เปิดโลกอนาคตการเรียนรู้ “Blended Learning” ยืดหยุ่นทันยุค อัพเดตทันโลก

โลกการเรียนรู้ยุคใหม่ต้องมีการผสมผสานและยืดหยุ่นสูงพร้อมปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาการศึกษาในลักษณะนี้เรียกว่า Blended Learning ในแวดวงการศึกษาระดับโลกเชื่อมั่นว่า Blended Learning ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากแต่ละรายวิชามีวิธีการเรียนที่เหมาะสมต่างกัน เช่น วิชาที่เหมาะกับการเรียนออนไลน์ เป็นการเรียนที่ต้องใช้สมาธิสามารถทบทวนเนื้อหาย้อนหลังและได้อัปเดตข้อมูลจากทุกมุมโลก ส่วนการเรียนที่ต้องเรียนในสถานที่จริงจะเหมาะกับเนื้อหาที่ต้องมีฝึกปฏิบัติ ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ หรือต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ต่างมีการศึกษาวิจัย Blended Learning ในการเรียนการสอนมาแล้วหลายปี

สำหรับประเทศไทย กล่าวได้ว่า Blended Learning เป็นยุคใหม่ของการศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีโมเดลที่น่าสนใจของสถาบันการศึกษาไทยที่ก้าวล้ำนำเทรนด์อยู่เสมออย่างมหาวิทยาลัยกรุงเทพกับการปรับหลักสูตรทุกคณะสาขาวิชามาใช้ Blended Learning โดยเริ่มพัฒนากระบวนการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบมาตลอดระยะเวลากว่าสามปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเป็นรูปแบบเฉพาะของวิธีการเรียนการสอนที่มีความยืดหยุ่นในการเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยีทันยุคสมัย และอัพเดตข้อมูลความรู้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผศ.สรรเสริญ มิลินทสูต รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ  มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เตรียมความพร้อมและลงมือพัฒนา Blended Learning มาระยะหนึ่งแล้ว การปรับตัวต้องเกิดขึ้นทั้งผู้เรียน ผู้สอน และสถาบันการศึกษา ซึ่งต้องใช้ growth mindset ในการรับมืออย่างเข้าใจ รวดเร็วและทันโลก ดังจะเห็นได้ว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไม่เคยหยุดการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนใหม่ในลักษณะการผสมผสานวิธีการ มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้ทันสมัย สร้างองค์ความรู้ในคณะวิชาใหม่ และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถกำหนดแผนการเรียนด้วยตัวเอง เช่นการจัดการเรียนรู้ iFIT (Individual Future Innovative Learning of Thailand) ภายใต้การดูแลของคณาจารย์ที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้ให้คำชี้แนะ

Advertisement

การเรียนรู้ในรูปแบบ Blended Learning ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือที่เรียกกันว่า BU Blended เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความสนใจที่แตกต่างของผู้เรียน โดยมีขอบข่ายที่เปิดกว้างกว่า Blended Learning ทั่วไป เนื่องจากผสมผสานการเรียนรู้ทั้งออนไลน์และออนไซต์ ที่เน้นการเรียน Active Learning ด้วยกระบวนการต่างๆ ที่มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เช่น การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning/ Case Study) การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน (Task-based Learning) การจัดการเรียนรู้แบบเน้นวิจัย (Research-based Learning) เป็นต้น

Advertisement

มหาวิทยาลัยกรุงเทพมุ่งเน้นให้นักศึกษาสร้างประสบการณ์เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์จริงที่มืออาชีพใช้กันในแวดวงธุรกิจมาเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมการอัพเดตข้อมูลความรู้ทันยุคเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ใหม่จากทั่วทุกมุมโลก ความพิเศษของ BU Blended จึงประกอบด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่

1) Online Lecture เรียนที่ไหนก็ได้ 2) Online Tutorial จัดให้ทั้งกลุ่มย่อยและรายบุคคล 3) Home Studio ทุกที่เป็นห้องเรียนและสร้างสรรค์งาน แม้การใช้สถานที่ เครื่องมืออุปกรณ์ ห้องแล็บภายในมหาวิทยาลัยยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ แต่เมื่อเพิ่มเติมการทำHome Studio เชื่อมต่อเทคโนโลยี open platform จากมหาวิทยาลัย ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากสิ่งใกล้ตัวมาทำโปรเจ็คไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการด้านทัศนศิลป์ จัดแสดงโครงการศิลปะการแสดง ถ่ายทำภาพยนตร์ ฯลฯ   4) Onsite Experienceเรียนที่แคมปัสแล้วยังจัดให้มีประสบการณ์เพิ่มเติมนอกแคมปัสด้วยเช่น การทำงานร่วมกับบริษัทและองค์กรที่เป็นพันธมิตร หรือแม้แต่สถานที่ใดก็ตามที่ผู้เรียนและผู้สอนเห็นตรงกันว่าเหมาะสำหรับการเข้าไปหาประสบการณ์ 5) Masterclassไม่มีข้อจำกัดด้านระยะทางในโลกที่เชื่อมโยงด้วยเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มหาวิทยาลัยสามารถสรรหาผู้เชี่ยวชาญทั้งในระดับประเทศและระดับโลกมาเป็น Guess Speaker โดยอาจารย์ผู้สอนทำหน้าที่เป็นเมนเทอร์ (Mentor) ร่วมกับมาสเตอร์ เปิดโลกการเรียนรู้ในมุมมองที่เปิดกว้างและเป็นสากล

การเรียนรู้แบบนี้เปิดโอกาสให้ทุกคณะสาขาวิชาสามารถออกแบบเนื้อหาสาระและวิธีการเรียนรู้ได้อย่างอิสระโดยใช้กระบวนการเรียนการสอนหลากวิธีการหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโมดูลรายวิชาข้ามศาสตร์ข้ามคณะวิชา มีทั้งการเรียน onsite ซึ่งทุกที่ใช้เป็นที่เรียนได้ ผสมผสานการเรียน online ซึ่งมีหลายรูปแบบทั้งการเล็คเชอร์ ติวเตอร์ ห้องเรียนนำเสนอผลงาน และมาสเตอร์คลาสจากมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักศึกษาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น Blended Learning จึงไม่ได้เป็นเพียงการเรียนรู้ที่ตอบสนองความสนใจของผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังตอบรับกับรูปแบบของอาชีพในอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เพราะเป็นการเรียนรู้โดยใช้ลักษณะงานอาชีพเป็นโจทย์หลักเพื่อจัดรูปแบบการเรียนว่าผู้เรียนต้องเรียนรู้อะไร และสามารถหาความรู้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง เป็นการสร้างโอกาสใหม่สำหรับงานอาชีพในอนาคต

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image