เมื่อ 20 ปีก่อน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ อาคาร A และอาคาร B นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ต้องใช้งบประมาณก่อสร้างสูงถึง 20,449.38 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีมีมติให้ใช้วิธีการระดมทุนค่าก่อสร้างด้วยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือ Securitization แทนการใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะ และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ด้วยการออกหุ้นกู้จำหน่ายแก่ประชาชนผู้สนใจ ซึ่งหุ้นกู้ของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development ครั้งนั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับสูงสุดจากบริษัท ฟิทซ์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด คือระดับ AAA จึงนับเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านการบริหารจัดการโครงการทั้งพื้นที่สำนักงานและพื้นที่พาณิชย์ ในอาคาร A และ อาคาร B ให้เกิดรายได้ ผลการดำเนินงานขาดทุนในช่วงแรก แต่ DAD ได้นำบทเรียนมาพัฒนาและปรับปรุง เกิดแนวทางสร้างรายได้เพิ่ม และพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ผลประกอบการของ DAD จึงเริ่มดีขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2561 DAD มีสินทรัพย์รวม 25,725 ล้านบาท รายได้ 2,857 ล้านบาท มีกำไร 530.9 ล้านบาท และสามารถสร้างผลกำไรเติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปี ณ สิ้นปี พ.ศ. 2566 DAD มีสินทรัพย์รวมกว่า 37,956 ล้านบาท รายได้กว่า 2,907 ล้านบาท มีกำไรกว่า 721.5 ล้านบาท
นับจากปี พ.ศ. 2567 ถึง พ.ศ. 2570 ผลการดำเนินงาน DAD จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกคือการรับรู้รายได้จากการเปิดให้บริการอาคาร C ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ 660,000 ตารางเมตร มีทั้งพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์ ดังนั้นเมื่อรวม 3 อาคาร คือ A อาคาร B และอาคาร C ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ จะมีหน่วยงานราชการเข้าใช้พื้นที่รวมกว่า 58 หน่วยงาน จึงมีรายได้จากค่าบริหารจัดการ ค่าเช่าพื้นที่พาณิชย์ ที่เพิ่มขึ้น และ DAD ยังมีรายได้จากการขยายธุรกิจรับก่อสร้างอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย