“ไอเฟค” เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการ 11 พ.ค.นี้ “วิชัย-ผู้ถือหุ้น” วอน ทวิช เข้าร่วมประชุม เพื่อทำตามคำเรียกร้องของรายย่อย ที่ต้องการให้เร่ง”แก้ไขปัญหาหนี้-ปลดเอสพี” ด่วนพร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานทดแทนต่อเนื่อง หลังผู้ถือหุ้นมั่นใจธุรกิจเติบโต และสร้างรายได้ดี ขณะ “ทวิช” ลั่นต่อหน้าผู้ถือหุ้นหนุนขายดาราเทวี และเสนอขายหุ้นคืนวิชัย
สำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีผู้ถือหุ้นให้ความสนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 500 ราย โดยการประชุมในครั้งนี้ผู้ถือหุ้นให้ความสนใจ และมีการซักถามหลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มีการคัดเลือกกรรมการแทนกรรมการที่หมดวาระไป 3 ท่าน โดยกรรมการใหม่ที่ได้รับการคัดเลือก 3 ท่านประกอบด้วย นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร พลตำรวจเอก สุนทร ซ้ายขวัญ แลนายปริญญา วิญญรัตน์ โดยนายธีติพันธ์ เป็นตัวแทนกรรมการจากลุ่มกะทิชาวเกาะ ส่วนพลตำรวจเอกสุนทร และนายปริญญา เป็นตัวแทนกรรมการจากกลุ่มนายทวิช
ขณะที่ตัวแทนที่นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ส่งตัวแทนสองคน ประกอบด้วย นายสุกิจ อังสุวรรณ และนายวิภู มหารักขะ ซึ่งทั้งสองคนเป็นลูกหม้อของไอเฟค โดยที่บุคคลทั้งสองดังกล่าว ไม่ได้รับการเลือกเข้าไปเป็นกรรมการบริษัท
นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ชี้แจงผลการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ของบริษัท ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และบริษัทได้กำหนดการประชุมคณะกรรมการ ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
นอกจากนี้ การนัดประชุมดังกล่าว เป้าหมายเพื่อต้องการให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของไอเฟค ได้เริ่มเดินหน้าอย่างจริงจัง ได้แก่ การแก้ไขปัญหาหนี้ ที่ไอเฟคมีภาระอยู่กว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ก็ได้ให้คณะกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว ได้ทำการเสนอรายชื่อที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามา ซึ่งนายทวิช ก็เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ต้องไปดำเนินการคัดสรรที่ปรึกษาการเงินเข้ามาให้คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณา เพื่อให้เข้ามาทำงานร่วมกับนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการบริษัท ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาหนี้ของบริษัท
ขณะเดียวกัน ยังต้องเร่งดำเนินการ เกี่ยวกับการปิดงบของไอเฟค ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ เป้าหมายเพื่อทำให้หุ้นของบริษัทสามารถปลดเครื่องหมายSP ให้ได้เร็วที่สุดภายในเดือนมิถุนายน
“การเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ต้องเร่งดำเนินการ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ไอเฟค ยังมีอุปสรรคเรื่องการขาดความร่วมมืออย่างจริงใจ ซึ่งในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นรายย่อย ได้เรียกร้องในเรื่องนี้ เพราะต้องการให้บริษัทเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ยุติโดยเร็ว และเดินหน้าในการทำธุรกิจพลังงานทดแทนต่อไป เนื่องจากผู้ถือหุ้น มองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว และต้องการเห็นการปลดSP ออกจากหุ้นของไอเฟคโดยเร็ว”
นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้ถือหุ้นเรียกร้องกันมากที่สุด คือ ต้องการเห็นความร่วมมือกันอย่างจริงจังระหว่างตนเอง และนายทวิช ซึ่งที่ผ่านมา ตนเอง ยินดี และพร้อมที่จะเปิดทางให้นายทวิชเข้ามาร่วมงาน และร่วมกันแก้ไขปัญหาภายในบริษัทมาโดยตลอด เพราะตนเอง ก็ต้องการเห็นธุรกิจเดินหน้าต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาแม้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายใน ตนเองและกรรมการในไอเฟคทุกท่าน รวมทั้งผู้บริหารและพนักงานไอเฟค ก็ยังเดินหน้าผลักดันธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยคิดหยุดในการผลักดันธุรกิจของไอเฟค เพราะตนเองถือว่าไอเฟคเป็นบ้านหลังหนึ่ง ที่ตนเองต้องเข้ามาร่วมผลักดัน และทำให้บ้านหลังนี้ เดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทนต่อไปได้อย่างมีศักยภาพ
“ผมรู้จักแยกแยะปัญหากับงาน ในส่วนของปัญหาก็ว่ากันไป แต่การทำงาน หรือการทำธุรกิจก็ต้องเดินหน้า เพราะบริษัทมีภาระค่าใช้จ่าย โดยในส่วนของพนักงานก็ให้ความร่วมมือกับบริษัทเป็นอย่างดี และไม่หยุดยั้งในการเป็นพลังสำคัญและร่วมเดินเคียงคู่ไปกับบริษัทตลอดที่ผ่านมาเช่นกัน”
ดังนั้นการประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ นายวิชัย กล่าวว่าต้องการให้นายทวิช เข้าร่วมการประชุมในวันดังกล่าว เพื่อร่วมกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา ช่วยกันนำพาธุรกิจให้เดินหน้าต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทมีแนวทางในการพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนที่บริษัทดำเนินการอยู่ และพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจพลังงาน เพื่อทำให้บริษัทมีรายได้ และสามารถขยายธุรกิจออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านต้องยอมรับว่า ไอเฟค เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนรายหนึ่ง ที่พร้อมจะเป็นตัวเลือกของผู้ต้องการใช้พลังงานทดแทน
“ผมวอนขอความร่วมมือจากคุณทวิชด้วย ขอให้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ เพื่อร่วมกำหนดทิศทางธุรกิจ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นต้องการเห็นความร่วมมือของคณะกรรมการอย่างจริงจังเพื่อร่วมกันนำพาธุรกิจไอเฟคให้เดินหน้า และสร้างรายได้ตามเป้าหมาย”
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง กล่าวถามนายทวิช และเรียกร้องให้นายทวิช ทำการขายโรงแรมดาราเทวี เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายโรงแรมดังกล่าว มาชำระหนี้ ซึ่งนายทวิช กล่าวต่อหน้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ยินดีที่จะให้ขายกิจการโรงแรมดาราเทวีออกไปและย้ำให้รีบเร่งดำเนินการ
“นอกจากนี้ ไม่ว่าใครจะผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นน้อย ก็ถือว่ามีสิทธิเท่าเทียมกันในบริษัท ไม่ใช่ถือหุ้นใหญ่แล้ว จะคิดว่าตนเองมีอำนาจเข้ามาคุมการบริหารทั้งหมดเบ็ดเสร็จไม่ได้” นักลงทุนรายเดิมกล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้น ยังมีผู้ถือหุ้นอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า หากนายวิชัย ต้องการ บริหารธุรกิจไอเฟคต่อ ก็ให้รับซื้อหุ้นจากนายทวิช และพวกตน ซึ่งในระหว่างการประชุม นายทวิช ก็ยืนยันต่อหน้าผู้ถือหุ้นว่า เขาเองก็ยินดีที่จะขายหุ้นไอเฟคคืนให้แก่นายวิชัย
