ปภ.แนะเตรียมรถพร้อมขับอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝน…ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะการเตรียมรถให้พร้อมและข้อควรปฏิบัติในการขับรถช่วงฤดูฝนอย่างปลอดภัย โดยผู้ขับขี่ควรเช็กใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ ไม่แห้งกรอบ กระปุกน้ำฉีดกระจกต้องไม่รั่วซึม ระบบเบรกต้องหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย สัญญาณไฟต้องมีแสงไฟส่องสว่างทุกดวง ยางรถยนต์ดอกยางต้องละเอียด ร่องยางลึก ไม่มีรอยปริ แตก หรือบวม หากต้องขับรถในขณะที่ฝนตก ผู้ขับขี่ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ลดความเร็วลง เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าปกติ พร้อมเปิดใบปัดน้ำฝน ไฟหน้า-ไฟตัดหมอก จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนมากขึ้น หากขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ให้ขับรถช้า ๆ เพื่อป้องกัน  น้ำเข้าเครื่องยนต์ และหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านแอ่งน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดรถเหินน้ำ หากรถเกิดการลื่นไถล ให้ลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำแล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ รวมถึงเรียนรู้วิธีการใช้งานจะได้สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเบื้องต้นในช่วงฝนตกได้

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มีความห่วงใยประชาชนในการขับรถช่วงฤดูฝน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่เตรียมรถให้พร้อมขับขี่และ ข้อควรปฏิบัติในการขับรถช่วงฤดูฝนอย่างปลอดภัย ดังนี้ การเตรียมรถให้พร้อม ผู้ขับขี่ควรเช็กใบปัดน้ำฝน โดยเนื้อยาง ต้องไม่แห้งกรอบ สามารถกวาดน้ำได้สะอาดและไม่มีเสียงดังขณะใช้งาน กระปุกน้ำฉีดกระจกต้องไม่มีรอยรั่วซึม หัวฉีดน้ำ ไม่อุดตัน และหมั่นเติมน้ำอยู่เสมอ ระบบเบรกต้องหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย ขณะเหยียบเบรกไม่มีเสียงดังและรถไม่มีอาการปัด ส่วนสัญญาณไฟต้องมีแสงไฟส่องสว่างทุกดวง โคมแก้วครอบสัญญาณไฟสะอาดและไม่มีรอยขุ่นมัว ยางรถยนต์ ดอกยางต้องละเอียด ร่องยางลึก ไม่มีรอยปริ แตก หรือบวม และเติมลมยางให้มากกว่าปกติ หากต้องขับรถในขณะที่ฝนตก ผู้ขับขี่ควรขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงที่ฝนเริ่มตก เนื่องจากน้ำฝนผสมกับคราบดินโคลนและน้ำมันบนถนน ทำให้ผิวถนนเปียกลื่น และลดความเร็วลงไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นความเร็วที่สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยที่สุด และยังทำให้ยางยึดเกาะถนนและรีดน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หยุดรถได้อย่างปลอดภัย พร้อมเปิดใบปัดน้ำฝนตามระดับความเร็วที่เหมาะสมกับความแรงและประมาณฝนที่ตก เปิดไฟหน้า-ไฟตัดหมอก จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนมากขึ้น กรณีขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ให้ขับรถช้าๆ จะช่วยป้องกันน้ำกระเด็นเข้าเครื่องยนต์ รวมถึงหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านแอ่งน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดรถเหินน้ำ อีกทั้งไม่เบรกรถทันที เมื่อรถเกิดการลื่นไถล ให้ลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ อาทิ ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ แม่แรง ชุดอุปกรณ์ลาก พ่วง จูง ไฟฉาย สเปรย์ไล่ความชื้น รวมถึงเรียนรู้วิธีการใช้งานและตรวจสอบอุปกรณ์ฉุกเฉินให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานจะได้สามารถแก้ไขสถานการณ์ในเบื้องต้นเมื่อรถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉินในช่วงฝนตกได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image