ความสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี แคทเธอรีน เฉิน รองประธานอาวุโสและคณะกรรมการบริหารของหัวเว่ย

28 พฤษภาคม 2564 – ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โลกของเราต้องเจอกับความท้าทายอันใหญ่หลวง รวมไปถึงความไม่แน่นอน และความยุ่งยากหลายประการ โรคระบาดนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วโลกและส่งผลต่อชีวิตของพวกเราในแทบจะทุกมิติ อิสระในการเดินทางท่องเที่ยว ชีวิตการทำงาน หรือการพักผ่อนหย่อนใจก็ต้องเปลี่ยนไปหมด ระบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การทำงานนอกออฟฟิศกลายเป็นวิถีใหม่ชั่วข้ามคืน การเปลี่ยนแปลงในเชิงดิจิทัลทั่วโลกได้ถูกเร่งให้เกิดเร็วขึ้น ทำให้เราไม่สามารถมองข้ามบทบาทของดิจิทัลที่มีต่อภาคเศรษฐกิจได้เลย

วิถีชีวิตใหม่ได้ทำให้เราหันมาให้ความสำคัญและสร้างรากฐานให้กับความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยี ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานร่วมกันและการสร้างสรรค์นวัตกรรม อันที่จริงแล้วความเชื่อมั่นที่เรามีต่อกันนั้นมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งดิฉันเชื่อว่าอิทธิพลที่ทั้งภาคสังคมและเทคโนโลยีมีต่อกันนั้นจะเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในทศวรรษหน้านี้

การหลอมรวมของรูปแบบระหว่างภาคสังคมและเทคโนโลยี สะท้อนออกมาในสองรูปแบบ

รูปแบบแรกของการหลอมรวมระหว่างภาคสังคมและเทคโนโลยี สะท้อนมาจากวิธีที่เราเลือกที่จะควบคุมและใช้งานเทคโนโลยี แน่นอนว่าเทคโนโลยีดิจิทัลนั้นมีศักยภาพที่จะผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกมาหลายทศวรรษแล้ว แต่การใช้งานโดยไม่มีกฎเกณฑ์เข้ามาควบคุมนั้น จะไม่เอื้อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองและอิสระได้อย่างยั่งยืน

Advertisement

ดังนั้นแล้ว ภาครัฐและผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกต่างทำงานร่วมกันในการสร้างกรอบข้อบังคับเพื่อให้ผู้คนได้ใช้งาน รวมทั้งกระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมอย่างเหมาะสม ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจของเราเดินหน้าเข้าสู่ระบบดิจิทัลกันมากขึ้นนั้น จะก่อให้เกิดข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะต้องถูกส่งต่อ จัดเก็บ ดำเนินการ และสำรอง ดังนั้นข้อบังคับที่จะช่วยให้การใช้งานเทคโนโลยีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และจะต้องถูกออกแบบมาอย่างเป็นกลางและสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยได้อย่างต่อเนื่อง

เรายังคงต้องปรึกษากันอย่างต่อเนื่องเพื่อหาทางที่เหมาะสมที่สุด และความท้าทายอันใหญ่หลวงที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้จะส่งผลไปถึง ทั้งผู้กำหนดนโยบายและรัฐบาลที่จำเป็นจะต้องเดินให้ทันนวัตกรรม จะเห็นได้จากการที่ประเทศเยอรมนีได้นำเสนอกฎเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านไอทีชื่อ IT Security Act 2.0 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญ โดยกฎดังกล่าวมีกรอบข้อบังคับทางกฎหมายที่ชัดเจน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความปลอดภัยด้านไอทีสำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอนาคต เช่น เราจะมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นหนึ่งเดียวในการพัฒนา 5G จากผู้ให้บริการทุกราย ซึ่งความชัดเจนถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นที่พวกเราทุกคนต้องการ

การหลอมรวมที่สองของรูปแบบระหว่างภาคสังคมและเทคโนโลยีสะท้อนให้เห็นจากมาตรฐานที่เราเลือกใช้ ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกมีการเชื่อมต่อ และส่งผลถึงกันในแบบที่ผู้คนยุคก่อนคิดไม่ถึง และแน่นอนว่าความเกี่ยวโยงกัน ทุกสิ่งทุกอย่างจะยิ่งมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้นอีกในยุคหน้า ความสำเร็จของระบบเศรษฐกิจโลกในรูปแบบใหม่นั้นจะถูกสร้างขึ้นจากมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียว

