พ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร ความสำคัญ ข้อบังคับ และวิธีต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ง่าย ๆ

การขับรถบนท้องถนนไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่ยังเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความรับผิดชอบตามกฎหมาย และสิ่งที่เจ้าของรถต้องทำเป็นประจำทุกปีคือการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ (พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย

 พ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก

ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. รถยนต์

ADVERTISMENT
  1. ค่ารักษาพยาบาล หากบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์คุณจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง
  2. การสูญเสียอวัยวะสำคัญ หากสูญเสียอวัยวะสำคัญจากอุบัติเหตุทางรถยนต์คุณจะได้รับความคุ้มครองด้วยเงินชดเชย ตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท
  3. เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณจะได้รับความคุ้มครองด้วยเงินชดเชย สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน
  4. ค่าชดเชยรายวัน หากบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน คุณจะได้รับความคุ้มครองด้วยเงินชดเชยการขาดรายได้ 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. และประกันภาคสมัครใจต่างกันอย่างไร

พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี หากไม่มี พ.ร.บ. จะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้และถือว่าผิดกฎหมาย ให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก โดยให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร

ADVERTISMENT

ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเป็นประกันภัยที่เจ้าของรถสามารถเลือกทำเพิ่มเติมได้ตามความต้องการและงบประมาณ ไม่ได้บังคับโดยกฎหมาย ความคุ้มครองขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่เลือก เช่น ประกันชั้น 1, 2+, 3+ หรือ 3 ซึ่งจะมีคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณีด้วย

สรุปความแตกต่าง

พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี ส่วนประกันภัยภาคสมัครใจเป็นการทำเพิ่มเติมตามความต้องการของเจ้าของรถ

พ.ร.บ. คุ้มครองเฉพาะผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ ส่วนประกันภัยภาคสมัครใจให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ด้วย

ทำไมต้องต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และผลกระทบหากไม่ต่อ

การต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของรถทุกคน เนื่องจากเป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

ผลกระทบหากไม่ต่ออายุ พ.ร.บ.

  1. หากไม่มี พ.ร.บ. หรือปล่อยให้หมดอายุ จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตามกฎหมาย
  2. การต่อภาษีรถยนต์ประจำปีจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ หากไม่มีจะไม่สามารถต่อภาษีได้
  3. หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ไม่มี พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจะไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ซึ่งอาจทำให้ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง

ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ง่ายและสะดวก ไม่ต้องเสียเวลา

การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการเดินทางไปยังสำนักงานต่าง ๆ คุณสามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ที่ให้บริการ โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ดังนี้

  1. เริ่มต้นด้วยการเข้าสู่เว็บไซต์ที่ให้บริการซึ่งมีให้เลือกหลายบริษัท เช่น insurverse จากนั้นกรอกข้อมูลรถยนต์ โดยระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น ยี่ห้อ รุ่น ปีที่จดทะเบียน และข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น
  2. เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยให้เลือกแผนประกันและดำเนินการชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือการโอนเงิน
  3. หลังจากชำระเงินสำเร็จจะได้รับกรมธรรม์ทางอีเมล ซึ่งสามารถนำไปใช้ต่อภาษีรถยนต์ได้ ขั้นตอนทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณต่อ พ.ร.บ. ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สำนักงานประกันภัย

การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง คุณจะมั่นใจได้ว่ารถของคุณพร้อมใช้งานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขับขี่รถได้อย่างสบายใจไร้กังวล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image