ปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพและความงามนั้นกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยคนไทยหันมาสนใจเรื่องดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ผู้คนทั่วโลกต่างค้นหาวิธีการดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรค
ดังนั้น หนึ่งในศูนย์ดูแลสุขภาพชั้นนำอย่าง ‘ตรัยญา’ (TRIA) สถาบันสุขภาพและความงาม ภายใต้การบริหารโดย พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก-ปิยะเวท ร่วมกับ พญ.พิมพ์ชนก บุษกรเรืองรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา ก็พร้อมตอบรับกระแส Wellness ที่มาแรงในยุคนี้ ผ่านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนทั้งร่างกายและจิตใจ
พญ.เจรียง จันทรกมล
ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต พิชิตสุขภาพดี
พญ.เจรียง เล่าถึงที่มาของสถาบันสุขภาพและความตรัยญาว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 6-7 ปีก่อน ที่เครือบางปะกอก-ปิยะเวท เล็งเห็นเทรนด์สุขภาพและความยั่งยืนในสุขภาพ จึงได้มีโอกาสเข้ามาบริหารดูแลสถาบันสุขภาพและความงาม ตรัยญา (TRIA) โดยเห็นถึงความสำคัญของ Wellness หรือ ศูนย์ดูแลสุขภาพ ที่มุ่งเน้นการป้องกันสุขภาพให้กับประชาชนดีกว่าการรักษาที่ปลายเหตุ ประกอบกับเรามีกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลในเชิงการรักษา ถือได้ว่าเรามีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมรอบด้าน จึงเชื่อว่าในธุรกิจนี้เราจะเติบโตได้ดีอย่างแน่นอน
“ศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรของเรา จะมุ่งเน้นถึง Lifestyle Medicine เป็นการแพทย์ที่เน้นการจัดการที่ต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ที่เกิดจากความเครียดสะสมจากการทำงาน การรับประทานอาหารสำเร็จรูป หรือการไม่ชอบออกกำลังกาย ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่ส่งผลทำให้เกิดโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แพทย์ประเมิน ให้คำแนะนำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาโรคผ่านบริการ Wellness ซึ่งไม่ได้รักษาโรคหรือควบคุมโรคที่เรื้อรังเท่านั้น แต่อาจทำให้โรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตย้อนกลับไปสู่ภาวะปกติได้ โดยอาจไม่ต้องพึ่งการใช้ยา”
ถือได้ว่า ตรัยญา เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพที่มากกว่าการรักษา แต่ยังบำบัด ฟื้นฟู และหาสาเหตุของโรค สู่การป้องกันก่อนเจ็บป่วย ทั้งยังรวบรวมศาสตร์การรักษาที่ต่อยอดพัฒนาสอดคล้องไปกับการรักษาในรูปแบบแพทย์แผนปัจจุบัน มุ่งเน้นไปที่ผู้รับบริการได้รับการดูแลรักษาอย่างดี แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงจุด และมีหลากหลายแนวทางให้ผู้รับบริการได้เลือกสรรตามความต้องการของแต่ละบุคคล พร้อมแพทย์ทางเลือกหลากหลายสาขาวิชาชีพที่เป็นผู้ชำนาญการในศาสตร์ด้านนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง
‘ตรัยญา’ พร้อมดูแลสุขภาพทุกคนแบบองค์รวม
ขณะเดียวกัน ตรัยญา ยังมีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หรือ Holistic โดย พญ.เจรียง อธิบายว่า การดูแลสุขภาพในปัจจุบันไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและสิ่งที่เป็นนามธรรม อาทิ จิตวิญญาณและจิตปัญญาที่อยู่ภายใน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ครบทุกด้าน
โดยการมุ่งส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมด้วยปรัชญาพื้นฐานทั้ง 3 ประการ อันได้แก่
Cell : สุขภาพของระบบชีวเคมีในร่างกาย พื้นฐานการทำงานของระดับเซลล์
Body : สุขภาพของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ในแง่ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการเผาผลาญออกซิเจน
Mind : สุขภาพของอารมณ์ ในการจัดการกับความเครียดและสิ่งกระตุ้น
“เพราะเราเชื่อว่าระบบทุกอย่างภายในร่างกายเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันทั้งหมด หากขาดหรือเน้นเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ร่างกายก็จะขาดความสมดุลจนนำไปสู่การเกิดโรค เราจึงยึดหลักปรัชญาการดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน ทั้งแพทย์ทางเลือกและวิทยาการสมัยใหม่ ที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น
“ศูนย์ดูแลสุขภาพของเราถือเป็น One Stop Service ที่ครบวงจรแห่งหนึ่งของไทย ทั้งการตรวจสุขภาพในเชิงลึก การพบแพทย์ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล เช่น เมื่อเรามาตรวจแล้วพบว่าขาดวิตามินบางตัว หรือตัวไหนที่มากเกินไป เราก็สามารถสั่งจ่ายวิตามินต่างๆ ให้กับคนไข้ได้ โดยเป็นการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล พร้อมความปลอดภัยแบบโรงพยาบาลและบริการระดับพรีเมียมเทียบเท่าบริการในโรงแรมระดับ 5 ดาว ทั้งยังมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจากทั่วทุกมุมโลกและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งหมดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้และลูกค้าของตรัยญา” ซีอีโอโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก-ปิยะเวท กล่าว
