เที่ยวสุดฝัน ล่าสุดใจ ไกลกว่าแสงเหนือที่ “ไอซ์แลนด์”

 

Trip Advisor สำรวจนักท่องเที่ยวกว่า 4 หมื่นคนทั่วโลก พบว่าการท่องเที่ยวแบบมองหาประสบการณ์แปลกใหม่เป็นหนึ่งเทรนด์สำคัญ นั่นคงเป็นที่มาให้จุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวที่ตอนนี้กำลังฮิป และฮิตมากๆ คือการเดินทางไปตามล่าแสงเหนือที่เชื่อกันว่าแสงออโรร่าที่มีสีเขียวระบายทาบอยู่ทั่วท้องฟ้า เป็นปรากฏการณ์พิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป แต่จะมีช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นที่จะมีแสงเกิดขึ้นชัดเจน และค่อยๆ ลดลง จนกว่าจะวนกลับมาจรัสแสงอีกก็ใช้เวลาอีกหลายปี

ความน่าตื่นเต้นของการล่าแสงเหนือคือต้องเดินทางไปประเทศแถบขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ แต่ประเทศที่ถูกพูดถึงมากในการตามล่าแสงเหนือในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือ ไอซ์แลนด์ นั่นเป็นเพราะไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่เดินทางไม่ไกลจนเกินไป อากาศหนาวเย็นแบบพอรับไหว อากาศบริสุทธิ์ติดระดับโลก และนอกจากตามล่าแสงเหนือแล้ว ไอซ์แลนด์ยังมีภูมิประเทศ และสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจหลายแห่งทั้งธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง น้ำพุร้อน และน้ำตก ให้ได้เพลิดเพลินคุ้มค่ากับการเดินทางที่เป็นมากกว่าการตามล่าแสงเหนือ จนทำให้ไอซ์แลนด์ติดอันดับจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวจากหลายสำนัก

Advertisement

 

7 ที่ไม่ควรพลาดกับ 7 วันในไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นการไปเยือนไอซ์แลนด์จึงต้องใช้เวลาดื่มด่ำกับสถานที่ที่สวยงาม และภูมิทัศน์แปลกตาที่ทั้งมนุษย์ และธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา แต่หากมีเวลาเพียง 7 วัน ที่ไหนบ้างในไอซ์แลนด์ที่เราไม่ควรพลาด

เริ่มกันที่ โบสถ์ฮัลล์กรีมสเคิร์กคจา (Haallgrmskirkja) โบสถ์คริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ถือเป็นจุดชมวิวที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองเรกยาวิกเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเรกยาวิกอันสวยงามได้โดยรอบ และเป็นศาสนสถานสำคัญที่มีสถาปัตยกรรมเอกลักษณ์เฉพาะตัว (มองไปมองมาแอบคล้ายจรวดกระดาษที่เราพับเล่นตอนเด็กๆ) และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ เลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการผจญภัยในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์

อุทยานแห่งชาติติงเวทลี  (Thingvellir National Park) มาที่นี่ที่เดียวคุ้ม เพราะรวบสิ่งมหัศจรรย์หลายๆ อย่างไว้ในที่เดียว เช่น รอยแยกของเปลือกโลกที่เป็นการแยกระหว่างทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และที่นี่ยังมีทุ่งลาวาขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยมอสหนาทั่วแผ่นดิน หาชมไม่ได้ในส่วนอื่นของโลก นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนเกย์เซอร์ (Geysir) ที่มีน้ำพุ่งขึ้นเองตามธรรมชาติสูงถึง 30 เมตร ให้นักท่องเที่ยวเฝ้ารอการดันตัวขึ้นมาขอน้ำทุกๆ 15 นาที อย่างตื่นตาตื่นใจ

ซิ่งสโนว์โมบิล ลุยธารน้ำแข็งแลงโจคุลล์ (Langjokull Glacier) สุดยอดประสบการณ์ที่นักเดินทางจะไม่ได้แค่ยืนชมธารน้ำแข็งอยุ่ริมตลิ่ง แต่สวมวิญญาณชาวขั้วโลกขี่สโนว์โมบิลเข้าไปสัมผัสกับธารน้ำแข็งแลงโจคูลล์ที่มีขนาดใหญ่มหึมาสุดลูกหูลูกตาตระการตาตรงหน้าด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด

น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) น้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ถึงกับมีการกล่าวขานว่าเป็นน้ำตกไนแองการาแห่งไอซ์แลนด์ ด้วยความใหญ่ ลักษณะของน้ำตกที่หักมุมโค้งวนเป็นขั้นๆ ลาดเอียงลดหลั่นไล่ระดับลงสู่เบื้องล่าง และปริมาณน้ำที่มากมายมหาศาลที่ในช่วงหน้าร้อน ในขณะที่เมื่อถึงหน้าหนาวสายน้ำที่ไหลแรงเหล่านั้นกลับเหมือนถูกสต๊าฟค้างแข็งเป็นคลื่นน้ำไว้อย่างนั้นปรากฏเป็นภาพอัศจรรย์แก่สายตาของนักท่องเที่ยว

น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogarfoss) น้ำตกที่สูงที่สุดทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ สายน้ำไหลแรงจากเบื้องบนสู่เบื้องล่างตัดกับสีเขียวของมอสที่ปกคลุมบนโขดหินทั้งสองฝั่ง เป็นภาพที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์การมาท่องเที่ยวดินแดนไอซ์แลนด์ที่มีมุมให้ถ่ายภาพทั้งจากด้านหน้า และด้านหลังของน้ำตก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสดชื่นจากสายน้ำที่ซัดกระเซ็น เมื่อแวะเวียนเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ

 

ธารน้ำแข็ง วัทนาโจคุลล์ (Vatnajokull) ธารน้ำแข็งหิมะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafell National Park) ที่นี่เอง และบริเวณใกล้เคียงมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุด แต่ที่โดดเด่น และไม่ควรพลาดคือสะพานแขวนข้ามแม่น้ำโจคุลซา ที่เป็นจุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงจุดหนึ่งของไอซ์แลนด์ด้วย

ปิดท้ายการเดินทาง 7 วันในไอซ์แลนด์หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า กลางวันตะลุยท่องเที่ยว กลางคืนไล่ล่าแสงเหนือ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นมาหลายวัน การได้ก้าวเท้าลงทิ้งตัวสัมผัสกับไออุ่นของ บลูลากูน (Blue Lagoon)  แหล่งน้ำแร่ชื่อดังที่สุดในโลกที่ทั้งดูแลสุขภาพ และเสริมความงามได้ในคราวเดียวกัน คงจะเป็นรางวัลสุดยอดที่ช่วยให้ฟินไม่แพ้การได้เห็นแสงออโรร่าที่ตั้งใจมาตามหาในการเดินทางครั้งนี้

7 วันในไอซ์แลนด์แม้จะเป็นระยะเวลาที่ไม่ยาวนัก โดยเฉพาะเมื่อได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่เวลาช่างผ่านไปราวกระพริบตา แต่ก็คุ้มที่ได้มาใช้ตาของเราถ่ายภาพความทรงจำสุดอัศจรรย์ และปรากฏการณ์ที่ยากยิ่งจะได้เห็นซักครั้งในชีวิต

 

# # #

รูดเดียว! ก็ได้พิชิตประสบการณ์แสงเหนือแล้ว

อวดประสบการณ์สุดขั้วโลก และเปิดโฉมหน้าลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทยทั้ง 20 ชีวิตที่มีโอกาสลัดฟ้าไปเปิดประสบการณ์สุดขั้วโลก “รูดล่าแสงเหนือ” พิชิตขุมทรัพย์อาณาจักรไอซ์แลนด์ จากสิทธิ์ที่ได้รับในการร่วมกิจกรรมที่ได้รับ 1 สิทธิ์ในการลุ้นรางวัลทุกๆ การใช้จ่าย 1,000 บาทต่อ 1 เซลล์สลิป ก็ได้มีครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ท่องเที่ยวทริปในฝันกับบัตรเครดิตกสิกรไทย เตรียมพบกับกิจกรรม “รูดล่า” ครั้งใหม่ได้เร็วๆ นี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

# # #

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image