เงื่อนไขความคุ้มครอง น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้คนมองหาประกันรถยนต์รู้สึกสับสนทุกครั้ง เมื่อต้องเลือกทำประกันรถยนต์สักฉบับ เพราะต้องมานั่งเปรียบเทียบประกันทีละเจ้า แล้วไหนจะประเภทประกันอีก ที่อาจทำเอาเสียเวลากันหลายชั่วโมงจนปวดหัว แต่วันนี้เราจะมาแนะนำประกันภัยรถยนต์ 2 ประเภท ที่เหมาะสำหรับคนอยากได้ความคุ้มครองแบบครบจบ ใช้รถเมื่อไหร่ก็อุ่นใจกัน
ประกันชั้นไหนบ้างที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด
เมื่อนึกถึงประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองแบบครบจบ แน่นอนว่าจะมีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น ที่ตอบโจทย์ความคุ้มครองนี้ นั่นก็คือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ที่จะให้ความคุ้มครอง ดังนี้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประเภทประกันที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นการเฉี่ยวชนแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี อย่างการถอยรถชนรั้วบ้าน กระถางต้นไม้ หรือขับชนเสา ก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด รวมไปถึงความคุ้มครองด้านไฟไหม้ น้ำท่วม ลูกเห็บตกใส่ หรือแม้แต่การโดนโจรกรรม ก็จะได้รับความการดูแลด้วยเช่นกัน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองแทบจะเทียบเท่ากับประกันชั้น 1 เพียงแต่จะตัดความคุ้มครองการเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณีออกเท่านั้น ส่วนความคุ้มครองด้านอื่นๆ อย่างไฟไหม้ รถหาย หรือภัยธรรมชาติอื่นๆ ก็ยังได้รับความคุ้มครองไม่ต่างกัน จึงทำให้มีค่าเบี้ยประกันถูกลงมาอีกหน่อย เหมาะสำหรับคนที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้รถระดับหนึ่งแล้ว
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และ 2+ เลือกแบบไหนดีกว่า
ถ้าหากเป็นมือใหม่หัดขับ และยังมีความเสี่ยงในการถอยรถชนสิ่งกีดขวางต่างๆ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด แต่หากเป็นผู้ใช้รถที่มีประสบการณ์แล้ว และมั่นใจว่าไม่ต้องการเงื่อนไขการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็จะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายได้ดีกว่า
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 2 ประเภทประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมมากที่สุด ตอบโจทย์คนที่อยากใช้รถแบบอุ่นใจ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลใจมากนักเรื่องการเคลมประกัน และที่สำคัญ ยังอาจได้รับค่าเบี้ยประกันลดลงในปีถัดไปได้อีกด้วย หากมีประวัติการขับดีจากการไม่เคลมประกันเลย ซึ่งจะยิ่งทำให้ได้ความคุ้มครองที่อุ่นใจ ในค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่ามากขึ้นไปอีก
