“TCEB”ชูข่าวดีปี’66โอกาสใหม่โกยไมซ์โลกเข้าไทยโตแรง เอ็กซิบิชั่น15งาน-อินเซ็นทีฟอื้อ‘จีน-อินเดีย’กรุ๊ปหมื่นคน

TCEB”แจกข่าวดีปี’66โอกาสในไมซ์ในเวทีโลกโตแรง “เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์” เฮลงทุนในไทยกว่า15งาน  UFI หนุนไทยฮับเอเชียเด่น 4 ปัจจัย “เปิดศูนย์ประชุมใหม่เพียบ-โลจิสติกส์สะดวก-ศูนย์รวมอุตพลังงาน/เครื่องสำอาง-รัฐบาลชู BCG Model” เม.ย.66 เป็นต้นไป “ไมซ์อินเซนทีฟ” จีน อินเดียกรุ๊ปละหมื่นคนทะลักเข้าไทย ได้กำลังซื้อตลาดไมซ์คุณภาพเพียบ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2566 ได้เห็นโอกาสไมซ์ไทยในตลาดโลกหลังเข้าร่วมงานประชุมGlobal CEO FORUM 2023 ของสมาคมจัดการแสดงสินค้าโลก หรือ UFI : The Global Association of The Exhibition Industry เมื่อ 2-4 กุมภาพันธ์ 2566 กรุงลิสบอน ประเทศโปตุเกส ซึ่งมีตัวแทนระดับบริหารแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องกับงานจัดนิทรรศการแสดงสินค้าหรือ “Exhibition” โดยมีตัวแทนจากประเทศแถบเอเชียอย่าง ทีเส็บตัวแทนประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง เข้าร่วมและเน้นบุกตลาดเอ็กซิบิชั่นเป็นหลัก

ตามยุทธศาสตร์ทางสมาคม UFI ได้กำหนดเกณฑ์ประเทศเข้าร่วมได้จะต้องอยู่อันดับไม่เกิน 8 ของเอเชีย ปัจจุบันหมวดเอ็กซิบิชั่นไทยอยู่อันดับ 7 จึงได้เข้าร่วมประชุมด้วยพร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศและได้พบกับผู้บริหารสูงสุดของบริษัทออร์กาไนเซอร์รายใหญ่ของโลกอย่าง LEED และInforma รายใหญ่สุด หรือ DMG ของอังกฤษ ต่างแสดงความสนใจจะมาลงทุนในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

Advertisement

ตัวอย่างมีออร์กาไนเซอร์พร้อมนำเงินลงทุนดึงเอ็กซิบิชั่นด้านพลังงานทำอยู่แล้วทุกปีในตะวันออกกลางขยายมาจัดเพิ่มในไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเอ็กซิบิชั่นแห่งเอเชีย เป็นโอกาสดีมีศักยภาพ 4 ปัจจัยประกอบด้วย

ปัจจัยที่ 1 ความพร้อมเรื่องศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ หรือเซ็นทรัล เวิลด์ และไอคอน สยาม

Advertisement

ปัจจัยที่ 2 ในกรุงเทพฯ มีครบวงจรทั้งศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ระบบโลจิสติกส์เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบนดินใต้ดิน และอื่น ๆ

ปัจจัยที่ 3 กำลังเป็นจุดสนใจของธุรกิจเทรนด์โลก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจพลังงาน สินค้าคอสเมติกเครื่องสำอางค์  ตอนนี้แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมเตรียมย้ายฐานนำงานมาจัดในไทยเพิ่มขึ้น

ปัจจัยที่ 4 ไทยประสบความสำเร็จจากการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ BCG MODEL โดยรัฐบาลยืนยันชัดเจนในการประชุม APEC FORUM 2022 ทำให้เกิดแรงดึงดูดเรื่องโมเดลทางด้านการลดโลกร้อนรักษาสิ่งแวดล้อม

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุม Global CEO FORUM 2023 ยังได้เห็นสัญญาณไมซ์ในภูมิภาคเอเชียหลังสถานการณ์โควิดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะแข่งขันกันสูงมาก ทั้งจีนและฮ่องกงประกาศอัดฉีดแคมเปญดึงตลาดไมซ์กันอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นปี แต่ยังคงขาดแคลนแรงงานไมซ์เช่นเดียวกับไทย จึงต้องวางแผนกับเอกชนทั้งสมาคมจัดแสดงสินค้านานาชาติ (TEA) หน่วยงานภาครัฐ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และออร์กาไนเซอร์ รักษางานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ที่จัดต่อเนื่องในไทยมาตลอดไว้ให้ได้

โดยจะใช้โมเดลงานที่ประสบความสำเร็จอย่าง “THAIFEX” งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งทางกรมส่งเสริมการส่งออกจับมือกับออร์กาไนเซอร์ต่างชาติขยายจากงานขนาดกลางเป็นขนาดใหญ่ใช้พื้นที่ทั้งหมดในอิมแพคเมืองทองธานี ประการสำคัญพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางงานซื้อขายอุตสาหกรรมอาหาร วัตถุดิบอาหาร และเครื่องดื่ม เต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับ “งานแสดงสินค้าเครื่องสำอาง” ในฮ่องกงใช้ศูนย์แสดงสินค้าแต่ละครั้งทั้งหมด 7-8 ฮอลล์

