“ศิริราช” ชวนคนไทยสั่งจองเหรียญที่ระลึก ร.9 ในพิธีเปิดอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา

โรงพยาบาลศิริราช ถือโอกาสวันครบรอบ 133 ปี พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์แห่งแรกที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ในวันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นฤกษ์ดีเปิดใช้ “อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา” อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาคารหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีการรักษาขั้นสูง เพื่อให้ผู้ป่วยทุกระดับชั้นเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นศูนย์พัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ และผลักดันบุคลากรทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศ ต่อยอดความรู้ทางการแพทย์มีอย่างไม่สิ้นสุด

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ย้อนถึงความเป็นมาของอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษาว่า เนื่องจากจำนวนผู้ที่มารับบริการรักษาที่รพ.ศิริราช เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉลี่ยปีละ 5% โดยจากข้อมูลระบุว่า มีผู้ป่วยนอกเข้ารับการรักษาที่ศิริราชปีละ 3,500,000 ราย และผู้ป่วยในปีละ 84,000 ราย ซึ่งสวนทางกับระบบสาธารณูปโภคที่ให้บริการ ประกอบกับอาคารต่างๆ ภายในโรงพยาบาลมีจำนวนจำกัดและมีอายุเฉลี่ย 50 ปี การสัญจรภายในโรงพยาบาลไม่คล่องตัว เกิดปัญหาความแออัดและไม่เป็นระเบียบ

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงมีโครงการจัดสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเก่า 3 หลัง ประกอบด้วย ตึกหริศจันทร์-ปาวา, ตึกผะอบ นพ.สุภัทราระเบียบ และตึกเวชศาสตร์ป้องกัน เพื่อนำพื้นที่มาสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84  พรรษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตก่อสร้างอาคาร 25 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโรงพยาบาลศิริราช และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา” ซึ่งมีความหมายว่า อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นใหญ่ รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา

การก่อสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา เปิดระดมทุนในปี 2557 เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีกำหนดเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เมษายน 2564 งบประมาณในการก่อสร้างเบื้องต้นประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 2,000 ล้านบาท และเงินจากการระดมทุนโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคสมทบทุนรวม 3,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารได้ในระยะแรก โดยในระยะที่สอง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ระดมทุนเพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท และจัดสรรทุนส่วนหนึ่งจากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาเครื่องมือทางการแพทย์ อีกส่วนหนึ่งเป็นกองทุนเพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยยากไร้

Advertisement

รศ.นพ.นริศ อธิบายเพิ่มเติมว่า อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา มีพื้นที่ใช้สอยถึง 67,500 ตารางเมตร เป็นศูนย์บริการทางการแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ เวชศาสตร์ป้องกัน จิตเวชศาสตร์ และออร์โธปิดิกส์ ซึ่งย้ายจากตึกอัษฎางค์มาทั้งหมด และยังมีศูนย์ความเป็นเลิศต่างๆ มากมาย อาทิ ศูนย์รักษาโรคมะเร็งด้วยรังสีรักษา มีเครื่องฉายรังสีรักษาที่ทันสมัยทั้งหมด 5 เครื่อง จากเดิมมี 3 เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอ และผู้ป่วยต้องรอคิวการรักษาเป็นเวลานาน อาคารหลังนี้จะมีห้องไอซียู (ICU) เพิ่มขึ้น 62 ห้อง จากเดิมมีเพียง 30 ห้อง ทำให้โอกาสการรองรับและรักษาคนไข้เป็นไปได้อย่างเต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น

“เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเต็มศักยภาพแล้ว มีการประเมินไว้ว่า หนึ่งปีจะสามารถรองรับผู้ป่วยนอกได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 200,000 รายต่อปี และอาจรองรับได้มากถึง 400,000 รายต่อปี จากจำนวนเดิม 3,500,000 ราย และรองรับจำนวนผู้ป่วยในประมาณ 18,000 รายต่อปี จากจำนวน 84,000 ราย นับเป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้รับบริการทุกหมู่เหล่าอย่างเสมอภาคและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“อาคารหลังนี้เปรียบเสมือนพระราชมรดกสำคัญที่มอบให้กับประชาชนคนไทยผ่านการแพทย์การสาธารณสุข โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้น้อมนำพระราชประสงค์มาปฏิบัติและจะทำการดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ซึ่งนอกจากอาคารหลังนี้จะเป็นที่รักษาผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นเหมือนอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยภายในตัวอาคารทุกชั้นจะติดตั้งผลงานศิลปะจากศิลปินระดับชาติมากมาย ทั้งภาพจิตรกรรม และประติมากรรมที่ถ่ายทอดพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น” รศ.นพ.นริศ กล่าว

