กรมป่าไม้ วางแผนเชิงรุกควบคุมไฟป่า

กรมป่าไม้ คาดการณ์ไฟป่าภาคเหนือปีนี้ลดลงกว่าปีที่แล้ว พร้อมทำงานเชิงรุกจัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน อย่างเข้มข้น จับมือชาวบ้านสร้างเครือข่าย 500 หมู่บ้าน ร่วมทำแนวกันไฟ 9,000 กิโลเมตร พร้อมร่วมทำงานแบบบูรณาการในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้กระทำผิดกรณียึดถือครอบครองพื้นที่ป่าและการเผาป่า

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือในปี 2560 คาดว่าจะมีความรุนแรงน้อยลงจากปี 2559 เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญา ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับน้ำฝนมากกว่าปกติในช่วงต้นปี 2560 ทำให้มีความชื้นในดินมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการเกิดไฟป่ายังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ จำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น   ในขณะที่จำนวนที่ดินทำกินเท่าเดิม การเผาวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่ในการทำการเกษตร การพึ่งพิงทรัพยากรป่าไม้ ของชาวบ้าน ในลักษณะการจุดไฟเพื่อการเก็บหาของป่า การล่าสัตว์ และการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

สำหรับการป้องกันและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อให้ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และสามารถปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2560 กรมป่าไม้ได้สนับสนุนงบประมาณหมู่บ้านละ 50,000 บาท จำนวน 150 หมู่บ้าน เพื่อใช้ในกิจกรรมด้านการป้องกันไฟป่า ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายแล้วทั้งสิ้น 500 หมู่บ้าน ขณะเดียวกันกรมป่าไม้ได้ประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการต่างๆ อาทิ การจัดทำกิจกรรมหรือโครงการด้านการควบคุมไฟป่า จัดฝึกอบรมอาสาสมัคร จัดหาอุปกรณ์ควบคุมไฟป่า จัดการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ รวมทั้งชี้แจงให้ อปท. รู้จักวิธีการใช้งานระบบข้อมูลจุดความร้อน (HOTSPOT) ตลอดจนมาตรการในการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ร่วมกัน นอกจากการสนับสนุนด้านงบประมาณ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าหรือเกิดไฟป่าซ้ำซ้อนทั่วประเทศในปี 2560 มีระยะทางกว่า 9,000 กิโลเมตร รวมทั้งให้ความรู้กับอาสาสมัครและชาวบ้านเกี่ยวกับการชิงเผาตามหลักวิชาการและการจัดตั้งธนาคารกิ่งไม้ใบไม้ เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิง นอกจากนี้พร้อมจะดำเนินงานเชิงรุกด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอย่างเข้มข้น  เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าที่อาจเกิดขึ้น หรือเมื่อพบเห็นไฟป่าจะได้เข้าดำเนินการควบคุมไฟป่าได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ป่าไม้

“สิ่งที่ควรตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือ ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้มีการบุกรุกป่าและการเกิดไฟป่าในช่วงฤดูกาลที่กำลังจะถึงนี้  ตลอดจนจะได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจับกุมผู้กระทำผิดกรณียึดถือครอบครองพื้นที่ป่าและการเผาป่า  ทั้งนี้ถ้าประชาชนพบเหตุไฟไหม้ป่า สามารถโทรศัพท์แจ้งเข้ามายังศูนย์บริการประชาชนชน กรมป่าไม้  สายด่วน 1310 กด 3 และส่วนควบคุมไฟป่า หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 5614292-3 ต่อ 5767 เพื่อความรวดเร็วในการให้เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันไฟป่าเข้าระงับเหตุได้ทันการณ์ ”  อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวทิ้งท้าย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image