พฤติกรรมเปลี่ยนแบรนด์ต้องปรับ แล้วจะทำยังไงเมื่อโลกต้องขับเคลื่อนด้วยคน Gen Z

โลกเปลี่ยนไว เราต้องตามหรือจริงๆ เราเองสามารถเปลี่ยนโลกได้ ในยุคที่อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปไว การปรับตัวของแบรนด์นับเป็นเรื่องยาก ยิ่งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไวไม่แพ้กัน สวนทางกับการขยับที่ยิ่งใหญ่ยิ่งช้าของแบรนด์ ทำให้ระยะห่างระหว่างแบรนด์ และ คนรุ่นใหม่ที่มีไฟอยากเปลี่ยนโลกดูจะห่างไกลกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ

C2B คือคำตอบของโลกใหม่

บริษัทใหญ่ขยับตัวช้า และลงทุนสูง อยากตามโลกให้ทันทำไมไม่ให้ลูกค้าเป็นคนสร้างสินค้าให้ตัวเองไปเลยละ C2B คือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดสุดๆ เมื่อผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้าใจปัญหาผู้บริโภคจริงๆ และมาพร้อมความไฟแรง บริษัทเองแทนที่จะต้องเสียเงินทดลองจำนวนมหาศาล ก็ให้คนรุ่นใหม่มาช่วยซะเลย

Wildcat จึงเกิดขึ้น! เพราะนี่คือแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมต่อ Consumer ให้ไปเจอกับ Business ได้อย่างไร้รอยต่อ และช่วยต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาจริง เชื่อมต่อเกษตรกรและลูกค้าไม่ใช่แค่เปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายแต่เปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น

Advertisement

หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ว่า Wildcat ทำอะไร และเชื่อมต่อแบรนด์กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อเปลี่ยนโลกได้อย่างไรคงต้องยกเคสตัวอย่างโปรเจ็กต์ “Farmfluence”

แพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง Wildcat  และ Singha North America Co. Ltd. ที่สร้างขึ้นโดยคน Gen Z ที่อยากเชื่อมต่อเกษตกรไปหาลูกค้าได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม   แพลตฟอร์มนี้จะทำให้คนกินได้รู้ว่าใครขายอะไร และฟาร์มเป็นแบบไหน และรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะได้รับนั้นเป็นสิ่งที่กำลังเติบโตตามฤดูกาลและจะได้รสชาติที่ดีที่สุดส่งตรงถึงบ้าน และที่สำคัญทุกคนสามารถสนับสนุนเกษตรท้องถิ่นใกล้บ้านได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว

ท่ามกลางคน Gen Z ที่มีทั่วโลกทำไมต้องไทย

“คนรุ่นใหม่ที่ไทยนอกจากจะมีความคิดสร้างสรรค์ สนุกสนาน กล้าทดลองมีความอดทน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความถ่อมตัว นี่เป็นเสน่ห์ที่หาได้ยาก” คือเหตุผลที่ Melissa Lo Chief Executive Officer ของ Wildcats มองเห็นและเลือกไทยเป็นอีกจุดหมายสำคัญที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมให้กับโลกใบนี้ และเปิดตัวกับงาน #MYSUMMERSTARTUP ที่ถึงแม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังมีคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมสมัครกว่า 450 คน และ มีไอเดียนวัตกรรมสุดล้ำมาแข่งขันกันกว่า 235 ไอเดีย!

ซึ่งมีไอเดียล้ำจนชนะและกำลังจะเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะเป็นสองคู่หูจากทีม BestBefore ตัวแทนจากทีมไทยเสนอนวัตกรรมสุดล้ำเป็นแพลตฟอร์มที่ขายสินค้าใกล้หมดอายุ ไปพิชชิ่งกับ Wildcats

โดยไอเดียคือการอยากช่วยแก้ปัญหา foodwaste และเข้าใจถึงทั้งปัญหาของผู้ขายและความต้องการของผู้ซื้อโดยฝั่งผู้ขายเองก็อยากขายสินค้าให้ในราคาพิเศษ เพราะหากหมดอายุก็จำเป็นต้องทิ้ง ลูกค้าเองก็อยากซื้อสินค้าราคาพิเศษเพราะพร้อมที่จะนำสินค้าหรืออาหารนั้นไปทานให้หมดก่อนวันหมดอายุ ข้อจำกัดคือ ร้านค้าส่วนใหญ่มีสาขาที่จำกัดไม่มีบริการออนไลน์ ลูกค้าหลายคนก็ไม่สะดวกไปซื้อที่ร้าน

BestBefore เป็นแพลตฟอร์มที่จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อคนทั้งสองเข้าหากัน ร้านค้าก็สามารถขายสินค้าใกล้หมดอายุได้ง่าย ลูกค้าก็สามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ง่ายๆ วิน-วิน ทั้งลูกค้าและร้านค้า และสิ่งที่ชนะที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น “โลก” ของเรานั่นเองเพราะมันจะสามารถช่วยลดขยะที่ไม่จะเป็นต้องทิ้งไปอีกมากทีเดียวส่วนทีมอื่นๆ จากเวียดนามก็น่าสนใจไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็น Smart Food Container กล่องใส่อาหารสุดล้ำที่พาทีมชนะ Grand Winner กล่องอาหารที่มาพร้อม AI ช่วยถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสียได้ดีกว่าเดิมหลายเท่าหรือ Lend-E แพลตฟอร์มสุดล้ำที่ชวนคนมาเช่าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในครัว ดีกว่าซื้อใหม่สำหรับคนที่มาทำงานจากต่างประเทศหวังลดปัญหา E-WEST

จุดประกายความฝัน และต่อยอดให้เป็นจริง คืองานของ Wildcats

#MYSUMMERSTARTUP เป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ได้ผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ แต่ Wildcats ไม่ได้มีเป้าหมายแค่การจัดประกวดไอเดียแล้วจบไป แต่เป้าหมายคือการช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีไฟมีไอเดีย ได้เจอกับองค์กรที่มีความต้องการจะเปลี่ยนโลกนี้และมีทุนที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ทำไอเดียนั้นให้เกิดขึ้นจริงได้โดยวางเป้าหมายว่าจะสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้ได้ 3 ล้านคนภายใน 3-5 ปี และสามารถทำให้เกิดเป็นธุรกิจขึ้นจริงอย่างน้อย 3,000 รายให้ได้ภายใน 3 ปี  จะเห็นว่าเป้าหมายของ Wildcats คือการเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่กับบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อที่จะสามารถขับเคลื่อนโลกไปด้วยกัน  คนรุ่นใหม่ต้องการเข้าถึงทุน บริษัทขนาดใหญ่ต้องการความไวในการปรับเปลี่ยน และใช้งบประมาณน้อยลงเรียกว่าเป็นการร่วมงานกันแบบ WIN-WIN ทั้งคู่เลยทีเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image