Advertisement

ที่ผ่านมาการระดมทุนโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งสองระยะประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ดำเนินการจัดสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ขณะนี้อาคารดังกล่าว ใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และมีครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพียงพอต่อการให้บริการ โดยมีกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 เมษายน 2564

รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกองทุนอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ยังได้เปิดกว้างการใช้ประโยชน์มากขึ้น ไม่เพียงแต่การจัดสร้างอาคารหรือจัดซื้อครุภัณฑ์ แต่ยังขยายไปยังการดูแลผู้ป่วยยากไร้ที่ไม่สามารถดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ นับเป็นการวางรากฐานการดูแลผู้ป่วยสามัญอย่างครบวงจร

ดังนั้น เพื่อเติมเต็มครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และเป็นกองทุนสำหรับผู้ป่วยยากไร้ อันจะส่งผลให้ผู้มารับบริการได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันช่วยเหลือแบ่งปันทุนทรัพย์คนละเล็กคนละน้อย เพื่อให้อาคารหลังนี้ได้ให้บริการได้อย่างเต็มศักยภาพ และการบริจาคนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งผ่านความปรารถนาดีไปยังผู้ป่วยยากไร้ในอนาคต

และในโอกาสที่เป็นมงคล ในพิธีเปิดอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา อย่างเป็นทางการ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดทำเหรียญที่ระลึก รัชกาลที่ 9 ประกอบด้วย เหรียญ 6 แบบ ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 9 ด้านหลังของเหรียญเป็นภาพอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของ รัชกาลที่ 9 ที่มีต่อการจัดสร้างอาคารหลังนี้

เหรียญที่ระลึก ทั้งหมด 6 แบบ ประกอบด้วย

–  เหรียญทองคำ (ทองบริสุทธิ์ 96.5%) ขนาด 3 ซม.  (999 เหรียญ)          ราคา 199,999   บาท

– เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ (เงินบริสุทธิ์ 95%) ขนาด 3 ซม.            ราคา     2,999   บาท

– เหรียญเงินธรรมดา (เงินบริสุทธิ์ 95%) ขนาด 3 ซม.                            ราคา     2,499   บาท

– เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ขนาด 3 ซม.                               ราคา       499   บาท

– เหรียญทองแดงธรรมดา ขนาด 3 ซม.                                              ราคา       199   บาท

– เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ขนาด 7 ซม.                              ราคา     3,499   บาท

โดยรายได้จากการบริจาคหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปสมทบกองทุน “อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา” รพ.ศิริราช เพื่อผู้ป่วยและเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ต่อไป

ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคและสั่งจองเหรียญทองคำที่ระลึกฯ สามารถเขียนใบแสดงความจำนงและเลือกหมายเลขกำกับเหรียญ (เลข ๑ ถึง ๙๙๙) โดยดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th/th จากนั้นติดต่องานประชาสัมพันธ์ รพ.ศิริราช เพื่อเลือกหมายเลขกำกับเหรียญ ได้ที่ 0-2419-7646 – 7 ในวันและเวลาราชการ

*** บริจาคเงินเพื่อจองเหรียญที่ระลึกฯ อีก 5 รูปแบบ ที่ศิริราชมูลนิธิ หรือสามารถบริจาคผ่านธนาคารต่าง ๆ ดังนี้

ชื่อบัญชี “อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา” (D3499)

  • ธนาคารกรุงเทพ สาขา รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เลขที่บัญชี  901-7-02699-9
  • ธนาคารกรุงไทย สาขา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เลขที่บัญชี  031-0-49552-0
  • ธนาคารกสิกรไทย สาขา ศิริราช เลขที่บัญชี  638-2-00888-8
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ศิริราช เลขที่บัญชี  016-4-37544-4

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ ตึกอำนวยการ ชั้น 1
รพ.ศิริราช โทร. 0-2419-7646-7 ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันและเวลาราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image