สหพันธ์การขนส่งทางบกร้องรัฐขอทบทวนกม.และข้อบังคับที่ส่งผลกระทบผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง

สหพันธ์การขนส่งทางบกร้องรัฐขอทบทวนกฎหมายและข้อบังคับที่ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง

ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยแจงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิกผู้ประกอบธุรกิจขนส่ง   พร้อมยื่นหนังสือถึงหน่วยงานภาครัฐเจ้าของโครงการ ขอให้พิจารณาปัจจัยรอบด้านที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม หวั่นต้นทุนขนส่งเพิ่มกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งเรื่องการติดตั้ง GPS  การยึดใบอนุญาตขับขี่รถบรรทุก  และการใช้มาตรฐานยูโร 4 แทนการก้าวกระโดดจากยูโร 3 ไปยูโร 5  ชะลอเวลาเพื่อเคลียร์ปัญหาความพร้อมเรื่องทุนของผู้ประกอบการ สร้างจุดพักรถบรรทุกที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้   รวมถึงร่วมแก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุก

ดร.ทองอยู่  คงขันธ์  ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เผยว่า  บทบาทหลักของสหพันธ์การขนส่งทางบกชุดนี้ที่ตั้งใจจะทำ คือ รับฟังและหาทางแก้ไขปัญหาของสมาชิก ประสานกับองค์กรภาครัฐ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ  และสร้างโครงข่ายความร่วมมือทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ  โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ทุกสมาคมมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน โดยนำนโยบายของรัฐมายึดโยงกับวิสัยทัศน์ของสหพันธ์ฯ ทั้งนี้ปัญหาเร่งด่วนที่สหพันธ์การขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการนำเสนอปัญหา และแนวทางแก้ไขเพื่อคลี่คลายผลกระทบกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

Advertisement

ผลกระทบจากการติดตั้งระบบ GPS ในรถบรรทุก ซึ่งจะมีบทบังคับใช้ทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2562  เพื่อมุ่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งรถบรรทุกรุ่นเก่ากว่า 1 ล้านคันกำลังทยอยติดตั้ง  ทั้งนี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกมีความเห็นว่า การติดตั้ง GPS เป็นการบริการจัดการเพื่อลดต้นทุนเรื่องโลจิสติกส์ แต่ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุที่แท้จริง อีกทั้งการควบคุมพฤติกรรมพนักงานขับรถบรรทุกผ่าน GPS ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ อาทิ ปัญหาค่าปรับซ้ำซ้อนจากหลายหน่วยงานในคดีเดียวกัน ในวันหรือเส้นทางเดียวกัน เพราะสามารถออกใบสั่งได้จากหน้าจอ หรือข้อกำหนดที่บังคับใช้แล้วว่าให้ขับ 4 ชั่วโมงพักครึ่งชั่วโมง แต่กลับไม่มีจุดพัก หรือ Park Terminal ที่เหมาะสมให้  จึงควรที่จะขยายเวลาออกไปจนกว่าทุกอย่างจะพร้อมมากกว่านี้

การถูกยึดใบอนุญาตขับขี่เป็นระยะเวลานานตามใบสั่ง ทำให้พนักงานขับรถต้องหายไปจากระบบ เนื่องจากไม่มีใบขับขี่มาแสดงตัวตน  เป็นการซ้ำเติมภาวะขาดแคลนพนักงานขับรถ ซึ่งปัจจุบันในระบบมีเพียง 8 แสนคน ในขณะที่รถบรรทุกมีจำนวนสูงถึง 1 ล้าน 3 หมื่นคัน  และกรณีขับรถขนส่งทางไกลระยะทางเกิน 600 กม.จะต้องมีพนักงานขับรถถึง 2 คน รวมแล้วในธุรกิจขนส่งของไทยจะต้องมีพนักงานขับรถบรรทุก 1 ล้าน 3 แสนคน  เพราะการขับรถบรรทุกโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือใช้ใบขับขี่ผิดประเภทนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น  เรื่องประกัน  ทั้งนี้อยากให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมให้การสนับสนุนวิชาชีพพนักงานขับรถบรรทุกเพื่อจูงใจให้แรงงานเข้าสู่ระบบอย่างพอเพียง

การกำหนดมาตรฐานการระบายสารมลพิษสำหรับรถบรรทุกจากยูโร 3 ก้าวกระโดดไปยูโร 5 ตามโครงการของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายบังคับใช้ในปี พ.ศ.2567  ในมุมมองของสหพันธ์การขนส่งทางบกเห็นด้วยในวัตถุประสงค์ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลภาวะในประเทศ  แต่ยังอยากให้พิจารณาตัวแปรด้านอื่นๆ ให้ครอบคลุมร่วมด้วย โดยเฉพาะปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะการปรับเปลี่ยนนวัตกรรมยานยนต์เพื่อลดมลพิษนั้น จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในระบบเครื่องยนต์ที่บริษัทรถยนต์จะต้องเพิ่มฟังก์ชั่นหรืออุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ เข้ามาทำให้ราคารถบรรทุกสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อคัน  ระบบพลังงานหรือน้ำมันดีเซลที่จะต้องกลั่นให้บริสุทธิ์มากขึ้น   ระบบการซ่อมบำรุงที่ต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการดูแลเป็นพิเศษกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ซ่อมบำรุงให้พร้อมรองรับ  ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน และทำให้ราคาสินค้าที่จะถึงมือผู้บริโภคราคาสูงขึ้น

อีกทั้งควรชั่งน้ำหนักเรื่องส่งผลกระทบต่อการค้าข้ามแดนด้วย  เพราะรถบรรทุกในประเทศเพื่อนบ้านของไทยยังใช้ยูโร 1-2 เมื่อการขนส่งสินค้ามาถึงชายแดนแต่เชื่อมโยงกันไม่ได้  โดนกักที่ด่านเพราะรถไม่ผ่านมาตรฐานมลพิษ อาจถูกมองว่าเป็นการกีดกันทางการค้า หรือการที่รถบรรทุกของไทยผ่านเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านก็จะประสบปัญหาไม่มีน้ำมันคุณภาพให้เติมอีกเช่นกัน สหพันธ์การขนส่งทางบกจึงเตรียมทำหนังสือเพื่อยื่นให้พิจารณาให้ยืดเวลาการบังคับใช้ออกไป  โดยขอให้ไปพักใช้ยูโร 4 สัก 2-3 ปี แล้วค่อยพัฒนาไปยูโร 5 และยูโร 6 ตามลำดับ แบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาปรับตัว

ปัจจุบันสมาชิกสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 12 สมาคมเดิม และอีก 6 สมาคมจากสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เพิ่งลงนามความร่วมมือกันไปเมื่อเร็วๆ นี้ รวมเป็น 18 สมาคมเพื่อช่วยเหลือในการขับเคลื่อนเรื่องสำคัญไปพร้อมๆ กัน  โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง  อีกทั้งยังมีโครงข่ายสมาชิกจากประเทศพม่า และประเทศจีนเข้ามาร่วมอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image