เมื่อเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน มูลนิธิเพื่อสันติภาพและการพัฒนา แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กระทรวงวิเทศสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ร่วมด้วยสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้จัดงานสัมมนาสื่อมวลชนไทย-จีน เพื่อการพัฒนาต่อเนื่องประจำปี 2016 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-6 มีนาคม
โดยมีผู้แทนสมาคมวัฒนธรรมไทยจีน อาทิ นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อุปนายกและเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะผู้แทนสื่อมวลชนของรัฐ อาทิ นางสาวปราณี ศรีประเสริฐ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , นางนันทิกาญจน์ สวัสดิ์ภักดี ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สังกัด สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , นางปรีห์กมล ถนอมศักดิ์ชัย ผู้อำนวยการส่วนการประชาสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ และคณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักได้เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาดังกล่าว
โดย นายไพศาล กล่าวว่า การที่ไทยจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากจีนในอนาคตจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง เพราะตามปกติแล้วเรมักจะได้รับข่าวสารจากทางสื่อตะวันตกเพียด้านเดียว แต่การได้รับรับข้อทูลทั้งสองทางจะเป็นการช่วยสร้างสมดุลทางข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น
“ในอนาคตทางสมาคมขอสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันของทั้งสองประเทศ สร้างโครงข่ายสื่อ มีการเยี่ยมเยียนกันระหว่างสื่อของทั้งสองประเทศ เพื่อการพัฒนาสื่อไทยไปสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้นและเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้”
ต่อมาเวลา 14.30 น.ที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง ได้เริ่มจัดพิธีเปิดงานสัมมนาสื่อมวลชนไทย-จีน โดยมี นายจี้ ผิง รองเลขาธิการ มูลนิธิเพื่อสันติภาพและการพัฒนา แห่งสาธารณรัฐประชาชนจี (CFPD) ขึ้นกล่าวเปิดงาน และเปิดการสัมมนาบรรยายในหัวข้อ เส้นทางเศรษฐกิจสายไหมทางทะเล ศตวรรษที่ 21 – A Civil Perspective
นายจี้ ผิง กล่าวว่า การเชื่อมโยงระหว่างบุคลากรจะนำไปสู่ความเข้าใจกัน และสามารถสื่อสารกันได้ดีขึ้น และเพิ่มความสัมพันธ์ในรูปแบบพี่น้องให้แน่นแฟ้น จนสามารถมีการแลกเปลี่ยนในระดับที่ลึกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาเพื่อความเจิรญก้าวหน้าของทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง เองก็ได้เน้นย้ำในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีการเกื้อกูลและให้เกี่ยรติกันอยู่เสมอ” นายจี้ ผิง กล่าว
นายจี้ ผิง กล่าวอีกว่า ด้วยหลักการดังกล่าวจึงนำมาสู่คำเชิญเพื่อจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่เพื่อให้สื่อมวลชนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ รู้จักประเทศจีนมากยิ่งขึ้น แต่เป็นโอกาสอันดีที่ประเทศจีนจะได้มีโอกาสรู้จัก รับฟังความคิดเห็นของสื่อมวลชนไทย ส่วนตัวจึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศในอนาคต
โดยหลังจากการสัมมนาทางมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่งได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่คณะเป็นการเสร็จสิ้นงานเสวนาในวันแรก
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีขื่อเสียงอันเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาภาษาต่างประเทศของประเทศจีน และเป็นแหล่งผลิตนักการทูตที่มีชื่อเสียงและมีบทบาททางการเมืองของประเทศจีนมาโดยตลอด รวมถึงยังเป็นสถาบันที่มีหน้าที่ในการแนะนำประเทศจีนเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับนานาประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเรียนการสอนในภาคภาษาไทยอีกด้วย
