นายกฯ ควง มท. 1 ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ. อุบลราชธานี ชูโคกหนองนาสู่เศรษฐกิจ BCG

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะผู้บริหารกระทรวง เข้ากราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี พร้อมชื่นชม “ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา วัดป่าศรีแสงธรรม “ จาก โคก หนอง นา สู่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) “ทำน้อยให้ได้มาก” สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (15 ต.ค. 64) เวลา 10.30 น. ที่โครงการ “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์ “ โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา วัดป่าศรีแสงธรรม ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมรับทราบรายงานการดำเนินงานแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โครงการโคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม จากพระปัญญาวชิรโมลี โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นการนำความรู้ทางวิชาการมาบวกกับหลักธรรมเข้ามาใช้ในการดำเนินโครงการฯ พัฒนาพื้นที่ โคก หนอง นา จนเกิดผลเป็นรูปธรรม ประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมทั้ง ได้มีนำพลังงานทดแทนในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบ Internet of Things ( IOT) ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการดำเนินโครงการทั้งระบบ เพิ่มความรวดเร็ว ได้ประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน พร้อมพัฒนาต่อยอดขยายผลไปสู่ชุมชนด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอ ข้าราชการ นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการดำเนินโครงการแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน โคกอีโด่ยวัลเล่ย์ โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งได้น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ศาสตร์พระราชา และโครงการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาดำเนินโครงการฯ โดยเกิดเป็นโครงการพัฒนาแบบร่วมมือกัน ในลักษณะ “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน/ราชการ ซึ่งเป็นการสร้างพลังจากท้องถิ่นที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งจากพื้นที่ รวมทั้งโครงการ “โคก หนอง นา” นโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นที่จะ “ทำน้อยให้ได้มาก” มีประสิทธิภาพคุ้มค่างบประมาณและสามารถนำไปต่อยอดสู่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) ตามนโยบายของรัฐบาล สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ก่อให้เกิดประโยชน์ได้หลายประการ พร้อมขอให้มีการขยายการดำเนินการเรื่องพลังงานทดแทนให้มากยิ่งขึ้นตามศักยภาพที่มีอยู่ ควบคู่กับการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้มีการวางแผนเรื่องการบริหารจัดการขยะให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ชุมชนโดยรอบ

Advertisement

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” เป็นการสร้างพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่คนในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” จะทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น ทำให้มีแหล่งพื้นที่จัดเก็บน้ำฝนได้หลายล้านลูกบาศก์เมตร มีความมั่นคงทางอาหาร พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพรอีกมากมาย หากน้อมนำเอาหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน อันจะทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับนโยบายที่ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้มาดำเนินการ ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดี และได้รับเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี ที่ช่วยให้ภารกิจงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม โดยเกิดศูนย์การเรียนรู้ชุมชนต้นแบบ ( CLM ) ระดับตำบล ขึ้นในพื้นที่ของวัด และโรงเรียน ในโครงการโคกอีโด่ยวัลเลย์แห่งนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้ ก็ให้ความอนุเคราะห์ในการเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาคนที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ “ โคก หนอง นา โมเดล “ ถึง 11 รุ่น สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่า 1,100 คน มีฐานการเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง 9 ฐานเรียนรู้ที่ได้รับการสนับสนุน และฐานเรียนรู้เฉพาะด้านที่เหมาะสมกับภูมิสังคมอีกหลายฐาน และยังมีพัฒนาพื้นที่โครงการ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนของพระอาจารย์ร่วมกับทางคณะครูและนักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรม ที่ร่วมกันสร้างต้นแบบที่ดีในด้านพัฒนาและต่อยอดงานจากขั้นพื้นฐานไปสู่ขั้นก้าวหน้า มีการบูรณาการการเรียนรู้จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ของ สพฐ. เข้ากับ พื้นที่โคก หนอง นา ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาคนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับจากการเข้ามาเรียนรู้ในโครงการ ขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบในพื้นที่ตำบลของวัด มีผู้สนใจเข้าร่วมและดำเนินการปรับพัฒนาที่ดิน ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา ในลักษณะครัวเรือนต้นแบบ (HLM) อีกจำนวน 27 แปลง ซึ่งดูแลรับผิดชอบโดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ จากนโยบายของรัฐบาล ที่กำลังขับเคลื่อนงานด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ( BCG Economy Model ) และการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการเพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือภัยพิบัติ น้ำท่วมและน้ำแล้ง และการลงพื้นที่เยี่ยมชมแบบอย่างความสำเร็จของ รร. ศรีแสงธรรม และวัดป่าศรีแสงธรรม แห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ว่าการดำเนินงานที่ได้รับการคิด การพัฒนา และการลงมือทำอย่างจริงจังด้วยความรู้ความสามารถอันสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ เป็นไปตามภูมิสังคม สามารถสร้างความเจริญที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จให้เห็นว่า การนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา สามารถต่อยอดไปสู่รูปแบบการพัฒนาตามนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) ภายใต้การหนุนเสริมของภาครัฐและภาคเอกชน ส่งผลต่อการยกระดับความเป็นอยู่ของคนในชุมชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ ชีวิตมั่นคง ครอบครัวมั่งคั่ง ชุมชนยั่งยืน ได้อย่างแน่นอน

Advertisement

และในโอกาสนี้ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้นำเสนอแนวคิดและแผนงานโครงการที่จะได้ขับเคลื่อนในโอกาสอันใกล้นี้ต่อท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ภายใต้แผนพัฒนาโครงการที่มีชื่อว่า

“ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ( Sufficiency Economy Development Zone with BCG Economy Model) (SEDZ ; BCG Model) เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย พร้อมรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมน้ำแล้ง เพื่อเป็นการขยายผลจากตัวอย่างความสำเร็จของการดำเนินงานในขั้นต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางไปยังเขื่อนสิรินธร ต.นิคมลำโดมน้อย อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดอุบลราชธานี และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร และเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิงโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำหรือบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองวารินชำราบ พร้อมตรวจเยี่ยมการบรรเทาภัยและฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ที่บริเวณศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image