รมว.แรงงาน ส่งทีมแพทย์ตรวจโควิด-19 แก่ชุดเฉพาะกิจฯ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนออกปฏิบัติภารกิจ

รมว.แรงงาน ส่งทีมแพทย์ตรวจโควิด-19 แก่ชุดเฉพาะกิจฯ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนออกปฏิบัติภารกิจปราบปรามคนต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศ

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล หัวหน้าคณะอำนวยการชุดเฉพาะกิจฯ พร้อมอธิบดีกรมการจัดหางาน ตรวจเยี่ยมการทำงานของทีมแพทย์ที่มาตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจ ด้านตรวจสอบ ปราบปรามและประชาสัมพันธ์นายจ้างไม่ให้ใช้แรงงานต่างด้าวเถื่อน

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ในฐานะหัวหน้าคณะอำนวยการของชุดเฉพาะกิจฯ ประสานทีมแพทย์จากสถานพยาบาลเอกชน เข้ามาตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 5 ชุด รวม 30 นาย พร้อมมอบนโยบายแก่คณะอำนวยการและชุดเฉพาะกิจฯ

Advertisement

ให้มุ่งเน้นสร้างการรับรู้การใช้แรงงานต่างด้าวถูกฎหมายกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการ เพื่อป้องกันมิให้มีการจ้างแรงงานผิดกฎหมายโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ตามข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สั่งการต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์อีกวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกำชับให้กระทรวงแรงงาน ร่วมกับ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจโรงงานเพื่อป้องกันปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย และให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที หากตรวจพบการกระทำผิด รวมทั้งกวดขันการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายตามพื้นที่แนวชายแดน

นายไพโรจน์กล่าวต่อไปว่า  ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปรามจับกุมและดำเนินคดีคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายฯ เป็นชุดที่บูรณาการระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมการจัดหางาน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งก่อนที่ชุดเฉพาะกิจดังกล่าวจะออกปฏิบัติการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีกับคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ตลอดจนนายจ้าง/สถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าว ทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และแรงงานในสถานประกอบการจึงกำหนดให้มีการตรวจคัดกรองเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยผลการตรวจวิเคราะห์เชื้อโควิด-19 พบว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 30 นาย หลังจากนี้จะออกปฏิบัติการตลอดเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่งหากตรวจพบนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี

Advertisement

“ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นหรือสงสัยว่ามีคนต่างด้าวลักลอบทำงานผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร 1694 หรือแจ้งเบาะแสโดยตรงที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน โทร 0-2354-1729” อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าว

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image