ข้อสอบ SAT MATH เป็นข้อสอบที่สำคัญสำหรับน้อง ๆ ที่ตั้งใจจะศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติ เนื่องจากเป็นข้อสอบที่หลายๆ มหาวิทยาลัยใช้เป็นเกณฑ์ในการรับนักศึกษา บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบ SAT MATH ฉบับอัปเดตปี 2024 และแนะนำคอร์สติว SAT MATH ที่จะเป็นตัวช่วยให้น้องๆ อัพคะแนนสอบพร้อมติดมหาวิทยาลัย มีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจและจะติว sat math ที่ไหนดี ไปดูกันเลย
SAT MATH คืออะไร สำรวจข้อมูลที่ควรรู้ของข้อสอบ SAT MATH
SAT MATH คือ ข้อสอบที่วัดความถนัดทางด้านคณิตศาสตร์ของน้องๆ ระดับชั้นมัธยมปลาย เป็นข้อสอบที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดผลเพื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย รวมไปถึงมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
โดยข้อสอบ SAT MATH จะมีคำถามสองประเภทคือประเภท Multiple-Choice หรือแบบตัวเลือก 4 ตัวเลือก และแบบ Grid-In หรือแบบเติมคำตอบ ข้อสอบจะมีทั้งหมด 50 ข้อ มีคะแนนเต็ม 800 คะแนน โดยให้เวลาในการทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง 20 นาที
ใครที่มีแพลนศึกษาต่อในคณะหรือมหาวิทยาลัยที่ใช้คะแนน SAT MATH ก็จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งด้านเนื้อหาที่ออกสอบ และการฝึกฝนการทำข้อสอบเสมือนจริงเพื่อให้ได้คะแนน SAT MATH อยู่ในเกณฑ์ที่คณะหรือมหาวิทยาลัยกำหนด
หลักสูตร SAT MATH เหมาะกับใคร? คณะไหนใช้คะแนนบ้าง
ใครที่สงสัยว่าคณะที่อยากเรียนจะต้องใช้คะแนน SAT MATH หรือเปล่า บทความนี้ได้รวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำและตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน SAT MATH เป็นเกณฑ์ในการรับสมัครนักศึกษามาไว้ให้ทุกคนแล้ว จะมีคณะหรือมหาวิทยาลัยที่เราอยากจะศึกษาต่อหรือเปล่า ไปเช็กกันได้เลย
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ เช่น คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น
- มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยนานาชาติ เช่น คณะบริการธุรกิจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะอุตสาหกรรมเกษตร, คณะเศรษฐศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ เป็นต้น
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ เช่น คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะเศรษฐศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เป็นต้น
นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยแล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่ใช้คะแนน SAT MATH เป็นเกณฑ์ในการรับนักศึกษา เช่น University of Florida และ Columbia University ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ Durham University และ University of Nottingham ในประเทศอังกฤษเป็นต้น
แต่ละมหาวิทยาลัยหรือแต่ละคณะจะมีคะแนนขั้นต่ำที่แตกต่างกันและคะแนนอาจจะต่างกันได้ในแต่ละปี ดังนั้นหากใครที่จะเรียนต่อในคณะหรือมหาวิทยาลัยที่ใช้คะแนน SAT MATH ก็อย่าลืมตรวจสอบระเบียบการรับสมัครนักศึกษาในแต่ละปี จะได้ไม่พลาดโอกาสในการเข้าศึกษาต่อ
SAT MATH ออกสอบอะไรบ้าง? เตรียมตัวให้พร้อมก่อนลงสนามสอบ
ข้อสอบ SAT MATH จะมีเนื้อหาที่ออกสอบ 4 ส่วนดังนี้
- Heart of Algebra พื้นฐานเกี่ยวกับพีชคณิต เช่น การแก้สมการ อสมการเส้นตรง เป็นต้น
- Problem Solving and Data Analysis เป็นข้อสอบที่ใช้ความรู้ด้านคณิตศาสตร์มาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น อัตราส่วน ความน่าจะเป็น เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
- Passport to Advanced Math ข้อสอบมีความซับซ้อนเป็นการประยุกต์ใช้สมการ เช่น การแก้สมการติดรูท เลขยกกำลัง กราฟพาราโบลา เป็นต้น