Advertisement

อันที่จริงแล้ว มาตรฐานต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นนั้นไม่เพียงแต่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยหลักในการปกป้องผู้บริโภคอีกด้วย เช่น ถ้าหากบริษัทอย่างหัวเว่ยปราศจากคู่แข่ง ก็อาจจะเป็นผลดีต่อบริษัทแต่จะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคอย่างมหาศาลหากผลิตภัณฑ์ทุกอย่างต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากหัวเว่ยเท่านั้น มาตรฐานต่าง ๆ เป็นตัวบังคับให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตทางด้านเทคโนโลยี ตั้งแต่ยุคแรกของเทคโนโลยี การเติบโตขึ้นอยู่กับการเปิดรับมาตรฐานเทคโนโลยีจากทั่วโลก เช่น มาตรฐาน 2G ได้มอบบริการทางด้านเสียงและข้อความ มาตรฐาน 3G ได้เปิดโลกอินเทอร์เน็ตให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก เมื่อมาถึงยุค 4G ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากได้ รวมถึงสตรีมเนื้อหาได้บนอุปกรณ์มือถือ ส่วน 5G นั้น ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจยื่งขึ้นไปอีก โดยที่ยังมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น

มาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ นั้นเป็นศูนย์รวมของการมีปฏิสัมพันธ์ของภาคสังคมและเทคโนโลยีที่เห็นได้อย่างชัดเจน และทั้งคู่ก็มีคุณลักษณะสำคัญที่คล้ายกันสองประการ ประการแรกคือ ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยี ประการที่สองคือมาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ต่อเมื่อมีการนำไปปรับใช้ในวงกว้าง

เศรษฐกิจดิจิทัลจะยังคงเดินหน้าเปลี่ยนวิถีการค้าระหว่างกันของคนทั่วโลก ย้อนไปสมัยที่การค้าระหว่างประเทศยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา บรรพบุรุษของเราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และสร้างวิถีแห่งความเชื่อมั่นระหว่างคู่ค้า ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในวันนี้ก็เช่นกัน ที่จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันโดยมีเป้าหมายทางการค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

ระเบียบปฏิบัติอันเป็นที่ยอมรับร่วมกันทั่วโลกคือส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นนี้ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจของเรากำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ ระเบียบปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลเทคโนโลยี (technology governance) และการใช้ข้อมูลจะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในเชิงยุทธศาสตร์ต่อการค้าโลก การสร้างความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และวิธีที่ดีที่สุดที่จะสร้างความเชื่อมมั่นระหว่างผู้คนก็คือการมีข้อตกลงที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน

เมื่อเรากล่าวว่า “ความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญ” เราไม่เพียงหมายถึงความเชื่อมั่นต่อพาร์ทเนอร์ทางการค้าของเราเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความเชื่อมั่นที่ผู้ใช้มีต่อเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ด้วย องค์ความรู้ที่ว่าเทคโนโลยีได้รับการควบคุมดูแลอย่างเหมาะสม เป็นก้าวแรกที่สำคัญอันจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่ผู้คนจะมีต่อเทคโนโลยีนั้น อย่างไรก็ดี มีเพียงข้อบังคับที่ได้รับการยอมรับร่วมกันเป็นวงกว้างเท่านั้น ที่จะสร้างความเชื่อมั่นที่แพร่หลายได้ว่าเทคโนโลยีนั้น ๆ จำเป็นจะต้องนำไปประยุกต์ใช้งาน

มาตรฐานทางเทคนิคในระดับโลกก็สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความเชื่อมั่น เพราะจะเป็นส่วนที่ทำให้บริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้รับการนำไปใช้ในตลาดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นและแพร่หลายยิ่งขึ้น เช่นนั้นแล้วผู้คนจะสามารถพึ่งพานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ให้บริการข้ามพรมแดนได้โดยปราศจากอุปสรรคกีดขวาง ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของสหภาพยุโรปก็เกิดขึ้นมาจากการบริหารจัดการของตลาดภายในภูมิภาค

