อย่าให้เชื้อโรคอยู่ในรถ… ตรวจเช็คกรองแอร์ คุณก็ทำได้ง่ายๆ!

รู้บ้างหรือไม่ รถยนต์รุ่นปัจจุบันมีกรองแอร์ใส่มาให้ด้วยแล้วนะ และถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมากมาย แต่คุณเคยรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของมันบ้างรึเปล่า เพราะอากาศภายในรถยนต์ที่คุณสูดเข้าไปทุกครั้งที่อยู่ในรถ มักจะผ่านกรองแอร์ตัวนี้มาก่อนทั้งนั้น

หากพูดถึงอายุการใช้งานกรองแอร์ ถ้าของที่มาจากศูนย์รถมาตรฐานต่างๆ อาจต้องเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน หรือไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร แต่ถ้ารู้สึกว่ามันดำ สกปรกมากแล้ว ไม่ต้องรอถึงระยะทางที่กำหนดก็เปลี่ยนใหม่ได้เลย หรือหากพบว่าขับมาจนถึงระยะที่ต้องเปลี่ยนแล้ว แต่กรองแอร์ยังไม่ค่อยสกปรกเท่าไหร่ จะถอดออกมาเป่าลมอย่างเดียวก่อนก็ได้ (แต่แนะนำว่าควรเปลี่ยนไปเลยทีเดียว ไม่งั้นอาจลืมเปลี่ยนได้) ซึ่งราคากรองแอร์ปัจจุบันนี้อยู่ที่ราคาประมาณ 150 – 700 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใช้แบบยี่ห้อดีๆ หน่อย อาจมีถึงหลักพัน ก็แล้วแต่จะชอบจะเลือกใช้กัน

สำหรับประโยชน์ที่จะได้ จากการติดตั้งกรองแอร์ก็คือ
-กรองฝุ่นละออง และเชื้อราในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
-ช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็นไม่ทำให้แอร์ตันจากฝุ่น ยืดระยะเวลาการล้างตู้แอร์
-ช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์ เนื่องจากตู้แอร์ไม่มีฝุ่น จึงสามารถทำความเย็นได้เร็วขึ้น ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานน้อยลง
-ลดปัญหาเสียงดังอี๊ดอ๊าดจากการถอด เข้า-ออก ของคอลโซลเพื่อล้างตู้แอร์ในรถ (รื้อออกมาล้าง ประกอบใหม่ อาจไม่แน่นเหมือนเดิม)

หากไม่อยากไปเปลี่ยนที่ศูนย์ อยากประหยัดงบ หรืออยากได้ของที่ดีกว่าศูนย์ ก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อกันตามร้านข้างนอก หรือตามเว็บไซต์มากมาย ส่วนขั้นตอนการเปลี่ยนกรองแอร์ก็ง่ายๆ เนื่องจากมาตรฐานของรถทุกรุ่น ช่องที่ใส่กรองแอร์มักจะอยู่ใต้เก๊ะเก็บของตรงผู้โดยสารข้างคนขับ (แต่บางรุ่นอาจจะอยู่บริเวณด้านหลังคอนโซลกลางใต้แอร์ หรือถ้าหาไม่เจอจริงๆ เปิดคู่มือรถรุ่นนั้นดูตำแหน่ง) เพียงแค่เราไขน๊อต หรือดึงสลักถอดเก๊ะออกมา ก็จะเจอกับช่องกรองแอร์ จากนั้นก็แกะ ดึง หรือแงะสลักออกมา ถอดกรองแอร์อันเก่าออก แล้วใส่อันใหม่เข้าไปแทนที่ และเสียบเข้าไปช่องเดิม ขันน๊อตกลับ ดึงสลักเก๊ะเก็บเข้าที่ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย ได้กรองแอร์อันใหม่มาใช้กันแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image