“อัยยวัฒน์”นำครอบครัว“ศรีวัฒนประภา”สร้างชื่อในเวทีโลกครั้งใหม่ “เลสเตอร์ซิตี้”คว้าที่1เจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีกตอกย้ำพลังธุรกิจไทย

นักธุรกิจไทยภายใต้การนำของ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 สื่อใหญ่ในยุโรป www.givemesport.com ประกาศคุณสมบัติอันโดดเด่นให้ครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” ได้รับการยกย่องจากวงการฟุตบอล “พรีเมียร์ ลีก” ให้เป็น “เจ้าของสโมสรฟุตบอล ติดอันดับ 1” ในฐานะของผู้ดูแลบริหารโดยใช้หัวใจมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับแฟนบอล สร้างประโยชน์เพื่อสังคม พัฒนากีฬาสู่ความเป็นอาชีพอย่างแท้จริง มากกว่าการมุ่งหวังทำรายได้ในเชิงธุรกิจอย่างเป็นกอบกำจากการซื้อขายนักเตะ ซึ่งเป็นจุดเด่นสร้างความเชื่อถือศรัทธานับตั้งแต่จุดเริ่มการเป็นเจ้าของสโมสรมาจนถึงปัจจุบันได้ดูแลรักษาคุณสมบัติดังกล่าวไว้ได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะการสร้างผลงานสำคัญตอกย้ำให้แฟนบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยกย่อง “ครอบครัว : ศรีวัฒนประภา” คือผลงานที่คงอยู่ในความทรงจำของโลกมาจนถึงทุกวันนี้ จากการนำทีมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ในฤดูกาลแข่งขันพรีเมียร์ ลีก 2015/2016 (ปี 2558/2559) ภายใต้การนำของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ผู้ล่วงลับไปแล้ว

เป็นประวัติศาสตร์โลก ที่ไม่อาจมีผู้นำสโสมรคนใดสามารถทำลายสถิติหรือลอกเลียนแบบความสำเร็จเช่นนี้ได้

Advertisement

จากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ทายาทได้เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสร พร้อม ๆ กับทำหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ในการบริหารจัดการสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้า “ต่อยอด” ให้ความสำคัญกับแฟนบอล รวมถึงขยายผลการชื่อเสียงของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งการพัฒนากีฬาอาชีพ และการสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม ผ่านทั้งพลังกีฬา (SPORT POWER) และพลังสินค้าชุมชน (Community Power)

ล่าสุด “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ได้นำทีมเดินทางทำโครงการคืนประโยชน์สู่สังคมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” เดินหน้าทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ภายใต้กลยุทธ์ Together Beyound Boundaries’ : รวมพลังพันธมิตรสนับสนุนศักยภาพคนไทย ตอบโจทย์การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน” รณรงค์พันธมิตรให้หันมาร่วมกันทำกิจกรรม โดยเลือกใช้วิธีการสื่อสารด้วยเทรนด์ใหม่ Hybrid Power ระดมทุกภาคีเครือข่ายผสมผสานความร่วมมือช่วยกันสร้างการเติบโตครอบคลุมทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านกีฬาและสินค้าชุมชนด้วย “พลังกีฬา : SPORT POWER และ และพลังชุมชน : COMMUNITY POWER”

Advertisement

โดยการเติม “พลังกีฬา : SPORT POWER” มอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาด 7 คน และลูกฟุตบอล ให้แก่ “โรงเรียนวัดมังคลาราม” อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช  ซึ่งถือเป็น 1 ใน 100 สนามฟุตบอล ตามเจตนารมย์ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งมุ่งมั่นสร้างพลังเยาวชนไทยให้เด็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกลในภาคใต้

ต่อด้วยการเพิ่ม “พลังชุมชน : COMMUNITY POWER”  เลือกผลิตภัณมัดย้อมสีธรรมชาติจากต้นน้ำ ของกลุ่ม “บ้านใบไม้” ใน “ชุมชนคีรีวง”  ที่มี  “นางอุไร ด้วงเงิน” เป็นหัวหน้ากลุ่มใบไม้ได้นำภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาพัฒนาสินค้าต้นแบบให้ผู้คนทั้งในประเทศ และทั่วโลกได้สัมผัสวิถีชีวิตกับธรรมชาติ ผ่านโครงการ From Leaves to Living Thai Dye Collection” สร้างสรรค์การผลิตของที่ระลึกคุณภาพดี มาวางจำหน่ายที่  “เดอะ ซิตี้  แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

ตลอด 4 ปี ในการจัดทำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สามารถกระจายประโยชน์คืนสู่สังคมให้พื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ 77 จังหวัด ได้ครอบคลุมมากถึง 4,000 โรงเรียน กว่า 2,000 ชุมชน

“อัยยวัฒน์” ทายาทของครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของ “สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้” สามารถทำให้เป็นมากกว่าสโมสรกีฬาฟุตบอล ที่พร้อมจะเพิ่มประโยชน์สาธารณะทำหน้าที่เป็น “เครือข่าย” เชื่อมโยง “โลกกับเมืองไทย” ได้แบบไร้พรมแดน ทั้งในมิติของกีฬา สินค้า และเมืองแห่งรอยยิ้ม Thailand Smile With You ซึ่งพร้อมเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก

การสั่งสมชื่อเสียงด้วยผลงานดี ๆ เมื่อโอกาสมาถึงภาพจำในความเป็น “นักธุรกิจไทย” ภายใต้ชื่อ “คิง เพาเวอร์” และ “เจ้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้” จะช่วยกระตุ้นเตือน ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ให้คิดถึง “ประเทศไทย” และพร้อมจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน

สำหรับอันดับ “เจ้าของสโมสรฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก” ที่ได้รับการจัดอันดับล่าสุดเดือนเมษายน 2564 จาก www.givemesport.com เรียงตามลำดับทั้งหมด 20 อันดับ ประกอบด้วย

   1. ครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” นำโดย นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ : The Srivaddhanaprabha family (Leicester City)

  1. Guo Guangchang (Wolverhampton Wanderers)
  2. Nassef Sawiri and Wes Edens (Aston Villa)
  3. Tony Bloom (Brighton and Hove Albion)
  4. Farhad Moshiri (Everton)
  5. Andrea Radrizzani (Leeds)
  6. Mansour bin Zayed Al Nahyan (Manchester City)
  7. Gao Jisheng (Southampton)
  8. Guochuan Lai (West Brom)
  9. Shahid Khan (Fulham)
  10. Roman Abramovich (Chelsea)
  11. Steve Parish, Josh Harris and David Blitzer (Crystal Palace)
  12. Abdullah bin Musa’ad bin Abdulaziz Al Saud (Sheffield United)
  13. Alan Pace (Burnley)
  14. Daniel Levy (Tottenham Hotspur)
  15. David Gold and David Sullivan (West Ham)
  16. Mike Ashley (Newcastle United)
  17. Stan Kroenke (Arsenal)
  18. John W. Henry (Liverpool)
  19. The Glazer family (Manchester United)

เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image