- Additional Topics in Math ข้อสอบที่เกี่ยวข้องกับเรขาคณิตทั้งหมด เช่น การหาพื้นที่ การหาปริมาณของรูปทรงต่างๆ ตรีโกณมิติ วงกลม เป็นต้น
การสอบ SAT MATH จะแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข และส่วนที่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข โดยมีรายละเอียดของข้อสอบและจำนวนข้อดังนี้
1.SAT MATH Test – Calculator
มีข้อสอบ 38 ข้อ ใช้เวลา 55 นาที โดยมีข้อสอบประเภท Multiple Choice จำนวน 30 ข้อ และแบบ Grid-In จำนวน 8 ข้อ ประกอบไปเนื้อหา Heart of Algebra 11 ข้อ, Problem Solving and Data Analysis 17 ข้อ, Passport to Advanced Math 7 ข้อ และ Additional Topics in Math 3 ข้อ
2.SAT MATH Test – No Calculator
จะมีจำนวน 20 ข้อ โดยให้เวลา 25 นาที โดยเป็นข้อสอบประเภท Multiple Choice จำนวน 15 ข้อ และ Grid-In จำนวน 5 ข้อ ประกอบไปด้วยเนื้อหา Heart of Algebra 8 ข้อ, Passport to Advanced Math 9 ข้อ และ Additional Topics in Math 3 ข้อ
แนะนำเทคนิคการทำสอบ SAT MATH อัพคะแนนเตรียมเข้ามหาลัยอินเตอร์
หลังจากได้รู้ไปแล้วว่ามีข้อสอบแบบไหนบ้าง หลาย ๆ คนก็อาจจะอยากได้เทคนิคในการทำข้อสอบและวิธีการเตรียมตัวสอบ SAT MATH เพื่อให้ได้คะแนนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แน่นอนว่าบทความนี้ก็มีเทคนิคดี ๆ ในการเตรียมตัวทั้งก่อนสอบและระหว่างอยู่ในห้องสอบมาฝากกัน จะมีเทคนิคอะไรบ้าง พร้อมแล้วไปดูกันเลย
- เตรียมตัวเรียน SAT MATH เนื่องจากการสอบ SAT MATH เป็นการสอบที่ต้องใช้เทคนิค ดังนั้นการเตรียมตัวและวางแผนปรับพื้นฐานด้วยตัวช่วยอย่างการติว SAT MATH ก็จะทำให้เรียนรู้เนื้อหาหลักที่ออกข้อสอบได้ดียิ่งขึ้น
- วางแผนการอ่านหนังสือให้ดี เนื่องจากข้อสอบ SAT MATH มีหัวข้อที่ออกสอบค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการวางแผนอ่านหนังสือให้ครอบคลุมทุกหัวข้อก็จะทำให้เราเก็บคะแนนได้มากขึ้น
- ฝึกทำโจทย์หรือข้อสอบเก่าให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการหาจุดอ่อนในการทำข้อสอบของเรา อีกทั้งยังเป็นการฝึกให้เราคุ้นชินกับข้อสอบและทำให้เราได้ฝึกบริหารเวลาอีกด้วย
- เรียนรู้ศัพท์เฉพาะที่อยู่ในข้อสอบ เนื่องจากข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราควรจะเรียนรู้ศัพท์เฉพาะด้านคณิตศาสตร์เพื่อไม่ให้แปลผิดจนพลาดคะแนนข้อนั้นไปอย่างน่าเสียดาย
- ทำข้อสอบอย่างรอบคอบและมีสมาธิ หากเจอข้อที่ไม่เข้าใจคำถามให้ตั้งสติและข้ามไปก่อน จากนั้นจึงวนกลับมาทำใหม่ และควรตรวจสอบคำตอบให้ดีว่าข้อที่ฝนคำตอบตรงกับข้อที่เลือกหรือไม่จะได้ไม่เสียคะแนนไปฟรี ๆ
ติว SAT MATH ที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษที่ไหนดี
อ่านมาจนถึงตรงนี้หลายๆ คนก็อาจจะกังวลเรื่องคะแนนสอบ DIGITAL SAT MAT แต่ถ้าหากเรามีผู้ช่วยในการเตรียมสอบอย่าง EngSnack ที่รวบรวมอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ในการสอน SAT MATH มากกว่า 5 ปี พร้อมเทคนิคดี ๆ มาช่วยในการทำข้อสอบ ใครที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ เพราะคลาสเรียนจะถูกปรับให้เข้ากับสไตล์การเรียนและพื้นฐานของน้องๆ แต่ละคน
ส่วนใครที่อยากฝึกความคุ้นชินด้วยการทำข้อสอบ ที่ EngSnack ก็มีระบบทำข้อสอบกว่า 5,700 ข้อที่สามารถบอกจุดอ่อนให้น้องๆ ได้นำไปพัฒนาได้อย่างตรงจุด มีทั้งคลาส Onsite ที่ Silom Space ติดบีทีเอสศาลาแดง หรือใครที่เดินทางไม่สะดวกก็สามารถเรียน SAT MATH แบบออนไลน์ได้ด้วย
ใครที่สนใจคอร์สเรียน SAT MATH ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สเรียนจากเว็บไซต์ของ EngSnack มีพีๆ คอยตอบคำถามและแนะนำข้อมูลคอร์สเรียน พร้อมแล้วก็ไปพิชิตคะแนน SAT MATH กันได้เลย