ย้ำชัดไม่เกิน 60 วัน หลังปลูกพืชในฤดูกาลผลิตใหม่ เร่งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร

กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรให้รีบมาขึ้นทะเบียนหลังเพาะปลูกพืชแล้วในฤดูกาลผลิตใหม่ปี 2560 นี้ ไม่เกิน 60 วัน หลังทำการเพาะปลูก รวมทั้งขอความร่วมมือ แจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ประจำปี 2560/61  เพื่อเก็บเป็นฐานของมูลของภาครัฐถึงสถานการณ์การผลิตพืชนิดต่างๆ โดยรวมของประเทศ เพื่อรักษาสิทธิ์การช่วยเหลือจากภาครัฐในกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ

นายประสงค์  ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ในการขึ้น/ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรจะมีการดำเนินการเป็นประจำทุกปี เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลปัจจุบันสำหรับใช้ประกอบการพิจารณาในการดำเนินงานตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ในการบริหารจัดการด้านการผลิต การตลาด การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ปัจจัยการผลิต ตลอดจนการจำแนกเกษตรกรตามกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายภาครัฐในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับผลผลิตของเกษตรกร

นอกจากนี้ยังเป็นฐานข้อมูลสำหรับการวางแผนโครงการ / กิจกรรม การส่งเสริมการเกษตรในมิติต่างๆ ที่มีความแม่นยำ ถูกต้อง และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการดำเนินงานในปัจจุบัน เป็นฐานข้อมูลสำหรับการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการ / กิจกรรมของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นฐานข้อมูลเพื่อรองรับการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ และภูมิภาคอาเซียน โดยทั้งหมดนี้เกษตรกรจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น

Advertisement

สำหรับในปี 2560 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดการขึ้น/ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

1.เกษตรกรสามารถแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล  หลังจากปลูกพืชแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน            และไม่เกิน 60 วัน

2.เกษตรกรที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูก สามารถแจ้งปรับปรุงข้อมูลได้กับอาสาสมัครเกษตรของหมู่บ้านท่าน (อกม.) หรือไปที่องค์การบริหารส่วนตำบล หรือที่ว่าการอำเภอ ที่เป็นหน่วยงานภาคีกับกรมส่งเสริมการเกษตร  โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาเป็นหลักฐานในการแจ้งปรับปรุงข้อมูล

Advertisement

3.เกษตรกรที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนมาก่อน หรือมีซื้อที่ดินเพื่อเพาะปลูกเพิ่มเติม   ให้ไปแจ้งขึ้นทะเบียนใหม่   ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ในวันและเวลาราชการ  โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงและแสดงหลักฐานแสดงสิทธิ์การถือครองที่ดินตัวจริงพร้อมสำเนาที่มีการรับรองสำเนาจากผู้ครองครอง หรือหลักฐานการเช่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลรับแจ้งแล้วจะบันทึกข้อมูลเข้าระบบทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร และจะมีการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครองเพื่อยืนยันตัวบุคคล ไม่ให้มีการขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อนของคนในทะเบียนบ้านเดียวกัน

4.หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งปลูกพืชของเกษตรกรโดยจะมีพิมพ์รายชื่อและข้อมูลออกไปติดประกาศในชุมชน และ/หรือ การวาดขอบเขตแปลงเพื่อตรวจสอบพื้นที่จริง หากพบว่าข้อมูลเป็นจริงจะยืนยันผลในระบบ และถือว่าการแจ้งปรับปรุงข้อมูลหรือขึ้นทะเบียนสำเร็จสมบูรณ์

5.เกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วเกษตรกรสามารถนำสมุดทะเบียนเกษตรกรมาปรับปรุงข้อมูลลงบนสมุดจัดเก็บไว้เพื่อแสดงตัวตน

6.หากเมื่อใดที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจำเป็นต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบและรับรองสิทธิ์ภายในชุมชนอีกครั้งหนึ่ง

โดยการขอขึ้นทะเบียนนั้น เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งปรับปรุงได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม (และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุน) ที่เกษตรกรมีพื้นที่เกษตรอยู่ สามารถแจ้งปรับปรุงข้อมูลได้ที่ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ส่วนเกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ หรือเกษตรกรรายใหม่ให้ยื่นเอกสารที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงที่ดินที่ทำกิจกรรมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะเสียบบัตรประชาชนผ่านเครื่องอ่านบัตร (Card Reader) เพื่อดึงข้อมูลส่วนบุคคลจากสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กรณีที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ Tablet ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่าน FAARMis Application เจ้าหน้าที่สามารถรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่ในพื้นที่ พร้อมวาดผังแปลงไปพร้อมๆ กันในคราวเดียวกันได้ และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรแจ้งข้อมูลตามความเป็นจริง หากมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจสำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่มารับช่วงต่อจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image