สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย จัดงานเสวนา “เจาะทิศทาง วางอนาคต อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย”

สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย จัดงานเสวนา “เจาะทิศทาง วางอนาคต อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย” มุ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมรับทราบถึงแนวโน้มของธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มในอนาคต ทั้งด้านการค้าปลีก-ค้าส่ง ตลอดจนการนำเข้า-ส่งออกไปยังต่างประเทศ ณ ห้องประชุม 1011 ชั้น 10 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วน โดยในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอัตราการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องนุ่งห่มออกไปยังต่างประเทศเป็นอันดับที่ 24 ของโลก อันดับ 10 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของอาเซียน โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป โดยเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกเครื่องนุ่งห่มคิดเป็นมูลค่าเพียง 10,500 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

Advertisement

“ปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในประเทศไทยกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อสู้กับคิด-19 โดยมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ บวกกับความคิดสร้างสรรค์จากนักออกแบบยุคใหม่ ผสานกับเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมฯ ยังให้ความสำคัญกับ การนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยต้องเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด หรือการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นการลดต้นทุนการผลิตที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ได้ผลกำไรมากที่สุด ตลอดจนปรับกลยุทธ์การขายจากหน้าร้านเป็นการเน้นจำหน่ายสินค้าผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่และสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องมาซื้อที่หน้าร้าน ลดจำนวนคนที่มาใช้บริการหน้าร้านลงตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19”

ผศ.ดร.ธรวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดมาแล้ว และปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยลดต่ำลง และคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะลับมาโตได้ในระดับ 3-4% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อุตสาหกรรมฯ ปรับตัวเข้าหาช่องทางการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น

Advertisement

“แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและโลกช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยมาจากการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแต่ละประเทศ ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลไทย จึงเชื่อมั่นว่าตัวเลขการส่งออกของอุตสาหกรรมฯ จะดีขึ้นอย่างแน่นอน”

ด้าน คุณพระขรรชัย ศรีภวาทิกุล ในฐานะนายกสมาคมชาวโบ๊เบ๊ ได้พูดถึงการปรับกลยุทธ์การขายของผู้ประกอบการในปัจจุบันว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เปลี่ยนรูปแบบการขายเป็นแบบ ‘Smart Wholesale’ เพื่อเป็นการหาฐานลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือ ตลอดจนวอนให้ภาครัฐเร่งสนับสนุนด้านการทำแพลตฟอร์มการค้า รวมถึงการทำ ‘Online Trade Mission’ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่อส่งออกหายไปจากตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ซื้อจากทวีปยุโรปที่หายไปถึง 100%

ขณะที่ภาคีเครือข่าย 2 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องนุ่งห่มชั้นนำในประเทศไทยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายของธุรกิจอย่างมหาศาล จึงจำเป็นที่จะต้องปรับกลยุทธ์การขายและช่องทางการจำหน่านสินค้าไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์มากยิ่งขึ้น

นายประสพ จิรวัฒน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนซ์ แอพพาเรล จำกัด บริษัทผู้ผลิตเสื้อกีฬาให้กับแบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์ อาทิ Nike, Adidas, Puma, Under Armour และ Lulu lemon ให้ข้อมูลว่า จากผลสำรวจ กลุ่มผู้บริโภคยังมีกำลังในการซื้ออย่างต่อเนื่อง เพียงแต่มีระยะเวลาการตัดสินใจซื้อมากขึ้น บวกกับการเปลี่ยนรูปแบบการซื้อไปสู่ช่องทางออนไลน์

“บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ปี 2564 ตลาดเสื้อผ้ากีฬาโลกจะกลับมาคึกคักและเติบโตได้ถึง 20% ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจด้านคุณภาพสินค้า มาตรฐานการผลิต การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในทุกมิติเพื่อเพิ่มประสิทธภาพ ตลอดจนคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการนำวัตถุดิบชีวภาพมาปรับใช้”

ฟากของ นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ด้านการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ อาทิ การเปิดโอกาสให้กับประเทสที่สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีกว่าเป็นผู้ผลิตและส่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายให้กับบริษัทฯ ตลอดจนการสวงหาช่องทางการทำตลาดใหม่ๆ โดยอิงกับนโยบายของภาครัฐ ส่งผลให้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บริษัทฯ เริ่มมียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย

สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ที่สนใจพัฒนาธุรกิจการค้าเพิ่มช่องทางส่งเสริมการตลาด สามารถติดต่อ ขอรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ได้ที่ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-681-2222 www.thaigarment.org

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image