RS GROUP คว้ารางวัล IDC DX Gamechanger ปี 2020 จาก IDC Thailand การันตีความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่โลกยุคดิจิทัล

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้นเกิดขึ้นในทุก อุตสาหกรรม และวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงปีนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดดิจิทัล ดิสรัปชั่นที่เร็วขึ้น หากองค์กรไม่มีการปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลง ธุรกิจก็อาจล่มสลายได้อย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งจากประวัติของ RS นั้นแสดงให้เห็นว่าเป็นองค์กรที่ได้ถูกเทคโนโลยีดิสรัปชั่นมาตลอดเวลา 40 ปี แต่กลับสามารถยืนหยัดและเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรต่อการความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลได้ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กร และความร่วมมือของคนในองค์กรที่สร้างความสุขให้ผู้คนผ่านความบันเทิงจากค่ายอาร์เอส พร้อมทั้งนำสินค้าคุณภาพ และบริการใหม่ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละกลุ่ม ภายใต้โมเดลธุรกิจที่เรียกว่า Entertainmerce จนทำให้ในวันนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ได้คว้ารางวัล IDC DX Gamechanger ประจำประเทศไทย ปี 2020 จาก IDC Thailand ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่ององค์กรที่มีความโดดเด่นในด้านการดำเนินการและประสบความสำเร็จในด้านของการปรับเปลี่ยนธุรกิจ (Business Transformation) โดยมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานและเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน (Digital Transformation)

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ผู้บริหาร RS ได้เปิดเผยว่าอาร์เอส กรุ๊ป ถือว่าเป็นองค์กรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับดิจิทัล ดิสรัปชั่น และได้ก้าวข้ามมาสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว จนได้รับการยกย่องจากทุกวงการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศว่าเป็นต้นแบบในการปรับเปลี่ยนธุรกิจ (Business Transformation) อีกทั้งยังได้กลายเป็นองค์กรผู้กำหนดทิศทางการตลาด (Market Shaper) โดยมีการใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนทุกธุรกิจ (Data-Driven Organization) ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจคอมเมิร์ซหรือว่าธุรกิจมีเดีย ด้วยการเปลี่ยนให้ผู้ชมหรือผู้ฟังกลายมาเป็นผู้ซื้อ จากการขายสินค้าภายใต้แพลตฟอร์ม RS Mall และ COOLanything และช่องทางทั้งของ RS และพันธมิตร ทั้งในช่องทางออนแอร์และช่องทางออนไลน์ ทำให้เรามีความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง สามารถที่จะเข้าใจลูกค้าของเราเองได้มากขึ้น ไม่ได้เป็นองค์กรที่ซื้อฐานข้อมูลลูกค้ามาจากที่อื่น แต่เป็นการสะสมฐานข้อมูลของลูกค้าจริงที่เคยซื้อสินค้าและใช้บริการของเราเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีฐานข้อมูลลูกค้าแล้วกว่า 1.5 ล้านราย และยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีทำให้อาร์เอส กรุ๊ป (RS GROUP) สามารถที่จะคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้รวดเร็วและตรงกับความต้องการ จนส่งผลทำให้รายได้ของธุรกิจคอมเมิร์ซในไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่ที่ 644 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ถึง 10%”

Advertisement

ในปัจจุบันนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องของการบริหารข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการรีแบรนด์ขององค์กร ทั้งยังสร้างทีมเทคโนโลยีของตนเองสำหรับการพัฒนาระบบแบบ In-House เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจและกลยุทธ์ของบริษัทฯ ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงที่สุด รวมถึงยังมีการพัฒนาทีม Data Analytics เพื่อดูแลและบริหารระบบข้อมูลรอบด้านของอาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งเทคโนโลยีที่บริษัทฯ ได้นำมาใช้ อาทิ ระบบ Avaya Contact Center System เพื่อดูแลเทเลเซลล์ ระบบ Salesforce เพื่อดูแลงานขายและบริหารลูกค้าสัมพันธ์ Infor Warehouse Management System เพื่อดูแลและจัดการคลังสินค้า และระบบ Predictive Dialer System เพื่อใช้ AI ในการบริหารและจัดการการโทรออกหาลูกค้า

นายสุรชัย ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าในอนาคต บริษัทฯ จะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าพร้อมกับการลงทุนและเตรียมการเพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย PDPA อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ก็ยังจะมีทีมงานด้าน IT Governance และ Risk and Compliance ที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ทุกฝ่ายว่า บริษัทฯ นั้นจะสามารถดูแลและบริหารข้อมูลของลูกค้าและส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการยกเครื่อง Enterprise Business Intelligence Dashboard ที่จะช่วยทำให้ทีมผู้บริหาร RS ในทุกระดับ สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของตนเอง เพื่อนำมาวิเคราะห์การทำงานของทีมได้อีกด้วย

Advertisement

ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีแผนงานเพื่อให้สามารถเข้าใจลูกค้าให้มากและละเอียดขึ้น เช่น การใช้ Artificial Intelligence (AI) เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนและแม่นยำขึ้น รวมถึงการเรียนรู้ลูกค้าในเชิงลึกเพื่อให้ได้รับข้อมูลในมิติต่างๆ ได้มากขึ้น การทำ Digitalization แปลงข้อมูลและกระบวนการที่ยังเป็น Paper-based ทั้งหมดให้เข้าสู่ระบบ Enterprise Portal เพื่อประสานงานข้อมูลและขั้นตอนการทำงานทั้งหมดขององค์กรเข้าด้วยกัน และการนำระบบ Voice Analytics มาใช้วิเคราะห์เสียงสนทนาทางโทรศัพท์

ทั้งหมดนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงและต่อเนื่องของธุรกิจ โดยข้อมูลของลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจยังคงมีความปลอดภัยสูงสุด ดังนั้น IDC DX Gamechanger ประจำประเทศไทย ปี 2020 จาก IDC Thailand จึงเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่เป็นการการันตีว่าการลงทุนเพื่อพัฒนาองค์กรในส่วนงานทั้งหมด และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีของ อาร์เอส กรุ๊ป นั้นดำเนินการมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ อาร์เอส กรุ๊ป นั้นเข้าสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของการเป็นองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กระดาษ (Paperless Organization) ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง ในแง่ของการแข่งขันทางธุรกิจ และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริหารและพนักงานในการทำงานเพื่อเข้าสู่ระบบ Self Service อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image