Google เป็นเสิร์ชเอนจินที่ได้รับความนิยมเป็นอับดับต้นของโลกเลยก็ว่าได้ และยังเป็นอันดันหนึ่งในหลายๆ ประเทศ ทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย ญี่ปุ่น อยากรู้หรือต้องการหาข้อมูลเรื่องอะไร ก็เพิ่งกรอกคีย์เวิร์ดเสิร์ชได้เลย จึงทำให้มีการทำ SEO เกิดขึ้นเพื่อแย่งชิงพื้นที่หน้าแรกๆ กันเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้คนมองเห็น และเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย และเชื่อว่าตอนนี้คุณคงเริ่มกำลังสนใจเรื่องการทำ SEO อยู่ใช่ไหม? และคงสงสัยว่าสรุปแล้ว SEO คืออะไร ดีอย่างไร และต้องทำอย่างไรบ้าง? ซึ่งในวันนี้ก็จะมาพาคุณไปทำความเข้ากับการทำ SEO แบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ
SEO คืออะไร?
“SEO” หรือ “Search Engine Optimization” คือการทำให้หน้าเว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกๆ หรือหน้าที่หนึ่งบนหน้าผลการค้นหา (Search Result Page) เมื่อมีคนเสิร์ช Google ด้วยคีย์เวิร์ดหรือคำที่คุณต้องการ เช่น การเสิร์ชคำว่า ‘SEO Services’ จนทำให้คุณได้มาเจอกับเรา ซึ่งการทำ SEO นั้นก็จะประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมสำหรับการทำ SEO การใช้บทความที่มีคุณภาพมาช่วย การเพิ่ม Backlink ที่มีคุณภาพมายังเว็บไซต์ และอื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ในระยะยาวได้นั่นเอง โดยหลายๆ องค์การก็เลือกใช้บริการจาก SEO Services มาช่วยในเรื่องนี้
Search Engine Algorithm คือ?
เมื่อรู้จักการทำ SEO ไปแบบคร่าวๆ แล้ว ทีนี่เรามาทำความรู้จักกับ “Algorithm (อัลกอริทึม)” กันบ้าง ซึ่งมันก็คือระบบการจัดอันดับการแสดงผลใน Search Result Page (หน้าแสดงผลการค้นหา) ว่าจะให้เว็บไซต์ไหนอยู่หน้าที่เท่าไรในคีย์เวิร์ดไหนนั่นเอง โดย Algorithm จะทำการให้คะแนนเว็บไซต์ต่างๆ และจะมีการอัปเดตอยู่เสมอๆ หากเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพดี ก็มีโอกาสสามารถขึ้นมาอยู่หน้าแรกๆ ได้ทุกเมื่อ ซึ่ง Algorithm (อัลกอริทึม) ที่ใช้ในการให้คะแนนเพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google นั้นมีอยู่มากกว่า 100 ปัจจัยเลยทีเดียว แต่วันนี้เราได้ทำการสรุปให้แบบง่ายๆ ดังนี้
- ปัจจัยภายใน (On-page) เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ และเนื้อหาภายในเว็บให้เอื้อต่อการทำ SEO มากที่สุด เช่น
- โครงสร้างของเว็บไซต์ที่เอื้อต่อการเก็บข้อมูลของ Google
- จำนวนหน้าภายในเว็บไซต์
- ลิงค์เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์
- การเลือกใช้คำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด รวมถึงคุณภาพและปริมาณของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้
- ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์
- หน้าเว็บไซต์รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน
- ปัจจัยภายนอก (Off-page) หรือก็คือการทำ Backlink หรือลิงค์จากเว็บไซต์อื่นให้กลับมาที่หน้าเว็บไซต์ของเรา
- ปริมาณ Backlink ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
- คุณภาพของเนื้อหาและ Backlink ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
ประโยชน์ของการทำ SEO
- เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพราะยิ่งเว็บไซต์อยู่ในอันดับที่ดี อยู่หน้าแรกๆ ก็ย่อมมีโอกาสที่ผู้คนจะคลิกเข้ามาเยี่ยมชมมากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่หน้าหลังๆ นั่นเอง
- เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ แน่นอนว่าผู้คนที่ทำการเสิร์ชหาข้อมูลล้วนมีความต้องการอะไรบางอย่าง หาความต้องการนั้นเป็นความต้องการซื้อสินค้า หรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าก็ยิ่มทำให้เว็บไซต์ที่ขึ้นหน้าแรกๆ มีโอกาสในการขายได้มากกว่านั่นเอง
- โปรโมทเว็บไซต์ พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่ขึ้นหน้าแรกๆ จะเป็นที่รู้จักของผู้คนได้ง่ายเพราะเห็นง่าย และเห็นบ่อย เห็นซ้ำๆ ย้ำๆ ในคีย์เวิร์ดเดิมหรือใกล้เคียง ทำให้เป็นการโปรโมทแบรนด์ไปในตัว แถมหากอยู่หน้าแรกได้เครดิตความน่าเชื่อถือของข้อมูลก็ย่อมมีมากกว่าตามความรู้สึกของผู้เสิร์ช (Searcher) อย่างแน่นอน
- ลดค่าใช้จ่ายค่าโฆษณา บางธุรกิจสามารถเซฟค่าโปรโมตโฆษณาลงไปได้เยอะเลยหลังจากที่ทำโฆษณาแบบออฟไลน์ มาเป็นแบบออนไลน์แทน แถมยิ่งติดหน้าหนึ่งได้ยอดขายก็มีโอกาสพุ่งขึ้นสูงแบบรั่วๆ เพราะสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่าย และจำนวนมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า และบริการของคุณด้วย
เล่ามาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจและเห็นภาพรวมของ SEO กันพอสมควร สำหรับใครที่ยังงงๆ อยู่ ก็ไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะการทำ SEO นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ยะระเวลาและทำต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นหลายๆ บริษัทชั้นนำถึงเลือก SEO Services บริการ SEO ที่มีผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในการทำ SEO เข้ามาช่วยดูแลตั้งแต่การเริ่มทำ จนได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
