ปวดหลังธรรมดา เป็นแล้วก็หายเพียงแค่เปลี่ยนท่านั่ง ท่ายืน สิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่ถ้าปวดแล้วไม่หาย ปวดมานาน “ปวดหลังเรื้อรัง” นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือน ”ปัญหาสุขภาพ” ที่ใหญ่กว่าที่คิด
เชื่อไหมว่า “อาการปวดหลัง” เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการลาป่วย การขาดงาน และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของไทย เป็นจำนวนมาก แต่หลายคน กลับมองว่า “ปวดหลัง” เป็นเรื่องเล็กน้อย กินยาแก้ปวด นวด ทาถู ประคบ เดี๋ยวก็หาย ซึ่งวิธีเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาอาการได้เพียงชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
อาการปวดหลังมีกี่แบบ
อาการปวดหลังสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักๆ ได้แก่
- อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน (Acute Pain) คืออาการปวดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจากอาการบาดเจ็บหรือการใช้งานที่ผิดวิธี และมักหายเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
- อาการปวดหลังแบบเรื้อรัง (Chronic Pain) คืออาการปวดที่ยาวนานเกิน 3 เดือน อาจมีสาเหตุจากโรคข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือปัญหาของเส้นประสาท
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง
- อายุที่เพิ่มขึ้น
- การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
- การออกกำลังกายอย่างหนักและผิดวิธีจนเกิดอาการบาดเจ็บ
- การยกของหนักผิดวิธี
- โรคเกี่ยวกับกระดูกแลข้อ เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท มีภาวะกระดูกคดผิดรูป หรืออาจเกี่ยวข้องกับมะเร็ง
ผลกระทบที่ตามมา
- รบกวนการทำงานและกิจวัตรประจำวัน
- คุณภาพชีวิตที่ลดลง
- ปวดร้าวไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ขา หรือสะโพก
ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและรวดเร็ว อาจส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
ปวดหลังเรื้อรัง ร้ายแรงกว่าที่คิด
ผลของอาการปวดหลังเรื้อรัง
อาการปวดแบบเรื้อรัง คืออาการปวดที่กินระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า และความเครียดเนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้เคลื่อนไหวลำบากมากขึ้น
ปวดหลังเรื้อรังรักษาได้
Pain Management เป็นศาสตร์การแพทย์เฉพาะทางที่เน้นเรื่องของการรักษาอาการปวดแบบตรงจุด และช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะปวดบริเวณไหน และปวดแบบใด ทั้งปวดแบบเฉียบพลันหรือปวดแบบเรื้อรัง แพทย์เฉพาะทางก็สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของอาการปวดนั้นๆ ได้
การรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านระงับปวด
ปัจจุบันในประเทศไทยยังมีโรงพยาบาลหรือคลินิกเฉพาะทางด้านอาการปวดไม่มากนัก แตกต่างกับในต่างประเทศ โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ คือหนึ่งในโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งแรก ที่ให้บริการ Pain Treatment แบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรัง เพื่อให้เกิดผลดีกับผู้เข้ารับการรักษาอาการปวดหลังมากยิ่งขึ้น
กระบวนการรักษา
การวินิจฉัยรักษาโรค
อย่างที่กล่าวไปว่า สาเหตุของอาการปวดมีได้หลายรูปแบบ ดังนั้นการรู้ที่มาของอาการปวดหลังนี้ จะช่วยให้แพทย์เฉพาะทางช่วยวางแผนการรักษาอาการปวดหลังได้อย่างเหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล และมีประสิทธิภาพในการรักษาเพิ่มมากขึ้น
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
การรักษาแบบไม่ผ่าตัดนี้มีแนวทางหลักๆ คือ
- การทานยา ด้วยการปรับยาแก้ปวดให้เหมาะสมต่ออาการ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยแพทย์เฉพาะทางด้านระงับปวด
- การฉีดยา เช่น การฉีดยาเข้าหลอดเลือด การฉีดยาเข้าที่ข้อต่อ หรือการฉีดสเตียรอยด์เข้าที่ไขสันหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระงับสัญญาณปวดจากเส้นประสาทมากยิ่งขึ้น
- การกายภาพบำบัด เพื่อเพิ่มความแข็งของกล้ามเนื้อในการพยุงร่างกาย ก็ลดอาการปวดหลังได้ รวมถึงการประคบร้อนและการนวด ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเช่นกัน
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
แน่นอนว่าปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์ถูกพัฒนาไปไกลมาก และการนำเทคโนโลยีเข้ามารักษาอาการปวดก็กำลังเป็นที่นิยม เพราะได้ผลดี และไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเลย
- การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency Ablation) สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง แพทย์เฉพาะทางจะทำการยิงคลื่นเข้าที่หลัง เพื่อบล็อกสัญญาณปวดจากเส้นประสาท
- การใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ เพื่อลดการอักเสบและขัดขวางสัญญาณปวดจากเส้นประสาท
- นอกจากนี้ ก็ยังมีการเพิ่มระดับความเข้มข้นระงับสัญญาณปวดจากเส้นประสาทและไขสันหลังด้วย คลื่นกระแทก (Shock wave therapy) การยิงเลเซอร์ เป็นต้น
การรักษาแบบการผ่าตัด
นั่นเป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อร่างกายไม่มีการตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่นๆ แต่อย่างไร เทคโนโลยีการรักษาดังที่กล่าวไป ก็เพียงพอต่อการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังแล้ว
อาการปวดหลัง อาจไม่ใช่เรื่องธรรมดา อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ยิ่งถ้าปวดหลังแบบเรื้อรัง ยิ่งห้ามปล่อยไว้นาน ในกรณีนี้ แนะนำว่า เข้าปรึกษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉพาะทางเพื่อรับการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง เข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง ตรงจุด เพื่อคืนคุณภาพชีวิตดีๆ ให้ตัวเองอีกครั้งหนึ่ง