ประชากรกลุ่มเฉพาะกว่า 4,300 คน รวมพลังกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประกาศ 5 ทิศทางสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับสิทธิ สวัสดิการ และนวัตกรรม มุ่งสร้างสังคมที่ทุกคนมีคุณค่าและอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี สสส. จัดพิธีปิดการประชุมวิชาการ “เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ ครั้งที่ 3” (Voice of the Voiceless) ภายใต้แนวคิด “รวมพลังหุ้นส่วนสุขภาวะ ก้าวไปด้วยกันอย่างเท่าเทียม” โดยมีภาคีเครือข่ายประชากรกลุ่มเฉพาะจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 4,300 คน
ภายในงาน นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ พร้อมด้วย นายสว่าง ศรีสม และนางสาวจิตติมา ภานุเดชะ ตัวแทนภาคีเครือข่ายฯ ได้ร่วมกันประกาศ “5 ทิศทางหลัก” เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและสร้างสังคมที่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนี้
- เราทุกคนต้องไม่ยอมจำนนและเสียงของประชากรกลุ่มเฉพาะต้องได้รับการตอบสนองเชิงนโยบายอย่างเป็นธรรม ผ่านการผลักดันชุดข้อเสนอสวัสดิการถ้วนหน้าจากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน การแก้ไขเชิงโครงสร้างเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ และการคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงทุกกลุ่ม รวมถึงความรุนแรงบนฐานเพศ
- ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ สวัสดิการ และการพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยสานต่อการพัฒนาต้นแบบพิสูจน์สิทธิ และพัฒนาสิทธิของกลุ่มประชากรไร้สถานะ สนับสนุนการเข้าถึงสิทธิของแรงงานที่ถูกละเมิด โดยส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมเข้ามามีบทบาทกำหนดทิศทางแผนพัฒนาร่วมกับภาครัฐ
- ส่งเสริมโมเดล นวัตกรรม ที่เป็นการทำงานร่วมกันแบบหุ้นส่วน เพื่อการตั้งหลักชีวิตของกลุ่มประชากรกลุ่มเฉพาะที่เปราะบาง และรองรับสังคมสูงวัย ทั้งในด้านทรัพยากร ความคิด ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างสังคมที่เอื้ออาทรต่อกัน
- ลดอคติและการเลือกปฏิบัติ เคารพความหลากหลายของสังคม โดยการสร้างความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้คนที่มีความแตกต่างกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อประชากรกลุ่มเฉพาะว่าเป็นผู้ร่วมสร้างเศรษฐกิจและสังคมไทย
- พัฒนาศักยภาพและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมของทุกคนผ่านกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะ การรู้เท่าทันสื่อและภัยไซเบอร์ และการออกแบบพื้นที่และบริการให้ปลอดภัย เข้าถึงได้ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติอย่างทั่วถึงและครอบคลุม ทั้งหมดนี้เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทุกคนเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน มีสุขภาวะที่ดี มีโอกาสในการพัฒนาตนเอง และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเท่าเทียม
การประกาศเจตนารมณ์ครั้งนี้ คือก้าวสำคัญของสังคมไทยในการก้าวข้ามมายาคติ และทลายกำแพง “เขา–เรา” เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ยอมรับในความต่าง เห็นคุณค่าทุกชีวิต และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง