สสว. เตรียมพาผู้ประกอบการไทยต่อยอดเปิดตลาดตะวันออกกลาง งาน Thai Trade Exhibition Oman 2017

สสว. เตรียมพาผู้ประกอบการไทยต่อยอดเปิดตลาดตะวันออกกลางหลังจากประสบความสำเร็จในปีที่แล้ว ในงาน Thai Trade Exhibition Oman 2017  ตั้งเป้าขยายธุรกิจให้มียอดขายเติบโต 3 เท่าในปี  2563 ให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

นางชไมพร เจือเจริญ ที่ปรึกษา สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)   ด้านการประสานงานการตลาดต่างประเทศ  เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ  SMEs  ไทย ในการนำสินค้าและบริการไปเปิดตลาดในประเทศตะวันออกกลาง  สสว. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดเสวนาเรื่อง “ เปิดโลกตะวันออกกลาง … ขุมทรัพย์ SMEs ไทย ”  และจัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการสามารถสมัครสมาชิก ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาแนะนำในด้านการตลาดและด้านบริหารจัดการจากที่ปรึกษาด้านการตลาด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้ง ได้เชิญผู้ประกอบการทีประสบความสำเร็จในตลาดตะวันออกกลาง 3 ราย จาก 32 ราย ที่เคยร่วมเดินทางไปกับ สสว.  เพื่อเจรจาทางการค้าและแสดงสินค้าและบริการในงาน Thai Trade Exhibition Oman  2016   ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และกรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน  ในปีที่ผ่านมาเข้าร่วมเสวนา โดยในครั้งนั้นสินค้าไทยที่ได้รับความสนใจ คือ ผลไม้แปรรูป โดยเฉพาะมะพร้าวอบแห้ง และผลไม้แปรรูปต่างๆ  เครื่องสำอาง สปา  อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องหนังและเครื่องประดับ

ชไมพร เจือเจริญ

ในปี 2017 นี้ เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายตลาดการส่งออกสินค้าและการร่วมทุนกับนักธุรกิจของ  SMEs ไทย กับตะวันออกกลาง สสว. ได้เตรียมคัดเลือกผู้ประกอบการเดินทางไปแนะนำสินค้าและบริการพร้อมเจรจาธุรกิจในงาน Thai Trade Exhibition Oman 2017  ระหว่างวันที่ 9-15 พฤษภาคมนี้ ณ โอมาน คอนเวนชั่น แอนด์  เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ มัสกัต   รัฐสุลต่านโอมาน

“ สสว. เป็นหน่วยงานแรกที่สนับสนุน  SMEs ไทย อย่างเป็นรูปธรรม ในการพาผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปเปิดตลาดในตะวันออกกลาง โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการแสดงสินค้าและการเดินทางบางส่วน จึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยรักษามาตรฐานสินค้าให้ยั่งยืน เราตั้งเป้าว่า จะช่วยให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจให้มียอดขายเติบโต 3 เท่าในปี  2563 และสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ในที่สุด  ” นางชไมพร กล่าว

Advertisement

นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานสภาธุรกิจไทยในดูไบ และรัฐตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า  SMEs ไทยในมุมมองของตะวันออกกลางมองว่าเป็นสินค้าดี มีคุณภาพ ราคาย่อมเยา ในแต่ละปีอัตราการเพิ่มของชาวตะวันออกกลางเข้ามาหาลู่ทางในการนำสินค้าไปไปจำหน่ายมากขึ้น ภาษาไม่ใช่อุปสรรคในการสื่อสาร คุณภาพสินค้าเป็นจุดแข็ง สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ เครื่องสำอางที่มีสีสัน เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน  เป็นสินค้าที่กำลังได้รับความสนใจสูงสุด  ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดทีมีศักยภาพและกำลังซื้อสูง ประชากรกำลังขยายตัว ประชากรอยู่ในวัยทำงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอมานกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ สนามบินแห่งใหม่ จะทำให้โอมานกลายเป็นเป็นประตูการค้าระหว่างอาเซียนกับตะวันกลางในอนาคตอันใกล้นี้

นายกฤษณ์ แจ้งจรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษํท เอ็ม.วาย. อาร์. คอสเมติก โซลูชั่น จำกัด  ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องสำอาง กล่าวว่า จากการที่เป็นสมาชิก สสว. ได้รับข่าวสารเรื่องการเดินทางไปแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ และได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 35 ผู้ประกอบการในการเดินทางไป พบว่า โอมานมีกำลังซื้อ แต่ไม่มีทรัพยากรที่จำนำมาผลิต เน้นนำเข้าสินค้ามาอุปโภค บริโภค และผู้หญิงมีศักยภาพในการใช้จ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม  สินค้าที่ทำจากไม้กฤษณา  เช่น น้ำหอม และกลิ่นตะไคร้ได้รับความนิยมสูงสุด

นางสาวประภัสรา รติพรทิพย์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจนลิลลี่ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้าแคนวาส  ที่มีคุณสมบัติเด่นคือ น้ำหนักเบา ทนทาน ราคาย่อมเยา ได้นำผลิตภัณฑ์ไปแสดงที่ตะวันกลาง ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะสินค้าสำหรับแม่และเด็กจะได้รับความนิยม  หากผู้ประกอบการที่จะเดินทางไปในปีนี้ ให้เตรียมสินค้าไปให้เต็มที่ เพราะพฤติกรรมคนที่นั่นตัดสินใจซื้อง่ายมาก  เตรียมข้อมูลสินค้าเพื่อขยายตลาดแฟรนไชนส์

Advertisement

อย่างไรก็ตาม  ผู้ประกอบการที่สนใจเดินทางไปกับ สสว. เพื่อแนะนำสินค้าและบริการพร้อมเจรจาธุรกิจในงาน Thai Trade Exhibition Oman 2017  สามารถสมัครเพื่อรับการคัดเลือกระหว่างวันที่ 25-27 เมษายนนี้ สอบถามข้อมูลได้ที่ คุณดาริกา 02 -728 7700-1 ต่อ 128 หรือคุณณัฐฐา  02- 298-3227

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image