AMLBot Thailand บริษัทให้บริการติดตามและทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกหลอกให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพ หรือ คอลเซ็นเตอร์ ได้ออกมาให้ข้อมูลหรือความรู้ว่า ขบวนการคอลเซ็นเตอร์จะเปลี่ยนเงินบาทที่ได้จากเหยื่อเป็นทรัพย์สินดิจิทัล (Cryptocurrency) ทั้งหมด ซึ่งเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน ถูกออกแบบมาเพื่อปกปิดตัวตนและทำให้ยากต่อการติดตามของเจ้าหน้าที่ โดยมักจะใช้เทคนิคที่หลากหลายเพื่อหลอกลวงเหยื่อและฟอกเงินเพื่อให้ดูเหมือนเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ซึ่งกระบวนการต่างๆ สามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ ดังนี้
การหลอกลวงเหยื่อเพื่อเอาเงิน
การติดต่อเหยื่อผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ หลอกล่อให้เหยื่อเชื่อใจและตายใจจนหลงเชื่อและโอนเงินให้กับมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ใช้บัญชีม้ารับเงินจากเหยื่อ
บัญชีที่ใช้รับเงินจากเหยื่อของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบจะทั้งหมดมักจะเป็นบัญชีม้า ซึ่งที่มาของบัญชีม้าก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น จ้างบุคคลเปิดบัญชีและเสนอค่าตอบแทนเป็นเงินก้อนหรือเงินรายเดือน, หลอกลวงบุคคลที่มีความเดือดร้อนหรือรู้ไม่เท่าทัน เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย หลอกให้เปิดบัญชีโดยไม่รู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรม
หลังจากเหยื่อโอนเงินจากบัญชีของตนออกไปที่บัญชีม้าของมิจฉาชีพแล้ว มิจฉาชีพจะทำการโอนต่อไปยังบัญชีม้าอื่นๆ ต่ออีก 3-5 บัญชีขึ้นอยู่กับความรอบคอบหรือขั้นตอนการทำงานของมิจฉาชีพ แต่หากเป็นมิจฉาชีพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อาจจะรับเงินมาแล้วถอนเงินสดออกมาใช้ทันทีโดยไม่มีการโอนต่อไปยังบัญชีม้าอื่นๆ ซึ่งบัญชีม้าบางบัญชีอาจถูกปิดทิ้งทันทีหลังใช้งาน รูปแบบการโอนเงินของบัญชีม้าจะมีลักษณะที่เหมือนๆกัน คือ จะโอนเงินออกจากบัญชีทันทีหลังจากที่ได้รับเงินจากเหยื่อ จะไม่มีการเก็บเงินทิ้งไว้ในบัญชี เพราะกลัวการถูกอายัดบัญชีจากธนาคาร
ตัวอย่างเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)
หลังจากที่มิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้เหยื่อทำการโอนเงินแล้ว จะทำการแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ทันที ซึ่งมิจฉาชีพมักจะใช้สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เป็นเครื่องมือในการซ่อนร่องรอยทางการเงิน เนื่องจากการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลมีความเป็นส่วนตัวสูง มีอิสระทางการเงินเพราะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารหรือรัฐบาลใดๆ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบโดยหน่วยงานทางกฎหมาย และยังสามารถโยกย้ายเงินข้ามประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัด
แต่ถึงจะบอกอย่างนั้นสกุลเงินดิจิทัลก็มีข้อดีอยู่ เพราะการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้นทำอยู่บน “บล็อกเชน” (Blockchain) เปรียบเสมือนเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ใน “บล็อก” ซึ่งบล็อกเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันเป็น “โซ่” และไม่มีใครสามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงข้อมูลได้ ทำให้ธุรกรรมต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ตัวอย่างเส้นทางการเงินดิจิทัลของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
การตรวจสอบเส้นทางการเงินของทีมงาน AMLBot
การฟอกเงิน (Money Laundering)
เมื่อมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทำการแลกเปลี่ยนเงินที่ได้รับมาอย่างไม่ถูกต้องให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) แล้ว ก็จะทำการฟอกเงินต่อเป็นขั้นตอนสุดท้าย
การฟอกเงินของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นกระบวนการที่พยายามจะเปลี่ยนเงินที่ได้มาจากการทำผิดกฎหมายให้กลายเป็นเงินที่ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย กระบวนการนี้ซับซ้อนและมักจะใช้หลายขั้นตอนเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงิน
วิธีการฟอกเงินของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
- การแปลงเป็นสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำ, รถยนต์ หรือ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงิน
- การลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่น การซื้อหุ้น, กองทุน หรือ ตราสารอนุพันธ์ เป็นต้น การซื้อหุ้นหรือการเข้าร่วมโครงการลงทุนจะทำให้ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย
- การจัดตั้งบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมาย มิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะตั้งบริษัทเพื่อสร้างรายได้ที่ดูถูกกฎหมาย และใช้บริษัทในการเคลื่อนย้ายหรือโยกย้ายเงินที่ผิดกฎหมาย
การที่ขบวนการคอลเซ็นเตอร์เลือกเปลี่ยนเงินบาทจากเหยื่อเป็นสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ไม่ได้เป็นเพียงเทคนิคปกปิดร่องรอย แต่เป็นกระบวนการที่วางแผนอย่างซับซ้อน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและยึดทรัพย์จากภาครัฐ
แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเปิดโอกาสให้ตรวจสอบธุรกรรมได้ แต่กลุ่มมิจฉาชีพก็ยังใช้วิธีการฟอกเงิน เช่น การแปลงเป็นทรัพย์สินรูปแบบอื่น การลงทุน หรือการตั้งบริษัทบังหน้า เพื่อให้เงินผิดกฎหมายดูเหมือนถูกต้อง
ดังนั้น การต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์จากมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องอาศัยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน หน่วยงานรัฐ และองค์กรเอกชน เพื่อลดความเสียหายและสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม
AMLBot Thailand ให้บริการติดตามทรัพย์สินที่โดนมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน ให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง
“เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”
- Website : https://amlbot.in.th/
- Line : @amlbot
หากท่านต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม อ่านรายละเอียดได้ที่ : https://amlbot.in.th/เส้นทางโอนเงินมิจฉาชีพ/