สิ่งดีๆที่เยาวชนได้รับจากค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE รุ่นที่ 24

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE เสด็จพระราชทานเกียรติบัตรแก่เยาวชนสมาชิก “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” รุ่นที่ 24 ณ เดอะไพน์ รีสอร์ท จังหวัดปทุมธานี

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง หรือ TO BE NUMBER ONE CAMP เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  มีแนวคิดเพื่อให้โอกาสและทางเลือกแก่เด็ก และเยาวชนที่เท่าเทียมกันจะได้รับการพัฒนาทักษะทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ไปพร้อมกับความสนุกสนานเพลิดเพลินมุ่งให้เยาวชนเรียนรู้อย่างผ่อนคลาย และมีความสุข ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ได้ประสบการณ์และมีเพื่อนใหม่ ทำให้เกิดสังคม เกิดเครือข่ายให้เยาวชน ได้ฝึกช่วยเหลือตัวเอง รู้จักปรับตัวในการอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยใช้กระบวนการกลุ่ม สร้างการเปลี่ยนแปลง จาก “ภายใน” เช่น การค้นพบความสามารถของตนเอง การนับถือ ภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเอง โดยให้เยาวชนเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจและชื่นชอบ มีอาจารย์หรือผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็น IDOL ของเยาวชน ใช้วิธีการสอนหรือฝึกฝนแบบไม่กดดันสอดคล้องกับแนวคิดของโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่เน้นแนวคิดการเรียนรู้สำหรับเยาวชนในลักษณะ Play and Learn ใช้กิจกรรมเป็นสื่อ       ให้เยาวชนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ เพื่อให้เติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ มีความคิดเชิงบวก ไม่ท้อถอยอะไรง่ายๆ มีความพยายาม รู้จักเสียสละ อดทน มีความภาคภูมิใจ และมั่นใจในตัวเอง สามารถดำเนินชีวิตต่อไป ในสังคมได้อย่างมีความสุข

Advertisement

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต ในฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่า TO BE NUMBER ONE CAMP กำหนดจัดขึ้นปีละ 2 ครั้งในช่วงปิดภาคการศึกษาโดยจัดสรรโควตา ให้กับเยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 12-24 ปีทั่วประเทศ ใช้ระยะเวลาเข้าค่าย 6 วัน 5 คืน สำหรับค่ายรุ่นที่ 24 นี้ มีเยาวชนในสถานศึกษาและชุมชน ทั้งจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูมิภาคทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งสิ้น 372 คน หลักสูตรและกระบวนการของ “ค่าย” มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาพฤติกรรม และทักษะต่างๆ ได้แก่ ทักษะการให้คำปรึกษาเบื้องต้น ทักษะการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เพื่อพัฒนาตนเองและกลับไปเป็นผู้นำจัดกิจกรรมให้กับเพื่อนๆ ในพื้นที่ทักษะการพัฒนาบุคลิกภาพ และภาวะผู้นำ รวมทั้งการพัฒนาความสามารถในกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สมาชิกสนใจ เช่น การแสดง การเต้น การร้องเพลง ศิลปะ ภาษา ดนตรี กีฬา เพื่อให้สมาชิกนำไปต่อยอดต่อไปในอนาคต

จากการประเมินผลพบว่ากิจกรรมที่ทำให้สมาชิกค่ายรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากที่สุดคือการแสดงความสามารถหน้าพระพักตร์และสมาชิกพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ทัศนคติ วิธีการทำงาน บุคลิกภาพ และสามารถนำความรู้ ทักษะและสมรรถนะที่ได้พัฒนาจากโครงการไปช่วยกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับตนเองและสังคมมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าพี่เลี้ยงพิเศษ ซึ่งเป็นเยาวชน ที่ผ่านกระบวนการเข้าค่าย และสมัครเข้ามาทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ในค่ายรุ่นต่อๆมามีพัฒนาการด้านต่างๆ ได้แก่ การเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต ความมีจิตอาสา และการเป็นแบบอย่างอันดีงามให้กับน้องๆ รุ่นต่อไปและเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม

