ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ด้วยมูลค่าตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจในคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น แม้ว่าปัจจัยภายนอกอย่างนโยบายการกำกับดูแลและภาวะเศรษฐกิจโลกจะยังมีผลกระทบต่อตลาด แต่แนวโน้มในระยะยาวยังคงมีศักยภาพอย่างมากสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสในการลงทุน
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญคือการเลือก Crypto Wallet ที่ดีที่สุด เพื่อใช้ในการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย การเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดคริปโตมาพร้อมกับความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มากขึ้น ทำให้การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีมาตรการป้องกันที่ดีและเชื่อถือได้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม นักลงทุนควรพิจารณาใช้กระเป๋าเงินที่รองรับหลายสินทรัพย์และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อลดโอกาสในการถูกแฮ็ก
ในรายงานมูลค่าตลาดของปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลหลายรายการให้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะเหรียญ XRP ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด นักลงทุนเริ่มมองคริปโตเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ขณะที่บางส่วนยังคงกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาด แม้ว่าการกำกับดูแลจะเข้มงวดขึ้น แต่ความสนใจจากสถาบันการเงินและบริษัทเทคโนโลยีกลับเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดคริปโตในไทยมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากผ่านพ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา รายงานตลาดคริปโตของไทยนั้นได้เพิ่มมูลค่ามากเกือบ 9% โดยแตะเกือบ 1 แสนล้านบาทในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักอย่างมาก โดยเฉพาะ XRP ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่ามีการเติบโตมากที่สุด โดยมูลค่าการตอบโตของพวกเขาคิดเป็น 43.55% ของราคาปัจจุบัน และผลตอบแทนรายปีสูงถึง 503.23% เลยทีเดียว
โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 2,977 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของบุคลลธรรมดาในประเทศสูงถึง 44% จากจำนวนนักลงทุนทั้งหมด รองลงมาคือนิติบุคคลต่างประเทศ และบุคคลธรรมดาในต่างประเทศ และนิติบุคคลในประเทศตามลำดับ
ไม่เพียงเท่านั้น การเติบโตของตลาดยังคงดูจำนวนสินทรัพย์ที่เปิดซื้อขายในประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากถึง 250 สกุลเงิน โดยทั้งหมดนี้คิดจากการซื้อขายผ่านศูนย์ไทยเท่านั้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ตลาดจะมีภาพรวมที่ดูดี แต่บางสกุลเงินก็มีการลดลงในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ ETH และ BNB ซึ่งราคาลดลงอยู่ที่ 2.64% และ 4.94% ตามลำดับซึ่งในอนาคตเราได้แต่หวังว่าการใช้งานของทั้งสองสกุลเงินนี้จะมีความกว้างขวางมากขึ้น ถึงแม้ ETH จะมีคุณสมบัติในการสร้างบล็อกเชนหรือสร้างโครงการใหม่ ๆ ก็ตาม
แต่ก็มีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Solana ที่ตอนนี้มาแรงในแง่ของการค่าธรรมเนียมที่ต่ำและการทำธุรกรรมเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ทำให้ ETH อาจจะต้องมองหากลยุทธ์หรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้นักพัฒนากลับมาสนใจพัฒนาโครงการภายใต้บล็อกดังกล่าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของเหรียญต่อไปในอนาคต
อย่างไรแล้ว ถึงแม้สัดส่วนของนักลงทุนในไทยเองนั้นจะมาจากบุคคลธรรมดาเป็นส่วนมาก แต่ดูเหมือนว่าตลาดจะไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดเท่าใดนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ในเรื่องของต้นทุน เศรษฐกิจ และการเมือง