หลังเลือกตั้ง 2566 ผ่านพ้น ปรากฎว่าปมร้อนสายเขียวกับประเด็น นำ ‘กัญชา’ กลับเป็นยาเสพติด ก็เกิดระอุขึ้นมาอีก แม้ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่าจะต้องมาหาจุดสมดุลในการใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ ยังคงสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ พร้อมเผยแนวทางการควบคุมโซนนิ่ง หรือการพกในที่สาธารณะ รวมทั้งการเตรียมตั้งคณะกรรมการดูแลร้านที่ทำถูกกฎหมาย หรือออกกฎหมายนิรโทษกรรมต่อไปในอนาคต
แม้นายพิธาจะออกมายืนยันอย่างชัดเจน แต่ในแวดวง “สายเขียว” ก็ยังอยากให้ออกเพียงกฎหมายลูกเพื่อออกมาควบคุม ไม่ใช่การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นความกังวลใจที่หลายคนเชื่อว่าอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกสมุนไพร “กัญชา” นับร้อยแห่ง ที่ต่างรู้สึกกังวลใจเพราะได้ลงทุนลงแรงปลูกกัญชา และหวังต่อยอดสู่การสร้างผลิตภัณฑ์และสร้างมูลค่าจากกัญชาที่ปลูกไว้, การออกกฎหมายในอนาตจึงยังคงเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ผู้ปลูกกัญชา ตลอดจนวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ แต่วิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers กลับยังคงเดินหน้าพัฒนาการปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพราะมองว่าหากทำอย่างถูกต้องและได้มาตรฐานย่อมไม่มีเรื่องต้องให้กังวลใจ
ล่าสุด นายธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers พร้อมคณะได้เดินทางไปศึกษาดูงาน Smart Farm Korea 2023 (SFKOREA 2023) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 มิถุนายน 2566 ณ Changwon Convention Center (CECO) Exhibition Halls 2 และ 3 เพื่อเยี่ยมชมความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และนวัตกรรมของการปลูกพืชในฟาร์ม หวังนำมาประยุกต์ใช้ในพรีเมียร์ สมาร์ท ฟาร์ม (Premier Smart Farm) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบที่สำคัญในการผลิตกัญชาทางการแพทย์ (Medical Cannabis) ซึ่งจะสามารถนำไปใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการน่าเชื่อถือและปลอดภัยต่อประชาชน ตลอดจนมุ่งสู่มาตรฐานระดับโลกอย่าง GACP (Good agricultural and collecting practices) ในอนาคตอันใกล้
นายธวัช กล่าวว่า งาน Smart Farm Korea 2023 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาคการเกษตรและปศุสัตว์ ระดับนานาชาติ โดยมี ผู้ร่วมออกบูธประมาณ 300 แห่ง และผู้เข้าชมประมาณ 20,000 คนเข้าร่วมนิทรรศการ ภายในงานแบ่งออกเป็นโซน เช่น การกระจายสินค้า /โลจิสติกส์, บรรจุภัณฑ์, บริการให้คำปรึกษา, สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงงานอัจฉริยะ, เครื่องจักร/วัสดุ/ชิ้นส่วนระบบอัตโนมัติในฟาร์ม, ระบบปฏิบัติการอัตโนมัติในฟาร์ม, สินค้าและอาหารทางการเกษตร เป็นต้น
“การเดินทางมาศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้รับเชิญจากนักธุรกิจที่ประเทศเกาหลี เพื่อเยี่ยมชม Smart Farm ที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการควบคุมอุณหภูมิของสถานที่เพาะปลูกพืช ควบคุมความชื้น แสงแดด คาร์บอนไดออกไซด์ การวัดและวิเคราะห์ดิน ฯลฯ และเปลี่ยนพืชให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมโดยมีเทคโนโลยีควบคุมตามผลการวิเคราะห์ นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการพืชในระยะไกลที่สามารถทำได้ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน สมาร์ทฟาร์มเมอร์จึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ทั้งผลผลิต ประสิทธิภาพ และการปรับปรุงคุณภาพในกระบวนการผลิต ตลอดจนการกระจาย และการบริโภคของสินค้าเกษตร โดยใช้เทคโนโลยี ICT มาใช้กับไร่นา โรงเรือน และโรงงานทั้งหมด ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยและสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ พรีเมียร์ สมาร์ท ฟาร์ม ที่ผมสร้างขึ้นมาได้”
ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers กล่าวต่อไปว่า ในอนาคตการปลูกกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทยจะเป็นฟาร์มอัจฉริยะ ซึ่งถ้าพูดถึง Smart Farms ในต่างประเทศจะเป็นรูปแบบ Plant Factory หรือเรียกว่า Vertical Farms หรือ Vertical Farming ซึ่งเป็นโรงงานพืชในแนวตั้งซึ่งไม่ได้ใช้เพาะปลูกในแนวนอนทั่วไปอย่างที่เราเห็น เนื่องจากจุดประสงค์คือการเพาะปลูกจำนวนมาก โดยจะต้องติดตั้งไฟ LED ทั่วโรงงาน และนิยมปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยใช้ธาตุอาหารเป็นสารละลายซึ่งจะทำให้พืชเติบโตอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ
“พรีเมียร์ สมาร์ท ฟาร์ม ที่ผมสร้างขึ้นเพื่อปลูกกัญชาทางการแพทย์ ภายใต้มาตรฐานระดับโลกอย่าง GACP จะมีการพิจารณานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่น่าสนใจมาใช้ เช่น การจัดการอุณหภูมิและความชื้นอย่างง่าย ที่อาจจะใช้เทคโนโลยี IoT ซึ่งปัจจุบัน มีราคาถูกลงมากและสามารถนำไปใช้งานได้ง่าย และผมมองว่า จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาการปลูกกัญชาทางการแพทย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการการปลูกกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทยต่อไปในอนาคต” นายธวัช กล่าว