นายอุดมทรัพย์ เดชคุณมาก “เตี๋ยว” TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่น 10 หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมค่าย  เล่าว่าแม้ว่าตนเองจะเคยผ่านการเก็บตัวในบ้าน IDOL มาแล้ว แต่มีความตั้งใจอยากมาหาความรู้เพิ่มเติมจากค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE เพราะมองว่าเป็นคนละแบบกัน การเก็บตัวที่บ้าน IDOL จะเป็นการอยู่ร่วมกับคนจำนวนหนึ่งที่มีการแข่งขันกัน อาจจะมีความเครียดอยู่บ้าง ขณะที่ค่ายนี้จะได้อยู่กับเพื่อนๆจำนวนมากเพราะมาจากทั่วประเทศ นอกจากจะรู้สึกสนุกแล้ว เรายังได้เรียนรู้การที่จะปรับตัวอยู่กับเพื่อนๆ ที่มาจากต่างถิ่นต่างที่กันแต่ก็รู้สึกเป็นกันเอง การอยู่ในค่ายยังทำให้ตนเองมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เช่น เราแนะนำเรื่องการเป็น IDOL ว่าควรเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง ในขณะที่เพื่อนบางคนมาจาก Dancercise ก็จะช่วยแนะนำการเต้นให้กับเรา มาเข้าค่ายครั้งนี้สิ่งที่ได้เพิ่มเติมนอกจากได้รับการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ แล้ว ยังได้ฝึกการเต้นได้ดียิ่งขึ้นจากที่เต้นไม่ค่อยเก่ง ชอบค่ายนี้มากๆ ครับ

นายดนุสรณ์ น้อยคำ “บิ๊กเอ็ม” จากมหาวิทยาลัยนเรศวร หนึ่งในเยาวชนผู้ร่วมกิจกรรมค่ายซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้กล่าวความในใจต่อหน้าพระพักตร์ เล่าว่าตนเองเป็นประธานชมรม TO BE NUMBER ONE มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มาร่วมค่ายครั้งนี้เพราะจะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับชมรม TO BE NUMBER ONE ของตนเอง เมื่อมาถึงค่ายสิ่งแรกที่ได้เห็นคือรอยยิ้มอันอบอุ่นของทุกคนในทุกๆ วัน การได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ บางอย่างที่เราไม่เคยชอบ เช่น การเต้นลีลาศ แต่พอได้มาเต้นลีลาศกับเพื่อนๆ กลับรู้สึกสนุกขึ้นมา จากเด็กที่เคยตื่นสายเรียนบ่าย ต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายเข้ากิจกรรมทั้งวัน แต่กลับไม่รู้สึกถึงความล้า มีแต่ความสนุกกับการเรียนรู้ทุกๆ วัน องค์ความรู้ที่ได้รับจากค่ายทั้งเรื่องระบบการทำงาน การตัดสินใจ การปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนาEQ เหล่านี้ ตนเองจะนำไปต่อยอดให้กับแกนนำ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับครอบครัวทูบีลูกนเรศของเรา ขอขอบคุณทูลกระหม่อมที่จัดตั้งโครงการ TO BE NUMBER ONE โครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชน โครงการที่สร้างสรรค์และพัฒนาสังคม ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่เกี่ยวข้องในการจัดค่ายในครั้งนี้ ผมจะขอสานต่อพระปณิธานของทูลกระหม่อม เป็นคนเก่งและดี  เป็นกำลังในการลดปัญหายาเสพติดของสังคมสืบ

นายศรายุทธ อินทปัจ “โอเว่น” เยาวชนชายจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมค่าย เล่าว่าตนเองเคยหลงผิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนถูกจับและถูกส่งไปควบคุมตัวและบำบัดอยู่ในสถานพินิจฯ เพื่อนๆ ได้ชักชวนให้เข้าร่วมชมรม TO BE NUMBER ONE กิจกรรมต่างๆ ของชมรมทำให้ตนเองเข้ากับเพื่อนได้ง่ายขึ้น มีความกล้าคิด กล้าแสดงออก มีความเป็นผู้นำมากขึ้น จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานชมรม แม้ตอนนี้ตนจะออกจากสถานพินิจฯ แล้ว แต่ได้รับโอกาสให้ทำงานเป็นฝ่ายป้องกันให้กับโครงการไทยเข้มแข็งที่สถานพินิจฯ มีหน้าที่รณรงค์ให้ความรู้เรื่องพิษภัยและโทษของยาเสพติดตามชุมชน หรือกลุ่มเด็กที่มีปัญหาและชักชวนน้องๆเข้าร่วมชมรม TO BE NUMBER ONE การมาเข้าร่วมค่าย ในครั้งนี้เพราะอยากได้ความรู้เพิ่มเติมเพื่อไปแนะนำและบอกต่อให้กับน้องๆ อยากฝากบอกน้องๆ เพื่อนๆ ที่หลงผิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดว่ายาเสพติดมันไม่มีอะไรดีเลย ถ้าเรากลับตัวได้ในตอนนี้ ยัง ดีกว่าเราคิดได้ในตอนที่สายไปแล้ว ผมอยากขอบคุณทูลกระหม่อม ที่ตั้งโครงการนี้ขึ้นมา ถ้าไม่มีโครงการนี้ วัยรุ่นอย่างพวกผมคงไม่มีวันที่จะเลิกใช้ยาเสพติดได้ครับ ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนดีในทุกวันนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image