ผู้ว่าฯททท.นำทีมภาคกลางบูม365วันโกย4.6แสนล้านเร่งโต4บุรี

ผู้ว่าฯ ททท.นำทีมยกชั้นภาคกลางปี’67 เที่ยวได้ 365 วัน ตั้งเป้าทำยอด 4.64 แสนล้านบาท 4 เดือนแรกโกย1.61 แสนล้าน เร่งขาย 4 บุรี “สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี-ราชบุรี-เพชรบุรี” ผนวกประจวบคีรีขันธ์ ใช้สนามบินหัวหินปลุกทัวร์เชื่อมโยงกับตลาด4ภาค

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2567 ตั้งเป้าให้ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ตลาดท่องเที่ยว 17 จังหวัด ทำรายได้ท่องเที่ยวหมุนเวียนตลอดทั้งปี 464,613 ล้านบาท หรือเกือบ 50 % ของเป้ารายได้รวมของตลาดในประเทศปีนี้ทั้งหมด 1.2 ล้านล้านบาท พร้อมกระตุ้นคนออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องให้ได้มากสุด 103.07 ล้านคน-ครั้ง

ช่วง 4 เดือนแรก มกราคม – เมษายน 2567 ททท.ภูมิภาคภาคกลาง สามารถนำการท่องเที่ยวสร้างรายได้สำเร็จแล้ว 161,781 ล้านบาท ประมาณ 1 ใน 3 ของเป้ารวมทั้งหมด และดึงดูดนักท่องเที่ยว 36.96 ล้านคน-ครั้ง เดินทางกระจายทั่วภาคกลางทั้ง 17 จังหวัด

Advertisement

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.ได้ทำแผนตลาดรองรับนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เร่งผลักดันการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางเป็นจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากขึ้น นำร่องด้วยพื้นที่ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่หรือ ครม.สัญจร ตามเส้นทางจังหวัด 4 บุรี ได้แก่ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ผนวก 1 จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป เริ่มปรับกลยุทธ์ใหม่ทันทีด้วยการเพิ่มความเข้มข้น 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนที่ 2 ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศคึกคักข้าม 5 ภูมิภาค ระหว่าง ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคใต้ โดยใช้ศักยภาพท่าอากาศยานหัวหิน เขตเชื่อมต่ออำเภอชะอำ เพชรบุรี กับอำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ให้คนบินมาเที่ยวได้

ปัจจุบันสนามบินหัวหิน รองรับเที่ยวบินภายในประเทศ ของสายการบินไทยแอร์ เอเชีย บริการ ไป-กลับ หัวหิน – เชียงใหม่ วันละ 1 เที่ยว อนาคตกำลังเจรจากับสายการบินเพื่อเพิ่มเส้นทางบินใหม่ หาดใหญ่ – หัวหิน เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวภาคใต้และมาเลเซียเข้ามาเที่ยวชะอำ หัวหิน และพื้นที่ใกล้เคียง

Advertisement

ทางด้าน ททท. สำนักงานเพชรบุรี และ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้กำลังเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโครงการ “Amazing Cha-Am – Hua Hin Consumer Fair” จะพาผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำในชะอำและหัวหินกว่า 20 ราย เดินทางไปเจาะตลาดในเชียงใหม่ เชิญชวนคนภาคเหนือมาเที่ยวทะเลชะอำและหัวหิน

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ ยืนยันว่า ททท.จะกระตุ้นคนออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยความถี่สูงขึ้น และสร้างกิจกรรมจูงใจนักท่องเที่ยวเพิ่มค่าใช้จ่ายเงินแต่ละทริปมากขึ้น ชูโรงด้วยโปรแกรมการท่องเที่ยวเชื่อมโยง “เพชรบุรีกับประจวบคีรีขันธ์” ขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลเรื่อง “เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว” เสนอขายตามกลยุทธ์ “Must Do in Thailand” สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องทำเมื่อไปถึงเพชรบุรีแล้ว 3 กิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมที่ 1 Must Eat ต้องกินอาหารไทย ในฐานะเพชรบุรีเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก หรือ Gastronomy City  เด่นดังเรื่อง “เมือง 3 รส” มีวัตถุดิบท้องถิ่นเด่น 3 อย่าง “รสเค็ม” ของเกลือสมุทร ที่อำเภอบ้านแหลม “รสหวาน” ของตาลโตนดปลูกตาล ที่อำเภอบ้านลาด ต่อยอดทำอาหารนักท่องเที่ยวได้อย่าง แกงหัวตาล ขนมตาล “รสเปรี้ยว”ของมะนาวแป้นคุณภาพ ที่อำเภอท่ายาง รังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่ม “Lime Plam Soda” รสชาติโดนใจนักเดินทางทุกวัย

กิจกรรมที่ 2 Must See ต้องชมโชว์ไทย ททท.จะรวมพลังกับทุกภาคส่วนยกระดับงาน “เทศกาลพระนครคีรีงานประจำปี” เปิดมหกรรมท่องเที่ยวแสง เสียง Light & Sound ก้าวสู่สากล

กิจกรรมที่ 3 Must Seek ต้องสัมผัสวัฒนธรรมไทย จะเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวสายศรัทธาในธีมแนวคิด “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” นำเสนอแลนด์มาร์กแห่งใหม่เมืองเพชรบุรี คือ “องค์พญานาคขนาดใหญ่สุด” ในเมืองไทย ที่วัดถ้ำแจง อำเภอชะอำ นำต้นแบบมาจากภาคอีสาน มีศิลปินแห่งชาติออกแบบด้วไฮไลต์แห่งความเป็นสิริมงคล 9 โค้ง

ล่าสุด ททท.เตรียมวางแผนโปรโมทการท่องเที่ยวเมือง 4 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และ เพชรบุรีด้วยการนำอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละจังหวัดมาต่อยอดสินค้าและกิจกรรมการท่องเที่ยว ประกอบด้วย

“จังหวัดสุพรรณบุรี” ผสมผสานเข้าด้วยกัน 3 อย่าง คือ เมืองแห่งดนตรี วัดไทยที่มีชื่อเสียง และสาลี่สุพรรณขนมยอดนิยม ของคนทั้งมวล

“จังหวัดกาญจนบุรี” ยกระดับเที่ยวงาน การแสดง แสง เสียง สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ่ายทอดในรูปแบบเสมือนจริงหรือ Virtual Event เป็นปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี

“จังหวัดราชบุรี” นำเสนอสีสันเชิงสุนทรียภาพ ของเมืองแห่งศิลปะ งานอาร์ต และวิถีชีวิตผู้คน

“จังหวัดเพชรบุรี” สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอาหารในฐานะจังหวัดเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO

โดย ททท.จะส่งเสริมการตลาดควบคู่กับทำประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชน ยกระดับกลุ่มจังหวัดภาคกลางก้าวสู่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นจุดหมายปลายทางหลักตามคอนเซ็ปต์ 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image