หรือ “งานพลังงาน” เพราะคนกำลังโหยหาความรู้เรื่อง BCG เศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว ทางไทยมีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เอกชนดำเนินการอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ทีเส็บเองจะเร่งผลักดันดึงงานพลังงานทางเลือก Renewable Energy มาจัดด้วย ขณะนี้จับมือกับกรมธุรกิจพลังงานนำงานเอ็กซิบิชั่น สนใจมาตั้งฐานในไทยซึ่งมียุทธศาสตร์ส่งเสริม BCG Model

ปี 2566 ทีเส็บร่วมกับเอกชนดึงงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติรายการใหม่ ๆ มาจัดในไทย 14-15 งาน ส่งผลให้ศูนย์ประชุมเต็มยาวเพียงแต่จะต้องเลือกงานให้เหมาะกับการส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ ผนวกกับมีข่าวดีจากท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศเข้ามาอย่างรวดเร็ว

นายจิรุตถ์กล่าวว่าตอนนี้มุ่งเจาะไมซ์ตลาด “สาธารณรัฐประชาชนจีน” มีคำยืนยันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นไป จีนจะเริ่มหลั่งไหลมาไทยเป็น “กลุ่มการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หรือ Incentive” ของบริษัทขายตรงด้านสุขภาพและยาเข้ามาต่อเนื่อง 2 เดือน คือ เดือนมิถุนายน 4 กรุ๊ป มีกลุ่มขนาดใหญ่กว่า 12,500 คน และขนาดธรรมดา 2 กรุ๊ป มีนักเดินทางรวม 1,200 คน เดือนกรกฎาคม  5 กรุ๊ป 15,000 คน

ตลอดปี 2566 ยังจะมี “ตลาดอินเซนทีฟ” กลุ่มประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล จาก “อินเดีย” เริ่มเดือนเมษายน บริษัท เมจิก (บริทวอยซ์) จำกัด กว่า 10,000 คน จากเอเชียแปซิฟิกเดือนตุลาคม 2566 อีก 2,500-3,000 คน เดือนตุลาคมจัดประชุมขนาดใหญ่ AFECA AGM 2023 จาก 19 ประเทศ 155 องค์กร เดือนพฤศจิกายน การประชุมกลุ่ม APAC 2,800-3,000 คน และงานประชุมใหญ่ TCEB ICCA Congress 2023 ระหว่าง 12-15 พฤศจิกายน นี้ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ทั้งในและต่างประเทศกว่า 1,000 คน

ปี 2567 มีอินเซนทีฟไมซ์ขนาดใหญ่จากตลาดต่างประเทศมาจัดในไทยเบื้องต้น 2 งาน ได้แก่ งานที่  1ประชุมกลุ่ม APAC พฤษภาคม 10,000 คน และตลาดเอเชียเหนือและตะวันออก จากเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน สาธารณรัฐประชาชนจีน เดือนมิถุนายน อีก 10,000 คน

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า วาแผนรองรับตลาดอินเซนทีฟไมซ์กลุ่มขนาดใหญ่ หลังโควิด-19 ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักเดินทางเปลี่ยนไปเน้นดูแลเรื่องสุขอนามัยมากเป็นพิเศษ ทางทีเส็บยังคงปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขเน้น 2 H คือ Health กับ Hygiene ขณะนี้รัฐบาลไทยเปิดกว้างให้คนเข้ามาโดยไม่ต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน ยกเว้นเรื่องโชว์ผลตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศ กับการทำประกันสุขภาพในระหว่างการเดินทางอยู่ในไทย

นายจิรุตถ์กล่าวว่ายุคนี้ไมซ์จีนปรับไปสู่ “คุณภาพ” มากขึ้น โดยเฉพาะ “กรุ๊ปเอ็กเซ็กคลูทีฟ” จะใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นหลายเท่า ตั้งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบินที่นั่งชั้นธุรกิจจะจองเต็มก่อน รวมทั้งโรงแรมห้องประเภทพิเศษและพูลวิลล่าก็จองเต็มก่อนเช่นกัน โดยผู้ใช้บริการคาดหวังจะได้รับบริการอย่างคุ้มค่าเงินที่จ่ายสูงมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นโรงแรมจะต้องช่วยกันหาบุคลากรที่มีคุณภาพมาไว้ต้อนรับไมซ์ไฮเอนด์ ตลาดจีนเองได้ลงทุนแปลงโฉมเมืองสิบสองปันนา เป็นศูนกลางไมซ์ ซึ่งไทยจะต้องสร้างความแตกต่างให้ได้เพื่อดึงคนมาไทยแทน

ส่วนไมซ์จีนปี 2566 ไทยมีโอกาสใหม่ที่จะได้ตลาดคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงกว่าก่อนโควิด-19 แล้วก็ต้องการทำกิจกรรมสร้างความประทับใจ จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันส่งเสริมกันเลือกใช้บริษัทตัวแทนจัดงานและต้อนรับที่มีประสิทธิภาพทำให้ไมซ์จึนได้รับความประทับใจกลับไป เพื่อจะได้เลือกมาจัดงานในไทยซ้ำ ๆ เพิ่มเม็ดเงินไมซ์เข้าประเทศเติบโตมากขึ้นทุกปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image