริมไปทำจริงกับองค์กรในรูปแบบต่างๆ อย่างได้ผลลัพธ์มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ประกอบด้วย SCG, SCB และ Gosoftคุณแมนรัตน์ ประดิษฐ์วงศ์สิน Senior Consultant แพคริม กรุ๊ป กล่าวว่าสาเหตุสำคัญที่แพคริมซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการพัฒนาความเป็นผู้นำ (Leadership)  ให้กับองค์กรชั้นนำกว่า 1,000 แห่งตลอดช่วง  28  ปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัว “Result-based Innovation Solutions” หรือ “RIS” อย่างเป็นทางการในวันนี้  ก็เนื่องจากพันธกิจของแพคริมในการสร้างคนดีคนเก่งในแบบที่ตอบโจทย์ในการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (Business Results) ให้กับลูกค้า และในภาวะปัจจุบันนี้ “นวัตกรรม” เป็นองค์ประกอบหรือ “จิ๊กซอว์” ชิ้นสำคัญตัวหนึ่งที่ไม่มีไม่ได้แล้ว เพราะนวัตกรรมมีความสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน

ซึ่งแพคริมเชื่อว่าการสร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืน ต้องทำควบคู่บูรณาการไปด้วยกัน ระหว่างการสร้างนวัตกรที่ทำงานร่วมกันได้ดี (Collaborative Innovators) กับการพัฒนาผู้นำแห่งนวัตกรรม (Innovative Leaders) รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมที่เกื้อหนุน (Innovative Environment) ซึ่งรวมถึงโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กร กระบวนการและเครื่องมือ (Toolsets) โดยทั้งหมดนี้ แพคริมสร้างเป็น Framework ที่บูรณาการทั้ง soft และ hard skills ที่ครบถ้วนไปสู่การสร้างผลลัพธ์เรียกว่า PacRim Innovation Greatness Map เพื่อช่วยแก้ปัญหาจุดติดขัดต่างๆเกี่ยวกับนวัตกรรมในองค์กรให้ลูกค้าอย่างเห็นผลได้จริง

“วันนี้นิยามของ Innovations ไปไกลกว่าคำว่า  Inventors ไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ  Clayton M. Christensen ปรมาจารย์ด้านนวัตกรรมบอกว่า Innovation  ที่ประสบความสำเร็จ มาจาก Job to be done (ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าที่บางครั้งไม่สามารถบอกออกมาได้ตรงๆ) นั่นคือถ้าเราสามารถหา Job to be done ได้ชัดเจน โซลูชันของเราก็จะตอบโจทย์”จึงเป็นที่มาของการพัฒนา Result-based Innovation Solutions ที่แพคริม ได้บูรณาการโซลูชันด้านนวัตกรรมจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ อาทิ Customer Centric Innovation  จาก FranklinCovey, Systematic & Creative Thinking และ Strategic Innovation จาก Decision Processes International (DPI) , ตลอดจนการนำ Job to be done Innovation อันเป็น Framework ที่คิดค้นโดย Clayton M. Christensen มาเติมเต็มการทำ Design Thinking, Design Sprint ซึ่งแพคริมสามารถนำโซลูชันเหล่านี้มาทำให้ลูกค้า ทั้งแบบหลักสูตรมาตรฐานและการตัดวัดตัวประยุกต์โซลูชันตามโจทย์ของลูกค้าให้เหมาะสม และทำในรูปแบบทั้งการปรับ mindset การให้เครื่องมือ รวมถึงการทำโครงการนวัตกรรม การได้นำเสนอผู้บริหารจริงๆ เรียนรู้ ทดลอง ทำซ้ำ เป็น Result-base ที่วัด ROI (Return on Investment) ได้จริง ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์องค์กรในการสร้างนวัตกรรมและวัฒนธรรมองค์กรที่เกื้อหนุนนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงอย่างมีกลยุทธ์และเกิดความต่อเนื่องยั่งยืน

ดร.ศิรินทร์ชญา ปรีชาภัฎสกุล Consultant & Innovation Specialist แพคริม กรุ๊ป กล่าวว่า RIS จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรซึ่งจะนำมาสู่ประโยชน์ที่เชื่อมโยงตรงกับ  Business Results  ในสี่มิติคือ 1.การสร้าง pipeline  ของสินค้าและบริการใหม่  ด้วยกระบวนการมองหา Current Explicit Needs และ Future Implicit Needs ของลูกค้า  2.การขยายฐานลูกค้าใหม่และการรักษาฐานลูกค้าเดิม ด้วยกระบวนการสร้างนวัตกรรมที่ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและการทำความรู้จักกับ  Job to be Done ของลูกค้า  3. การสร้าง  Agile Teams และ 4. การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ

Advertisement

ดร.เธียรไชย ยักทะวงษ์ Internal Instructor, Center of Expertise, SCG กล่าวว่าเนื่องจาก SCG ได้ยึดถึงลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนนวัตกรรมต่าง ๆ  หลักสูตร Job to be Done ของแพคริมจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ได้นำมาใช้เสริมกับการทำ Design Thinking และ Business Model Canvas  นอกเหนือจากการพัฒนาคนทั้งในด้าน Leadership Skills และ Technical Skills ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง

ดร.สราวุธ หลิมไชยกุล Head of HR , Gosoft (Thailand) บริษัทในเครือซีพี ออลล์ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีและระบบไอทีของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven กล่าวว่า จากการสร้าง Innovative Culture และ Attributes 4 คุณลักษณะของ Gosoft ที่ต้องการเปิดกรอบความคิดของพนักงานและผู้บริหารให้ออกมานอกกรอบของไอที สู่การส่งมอบสินค้า บริการ หรือประสบการณ์ที่ลูกค้าพึงพอใจ หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าได้จริงๆนั้น ก็ได้นำเอาโซลูชันของแพคริมมาใช้ ทั้งในมุมของการพัฒนาผู้นำ และการใช้ Job To Be Done และ Design Sprint มาทำ Hackathon จนได้หลักการที่พนักงานนำกลับไปใช้จริง และทำซ้ำได้

คุณระวิวรรณ คุ้มทองมาก Vice President, Learning & Development, Digital Transformation COE, SCB Academy กล่าวว่าธนาคารไทยพาณิชย์ได้จับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาในการเปิดตัวโครงการ PMD 47 เพื่อช่วยอัพสกิลให้กับคนไทยผ่านทางแพลตฟอร์ม “พลเมืองดี(จิทัล)” ซึ่งแพคริมเป็นหนึ่งในพันธมิตรรายสำคัญที่ได้นำหลักสูตรที่เป็นเวิลด์คลาส อาทิ Customer Centric Innovation  และหลักสูตรผู้นำอื่น ๆ ในแบบกระชับ สนุก ผ่านหลักการออกแบบหลักสูตรที่มุ่งเน้นที่ความเข้าใจเบื้องต้น คือ Why What 80% และ How 20% เพื่อให้ผู้เรียนเห็นประโยชน์ เข้าใจง่าย เข้าใจนำไปใช้ได้จริง รวมทั้ง platform การเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถืออย่าง PacD มามอบให้กับคนไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image