ก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ เพื่อ “ชาวนาไทย” มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

 

“ข้าว” เป็นอาหารหลักที่มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างช้านานและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทว่าชาวนาไทยในหลายพื้นที่ยังคงมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และต้องเผชิญอุปสรรคที่หลากหลายในการประกอบอาชีพ อันเป็นเหตุมาจากราคาข้าวที่มีการผันผวน ปริมาณข้าวที่ผลิตได้ลดน้อยลง รวมถึงปัญหาภัยแล้งในประเทศไทยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ต่างเป็นปัญหาที่ท้าทายสำหรับชาวนาในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

ชาวนา 16 ครอบครัว บนพื้นที่ 80 ไร่ ซึ่งเป็นชุมชนรอบวัดทิพย์สุคนธาราม ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของกลุ่มคนที่ประสบกับความท้าทายในการทำนา เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ปัญหาด้านความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำ รวมถึงคุณภาพของดิน ทำให้ปริมาณผลผลิตแต่ละครั้งไม่มีความแน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ที่เข้ามาจุนเจือครอบครัว แต่ท่ามกลางปัญหาที่ต้องเผชิญ สิ่งหนึ่งที่สามารถสัมผัสได้จากชาวนากลุ่มนี้คือ ความตั้งใจจริงในการต่อยอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาให้ชุมชนก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง

Intouch Rice Project 1

Advertisement

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง  ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อเป็นการวางรากฐานและขับเคลื่อนให้ประชาชนและประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมไปถึงการดำเนิน “โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช” มาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชาวนาไทยให้ดีขึ้นผ่านการส่งเสริมการปลูกข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่ได้ดำเนินการใน   ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ในปีนี้ จึงได้ขยายผลโครงการสู่ชุมชนรอบวัดทิพย์สุคนธาราม อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่ห้า โดยเข้าไปสนับสนุนองค์ความรู้ การพัฒนากลุ่มอย่างครบวงจรตั้งแต่กระบวนการปลูก กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตข้าวหอมมะลิ รวมทั้งการนำองค์ความรู้ที่มีคุณค่าและภูมิปัญญาของกลุ่มมาต่อยอดและประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในมุมกว้าง เพื่อให้ชาวนาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

Intouch Rice Project 5

 

Advertisement

ด้วยตระหนักดีว่า การเพิ่มมูลค่า (Value-Creation) ให้แก่ข้าวในชุมชน ทั้งด้านคุณภาพ รูปลักษณ์ และการสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อขยายผลจากข้าวชุมชน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน อินทัช จึงได้เข้าสำรวจ วิเคราะห์สภาพพื้นที่ และปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของชุมชน ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มชาวนา ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง  โดยเริ่มต้นจากการเลือกใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ที่ปลูกมาต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวนาชุมชนห้วยกระเจา ผ่านการปลูกด้วยวิธีการธรรมชาติและปลอดสารเคมี และนำมาต่อยอดด้วยการบรรจุลงใน    แพคเกจจิ้งที่ดูทันสมัยและได้มาตรฐาน ซึ่งจากการพัฒนาและปรับเปลี่ยงวิธีการทำงานของชาวชุมชน ทำให้ได้ข้าวที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP (การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี) และเกิดผลสืบเนื่องตามมาคือตลาดที่ขยายใหญ่ขึ้น และช่องทางการขายที่หลากหลาย ซึ่งในปัจจุบัน มูลค่าข้าวที่ขายได้ต่อกิโลกรัมมีราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

“เรามีความเชื่อกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าว่าเราทำนาเพื่อกิน แต่อินทัชเข้ามาแสดงให้เห็นว่าการตั้งกลุ่มและดำเนินกิจกรรมร่วมกัน การสร้างผลิตภัณฑ์ และการหาช่องทางขาย จะสามารถนำมาปรับใช้และก่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มชาวนาของเราได้” นายโรจน์ศักดิ์ บุญมี ประธานคณะกรรมการโครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช จังหวัดกาญจนบุรี กล่าว

Intouch Rice Project 4

นอกจากการเสริมสร้างองค์ความรู้ และการเพิ่มมูลค่า อินทัช ยังได้จัดอบรมความรู้จากนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และการนำสมาชิกโครงการไปศึกษาดูงาน สนับสนุนทุนและอุปกรณ์จำเป็นในการผลิต รวมไปถึงการร่วมสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนชาวนาโดยกลุ่มสมาชิกโครงการฯ เพื่อเปิดโอกาสและสร้างเวทีให้ชาวนามีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมความรู้ และนำประสบการณ์ของชาวนาบริเวณใกล้เคียงมารวมกัน เพื่อต่อยอดและสร้างเป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม เพื่อให้เกิดชุมชนที่เข้มแข็ง และสามารถเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สร้างความแตกต่าง และเสริมศักยภาพให้แก่ชาวนาในพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาเยี่ยมชมได้อีกด้วย

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อินทัชยังคงน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักคิดในการดำเนินโครงการ ผสานประสบการณ์จากการทำโครงการที่ผ่านมาเข้ากับฐานทุนของท้องถิ่น พร้อมทั้งใช้ศักยภาพของบริษัทเข้าไปช่วยส่งเสริมให้เกิดกระบวนการทำงานที่มีองค์ความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญ และยิ่งไปกว่านั้น คณะผู้บริหารของอินทัชยังได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชน และเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ชาวบ้านด้วยตนเองอีกด้วย”

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

นายฟิลิป กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงแม้จะเป็นโครงการของอินทัช แต่มันคือชีวิตของชาวนาไทย ที่เป็นฝ่ายเลือกและให้ความไว้วางใจกับเรา อินทัชในฐานะที่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยมากว่า 33 ปี ตระหนักดีว่าเราต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาให้โครงการประสบผลสำเร็จ และให้ชาวนาไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา”

 

เกี่ยวกับ อินทัช

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช  เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิตอลคอนเทนต์ เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ด้วยการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงสร้างมูลค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม ผลจากความมุ่งมั่นพัฒนาทำให้ อินทัช ได้รับรางวัลและการรับรองต่างๆ มากมาย อาทิ รางวัล “สุดยอดหุ้นขวัญใจมหาชน” และ “หุ้นขวัญใจมหาชนกลุ่มเทคโนโลยี” สามปีซ้อน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ รางวัล “ผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม” (Best CEO Awards) และรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม (Best Company Performance Awards) ในกลุ่มที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากงาน SET AWARDS 2015 รวมไปถึงรางวัลระดับภูมิภาคอย่าง ASEAN Corporate Governance Awards 2015 และรางวัล Asian Excellence Recognition Awards 2015 จัดโดยนิตยสาร Corporate Governance Asia เมื่อไม่นานมานี้ อินทัช ยังได้รับรางวัล “นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม” (Best Investor Relation Award) ประจำปี 2558/2559 จาก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association หรือ IAA) และรางวัล “Investor’s Choice Award” จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยอีกด้วย

ปัจจุบันการลงทุนของอินทัชประกอบด้วย ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สาย ดำเนินงานภายใต้บริษัท แอดวานซ์  อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ธุรกิจดาวเทียม ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ อาทิ ไฮ ช็อปปิ้ง และโครงการ  อินเว้นท์ (InVent) เป็นต้น ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

 

www.intouchcompany.com     www.facebook.com/intouchcompany   http://www.twitter.com/philipctan

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image