สสว.ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและอีก 5 ภาคี ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการ’การจัดทำโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs’ เพื่อส่งเสริม SME ที่มีศักยภาพให้สามารถขยายกิจการได้อย่างมีมาตรฐาน

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการ “การจัดทำโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs” ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท คริสตอลซอฟท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินเตอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs ให้สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินธุรกิจจาก Traditional SMEs สู่การเป็น Smart SMEs เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างมีมาตรฐาน

“ผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะขนาดย่อมและรายย่อย (Micro SME) จะมุ่งในเรื่องการเพิ่มยอดขาย และมีข้อจำกัดในเรื่องการบันทึกข้อมูลให้เป็นระเบียบ รวมถึงการทำบัญชีตามมาตรฐานสากล ข้อจำกัดนี้เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของ SME ที่มีศักยภาพ และเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ไม่สามารถกู้ยืมเงินจากระบบธนาคารได้ การสนับสนุน SME ขนาดย่อมและรายย่อยให้เติบโตจำเป็นต้องทำควบคู่กันไป ทั้งในเรื่องการช่วยเพิ่มยอดขายและการจัดระบบงานภายในให้เป็นมาตรฐาน สสว.มีโครงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของ Micro SME และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะทำร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่แล้ว โดยจะพยายามจูงใจ Micro SME ที่มีศักยภาพอยู่ในวิสัยที่จะสามารถขยายกิจการได้ให้จัดทำบัญชีให้ถูกต้อง ดังนั้น Program บัญชีแบบง่ายๆ ที่พัฒนาขึ้นมาในครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยที่สำคัญให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้ สสว.จะแนะนำให้ SME ขนาดย่อมและรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการของ สสว.นำ Program บัญชีนี้ไปใช้” นางสาลินีกล่าว

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ SMEs สามารถจัดทำระบบบัญชีที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน มีมาตรฐานสากล ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำแบบครบวงจร ทั้งการเก็บข้อมูลการขายและการจ่ายเงิน การจัดทำบัญชี การจัดเก็บเอกสารประกอบการลงบัญชี
รวมไปถึงการจัดทำงบการเงินและการนำส่งงบการเงินผ่านระบบรับงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ SMEs ในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผล และการใช้ข้อมูลทางการเงินในการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น อันเป็นการยกระดับคุณภาพให้ธุรกิจสามารถแข็งขันได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
โดยโปรแกรมดังกล่าวสามารถทำงานได้ทั้งบน PC Smart Phone และ Tablet ด้วย INET Cloud Technology ที่ได้มาตรฐานระดับโลกแบบ Hybrid สามารถทำงานได้ทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ รองรับระบบ e-Tax ของกรมสรรพากร และระบบ e-Payment ของธนาคาร ภายใต้โครงการ National e-Payment โดยเป็นการให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs อีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้น โปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs นี้ จึงเหมาะกับธุรกิจ SMEs ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถรองรับประเภทธุรกิจซื้อมาขายไปและธุรกิจบริการ โดยปัจจุบันมีจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนกับกรมธุรกิจการค้าทั้งสิ้น 1,577,779 ราย แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 915,781 ราย นิติบุคคล 661,998 ราย ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
0-2547-5981

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image