จุฬาฯ พาสื่อแอ่วเชียงใหม่ ชมศิลาดล ยลวัด-พิพิธภัณฑ์ใน ‘จุฬาฯ ม่วนใจ๋ทริป’ 25-27 สิงหาคม 2566
เรียกได้ว่าม่วนอ๊กม่วนใจ๋สุดๆ กับกิจกรรม ‘จุฬาฯ ม่วนใจ๋ทริป’ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ได้พาคณะสื่อมวลชนเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน เมื่อวันที่ 25-27 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เยี่ยมชมศิลาดล ยลวัด-พิพิธภัณฑ์ แวะชิมอาหารอร่อยขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ท่ามกลางอากาศสดชื่นเย็นสบาย และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวจามจุรี
โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ รองอธิการบดี ด้านวิชาการและการเชื่อมโยงกับสังคม, นายจารุวัตร เตชะวุฒิ นายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ภาคเหนือ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ที่ปรึกษาด้านแบรนด์จุฬาฯ กล่าวต้อนรับและเปิดงาน ‘จุฬาฯ ม่วนใจ๋ทริป’ พร้อมให้ความรู้ถึงพัฒนาการต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จุฬาฯ มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ภาคเหนือ เชียงใหม่
ซึ่งในเวลานี้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 แต่มาไม่นานก็กลับ ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับสอง อยู่ท่องเที่ยวในไทยนานกว่า ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งขณะนี้มีโรงเรียนนานาชาติ 7 แห่ง มีแนวโน้มว่าจะมีโรงเรียนนนานาชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนจีนที่มาเที่ยวเชียงใหม่แล้วชอบ อยากมาอยู่ที่นี่
ดร.เอกก์ ยังเสริมความรู้เรื่อง Chula Sustainovation โมเดลการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน อาทิ การสร้างกระดูกไทเทเนียม สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เพื่อให้กระดูกเหมาะกับสรีระของคนคนนั้น ทั้งมือ แขน ขา หน้า กะโหลก ในราคาที่ถูกกว่าถึง 4 เท่า เรื่อง innovation society อย่างเครื่องมือที่ดมกลิ่นเหงื่อแล้วสามารถบอกได้ว่าคนคนนั้นมีความเครียดมากแค่ไหน ช่วยจัดการและคัดกรองผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งนักข่าวทั่วโลกให้ความสนใจและลงข่าวเรื่องนี้กันมาก ส่งผลให้จุฬาฯ ก้าวเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 17 ด้านมหาวิทยาลัยนวัตกรรมของโลก
หนึ่งในไฮไลต์ของทริปนี้คือการไปเยี่ยมชมการผลิตเครื่องเคลือบดินเผาศิลาดล ณ สยามศิลาดล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายนิตย์ วังวิวัฒน์ นิสิตเก่าจุฬาฯ, นางเพ็ญพรรณ วังวิวัฒน์ เจ้าของสยามศิลาดล และไร่ชาระมิงค์ และ นายอนุสิทธิ์ มานิตยกูล (ปอนด์) ลูกชายของทั้งสองท่าน และ ผจก.การตลาดต่างประเทศ ให้การต้อนรับและให้ความรู้ กว่าจะได้เป็นเครื่องเคลือบดินเผาศิลาดลแสนวิจิตร
ที่นี่ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) โดยใช้ดินดำใน จ.เชียงใหม่ เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีแหล่งอยู่ที่ อ.แม่แตง มีแร่เหล็กสูงเพราะเป็นดินหน้านา นำมาผ่านกรรมวิธีต่างๆ อาทิ การใช้น้ำเคลือบที่ทำจากขี้เถ้า ซึ่งได้จากไม้ลำไยแก่ที่รับซื้อจากชาวบ้านใน จ.เชียงใหม่ มีการหมุนเวียนนำดินมาใช้ใหม่ เป็นต้น
ศิลาดลของที่นี่เป็นงานหัตถกรรมแบบ Green Product ที่มีเทคโนโลยีมาช่วย (Green Factory) โดยเป็นภูมิปัญญาที่มาจากมือทุกชิ้น เมื่อผ่านกระบวนการและขั้นตอนการผลิตต่างๆ จะเกิดเป็นสีเขียวและแตกลายงาธรรมชาติ ผลิตเป็นสินค้าส่งออก 70% มีลูกค้าหลักๆ คือญี่ปุ่น รองลงมาคือยุโรป นอกจากความรู้ที่อัดแน่นแล้วยังมี Workshop: Celadon Hand Painting ให้สื่อมวลชนได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกกันอีกด้วย
‘จุฬาฯ ม่วนใจ๋ทริป’ ยังพาคณะสื่อไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ วัดพระธาตุดอยคำ วัดป่าดาราภิรมย์ วัดเจดีย์หลวง และวัดศรีสุพรรณ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัดเก่าแก่ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเยี่ยมชมและรับความรู้ที่พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ ซึ่งเป็นพระตำหนักของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พาชมดอกไม้และผีเสื้อที่ใบออร์คิด-บัตเตอร์ฟลายฟาร์ม พาชิมอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ที่ร้านขึ้นชื่อของ จ.เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านโอ้กะจู๋, ร้านเขียวไข่กา, เฮือนสุนทรี, ครัวจามจุรี By Nous Cafe’ CNX, Lamour Cafe & Restaurant และร้านอาหารสวนผักครัวไทย
เป็นกิจกรรมดีๆ ที่เรียกได้ว่าครบทั้งความรู้ ความบันเทิง ความอิ่มอร่อย ม่วนใจ๋สมชื่อ ‘จุฬาฯ ม่วนใจ๋ทริป’ จริงๆ