ทว่าความสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคดิจิทัลนั้นขึ้นอยู่กับการที่ข้อบังคับและมาตรฐานได้รับการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง หากข้อบังคับถูกนำไปใช้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว บางบริษัทอาจจะหลีกเลี่ยงที่จะค้าขายกับบางประเทศหรือเลี่ยงการค้าขายในประเทศนั้น ๆ เนื่องจากทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโลกมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เราเองจึงต้องทุ่มเทให้มากยิ่งขึ้นเพื่อหาทางที่ดีที่สุดให้การออกกฎระเบียบที่ยอมรับร่วมกันประสบความสำเร็จมากขึ้นในระดับโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและด้านเศรษฐกิจบนอุปกรณ์มือถือ (mobile economy) ของเราที่ต้องการให้เน้นเรื่องการเจรจาและความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าอธิปไตยทางดิจิทัลและไซเบอร์ได้รับการเคารพร่วมกันทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นว่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ได้รับการเคารพ และสร้างความเชื่อมั่นว่าข้อมูลต่าง ๆ ได้รับการส่งข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัยและมีระเบียบ

นวัตกรรมเฉพาะทาง การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ขยายตัวกว้างขึ้น และความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้น ต่างผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันมากขึ้นระหว่างพาร์ทเนอร์ทางเศรษฐกิจ ในทางกลับกัน สิ่งนี้ก็จะผลักดันให้ความปลอดภัยด้านการส่งผ่านข้อมูลที่มีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย การไหลเวียนของข้อมูลเหล่านี้คือห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ของเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต และเราจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องข้อมูลเหล่านี้

เช่นเดียวกันกับที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้ทำให้ประชากรหลายล้านคนพ้นจากความยากจน ห่วงโซ่มูลค่าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อความเจริญทั่วโลก เมื่อถึงเวลาที่การสร้างความเชื่อมั่นสำคัญยิ่งกว่าครั้งไหนในประวัติการณ์ หัวเว่ยก็ภูมิใจต่อสิ่งที่เราได้ทุ่มเทให้อนาคตทางดิจิทัลอันรุ่งโรจน์ หัวเว่ยมีบทบาทอย่างต่อเนื่องเสมอมาในการมีส่วนร่วมสร้างและปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุมทางดิจิทัลในเวทีโลก ซึ่งสำคัญยิ่งต่อการสร้างความเชื่อมั่นนี้ ข้อบังคับและมาตรฐานทางข้อมูลเหล่านี้จะไม่เพียงทำให้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะฟื้นตัวได้ในระดับที่สังคมโลกกลับคืนสู่สภาพเดิมและเศรษฐกิจกลับมาเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น แต่จะยังทำให้ผลประโยชน์อันสืบเนื่องจากความมั่งคั่งนี้กระจายออกสู่สังคมในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อครั้งที่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 การปิดพรมแดนนานาชาติและสถานที่สาธารณะทุกรูปแบบอาจเย้ายวนให้หลายคนเกิดความคิดชาตินิยมอันคับแคบ แต่ดูเหมือนว่าเราจะต่อต้านความเย้ายวนที่ว่านี้ได้เป็นอย่างดี เพราะสังคมของเรากำลังเริ่มเปิดออกอีกครั้ง และกำลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 ซึ่งเราต่างตระหนักกันดีว่าการสร้างความเชื่อมั่นนั้นสำคัญเพียงใด

สิ่งที่ทั่วโลกควรให้ความสำคัญในขณะนี้จะต้องเป็นการผลักดันให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรฐานเฉพาะทางที่ได้รับการยอมรับร่วมกันอย่างแท้จริง รวมถึงการควบคุมดูและและกรอบทางกฎหมายที่สะท้อนถึงค่านิยมและแนวปฏิบัติเฉพาะของแต่ละประเทศ การปฏิบัติตามสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลดล็อกการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะตอบโจทย์เศรษฐกิจโลกในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า หลักการที่ได้รับการยอมรับร่วมกันเหล่านี้จะก่อร่างสร้างฐานให้กับการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งเราจะร่วมกันทุ่มเทริเริ่มและพัฒนาต่อยอด การสร้างความเชื่อมั่นนี้จะเป็นฐานให้กับความสำเร็จร่วมกันของเรา เพราะความเชื่อมั่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง

เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อน โลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของ หัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร ทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com

ติดตามเราได้ที่

http://www.linkedin.com/company/Huawei

http://www.twitter.com/Huawei

http://www.facebook.com/HuaweiTechTH

http://www.youtube.com/Huawei

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image