มั่นใจด้วยบริการที่หลากหลาย ได้มาตรฐานระดับสากล
ปัจจุบันตรัยญามีการให้บริการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ บริการเพื่อสุขภาพด้านการแพทย์ (Medical) และ บริการเพื่อสุขภาพที่ไม่ใช่ด้านการแพทย์ (Non-Medical) ทั้งสปา ฟิตเนส รวมถึงบริการอื่นๆ ที่ดูแลทางด้านร่างกายและรูปลักษณ์ โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางจากหลากหลายสาขาวิชาชีพมาดำเนินงานร่วมกัน อาทิ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรม หรือด้านผิวหนังและความงาม เพื่อพร้อมให้บริการที่มีคุณภาพและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการทุกคน
“ด้วยวิสัยทัศน์ของเราที่บอกไว้เสมอว่า Lifelong Wellness for Healthy Living เมื่อลูกค้ามาหาเราด้วย Pain Point อย่างหนึ่ง เราไม่ได้เสนอการให้บริการสำหรับ Pain Point นั้นเพียงอย่างเดียว แต่จะวางแผนโดยการใช้ศาสตร์จากหลากหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อรักษาและดูแลลูกค้าควบคู่ไปกับแพทย์แผนปัจจุบัน และทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งไม่ใช่เวลเนสทุกที่จะมีแพทย์ที่ผ่านการรับรองระดับโลก ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการบริการที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือและปลอดภัยแน่นอน” พญ.เจรียง เผย
นอกจากนี้ ตรัยญา ก็มีการจัดกิจกรรมหลากหลายประเภท ทั้งกิจกรรมด้านความบันเทิงและพัฒนาจิตใจ ควบคู่กับการดูแลสุขภาพไปด้วย เช่น การฟื้นฟูร่างกายผ่านการดีท็อกซ์ (Detox) ซึ่งตรัยญาถือเป็นศูนย์ที่มีการให้บริการดีท็อกซ์ครบวงจรแห่งหนึ่งของไทย ทั้งการดีท็อกซ์ด้านจิตใจ ผ่านการพูดคุย ขอคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ, การดีท็อกซ์ด้านร่างกาย อย่างการล้างลำไส้ เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย, การดีท็อกซ์โดยการเติมวิตามินเข้าร่างกายผ่านเส้นเลือด และ การดีท็อกซ์ร่างกายผ่านต่อมน้ำเหลือง โดยการนวดกดจุด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองและลดการสะสมพิษในร่างกาย
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการยกระดับสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านความงามและการดูแลสุขภาพที่ครบวงจรจากภายในสู่ภายนอก ตรัยญา (TRIA) ยังมีการให้บริการศูนย์ ‘Mind Wellness Center’ ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีบริการหลากหลายแบบ อาทิ การวัดและประเมินทางจิตวิทยา (Psychological Testing and Assessments), การปรึกษาแบบบุคคลธรรมดา (Individual Counseling and Psychotherapy), การปรึกษาแบบคู่รัก (Couple Counseling), การปรึกษาแบบครอบครัว (Family Counseling) หรือการปรึกษาแบบแบบกลุ่ม (Group Counseling)
สำหรับผู้สนใจสามารถเลือกปรึกษาแบบตัวต่อตัว (Onsite) หรือผ่านระบบ Online แบบ teleconsultation ได้ อีกทั้งในมุมขององค์กร ทีมนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญของศูนย์ฯ ยังสามารถให้บริการฝึกอบรมทางจิตวิทยา (Psychological Training Services) อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้รับการบริการดูแลสุขภาพที่ครบจบในที่เดียวอย่างแท้จริง!
บรรยากาศงานเปิดตัวศูนย์ ‘Mind Wellness Center’
ก้าวต่อไปของ ‘ตรัยญา’
พญ.เจรียง เผยถึงบริบทใหม่ของตรัยญาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไว้ว่า ตรัยญามองต่อไปในเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสังคมผู้สูงอายุที่จะมาแน่ๆ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งเราก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมผู้สูงอายุ โดยจะแตกไปสู่เรื่องลองสเตย์ในอนาคต กระจายไปยังจุดต่างๆ ในเครือของบางปะกอก-ปิยะเวท โดยมุ่งเน้นการให้บริการป้องกันและดูแลสุขภาพ พร้อมด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ ควบคู่กันไป
“สำหรับโปรเจ็กต์ลองสเตย์สำหรับผู้สูงอายุของตรัยญา ได้มีการวางโมเดลการบริการที่ครบวงจร โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มไฮเอ็นด์ที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยจุดเด่นคือทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับโรงพยาบาล ทำให้สามารถส่งต่อผู้พักอาศัยที่มีปัญหาสุขภาพรักษาต่อในโรงพยาบาลในเครือได้ทันที
“ไม่เพียงเท่านั้น เรายังตั้งเป้าหมายที่จะเป็นกลุ่มธุรกิจ Medical Hub และ Medical Tourism ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อรับการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพกับเรา ซึ่งเราเล็งเห็นว่าในภูมิภาคอาเซียนนั้น ประเทศไทยเราก็มีความโดดเด่นในการให้บริการด้านนี้ไม่แพ้ชาติอื่นอย่างแน่นอน”