Hotels.com เผยไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนดีที่สุด

Hotels.com เผยไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนดีที่สุด นำญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ผลสำรวจเผยนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่ชอบเดินทางไปประเทศที่ไกลกว่าเดิม และมักมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมใช้จ่ายมากขึ้น

 กรุงเทพฯ (18 กรกฎาคม 2560) – Hotels.com™ เผยผลสำรวจข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน หรือ Chinese International Travel Monitor (CITM) ประจำปีครั้งที่ 6 เป็นการยืนยันข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนต่างเทใจเลือกให้ประเทศไทยเป็นสุดยอดแห่งดินแดนที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนดีที่สุด แซงหน้าญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง แต่ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องตระหนักถึงลักษณะของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน “รุ่นใหม่” ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีความต้องการและความชื่นชอบในรูปแบบการท่องเที่ยวที่แตกต่างไปจากเดิม

Hotels.com™ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรองที่พักผ่านระบบมือถือชั้นนำของโลกได้ทำการสำรวจข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยต่อเนื่องติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 ผ่านการสอบถามความคิดเห็นของชาวจีนกว่า 3,000 คน และพันธมิตรธุรกิจที่พักอาศัยในเครือ Hotels.com กว่า 3,800 ราย ใน 38 ประเทศทั่วโลก

การสำรวจของ Hotels.com นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการด้านธุรกิจโรงแรมทั่วโลก ให้สามารถปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีความละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น ดังที่เห็นได้จากผลสำรวจ

Advertisement

แม้ว่า ตัวบ่งชี้สำคัญหลายประการจะส่อแววให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่ผลสำรวจ CITM ในปีนี้กลับพบว่าชาวจีนในทุกช่วงวัยมีการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวสูงขึ้น โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ชาวจีนได้ใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยสูงถึง 3,600 เหรียญสหรัฐ หรือราวหนึ่งแสนสองหมื่นบาทต่อคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้ และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 24 นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวจีนยังใช้เงินโดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 28 ของรายได้เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างแดน โดยมีชาวจีนรุ่นมิลเลนเนียลที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1990 เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมามากที่สุด คิดเป็นจำนวนเงินสูงถึงร้อยละ 35 ของรายได้

 นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ เน้นรายละเอียดและวางแผนเที่ยวมากยิ่งขึ้น

Advertisement

นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ในทุกช่วงวัยเดินทางบ่อยขึ้น และยาวนานขึ้น จำนวนครั้งโดยเฉลี่ยของการท่องเที่ยวต่อปีได้เพิ่มขึ้นจาก 3 ครั้ง เป็น 4 ครั้ง และจำนวนวันต่อการท่องเที่ยวหนึ่งครั้งเพิ่มขึ้นจาก 5 วันในปีที่แล้ว มาเป็น 7 วัน นักท่องเที่ยวจีนยังใช้โอกาสในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งเพื่อเยือนเมืองหลาย ๆ แห่ง โดยกว่าร้อยละ 80 กล่าวว่าพวกเขาจะไม่พักอยู่แค่เมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น

การใช้จ่ายเงินเฉลี่ยต่อวันในระหว่างการท่องเที่ยวก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึงร้อยละ 8 และกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การรับประทานอาหาร การเยี่ยมชมทิวทัศน์ และกิจกรรมผักผ่อนหย่อนใจต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน การช้อปปิ้งกลับลดฮวบจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 35 เป็นการชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนมีรูปแบบความชื่นชอบที่หลากหลาย และมีความรอบรู้ในเรื่องการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

“สบายๆ ง่ายๆ” ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่ชาวจีนชื่นชอบ ทั้งนี้ CITM คาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจะทำการจองการเดินทางผ่านระบบกรุ๊ปทัวร์ลดลงเรื่อย ๆ ในอนาคต เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่จะใช้เวลาในการหาข้อมูลออนไลน์มากขึ้น (ใช้เวลาประมาณ 12 วัน) และมักจะเริ่มวางแผนล่วงหน้าก่อนการเดินทางนานถึง 1 – 2 เดือน วิธีการสำรองที่พักที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีการใช้งานกันอย่างล้นหลาม คือการใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือ โดยผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนสูงถึงร้อยละ 46 ได้ทำการสำรองที่พักผ่านมือถือในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยอีกร้อยละ 17 ใช้วิธีการจองผ่านเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในอันดับที่สอง

ที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัย หรือกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 60 – 69 ปี และ 70 – 79 ปี ระบุว่าพวกเขาต้องการที่จะท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กในอนาคต ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 และ 21 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมในไทยพบว่าในปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 68

ช่องว่างระหว่างสิ่งที่ผู้ประกอบการโรงแรมไทยมีให้ และความคาดหวังของนักท่องเที่ยวชาวจีน

รายงานผลการสำรวจระบุว่าโรงแรมทั้งหลายต่างมุ่งความสนใจไปที่การจัดทำโปรแกรมทางการตลาดและสื่อสังคมออนไลน์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน และผลจากการเพิ่มค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดนี้เอง จึงทำให้โรงแรมทั้งหลายกล่าวว่าการลงทุนในเรื่องบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้นลดลง รายงานนี้เผยให้เห็นถึงช่องว่างอย่างเด่นชัดระหว่างสิ่งที่โรงแรมนำเสนอเมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกค้าชาวจีนต้องการ

  • วิธีการชำระเงินของชาวจีนที่โรงแรม อาทิ การจ่ายด้วยบัตรยูเนียนเพย์ (UnionPay) ซึ่งผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้สูงเป็นอันดับที่สอง แต่ในสายตาของผู้ประกอบการโรงแรมในไทยมองว่าเงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ร้อยละ 35) ตามมาด้วยการจ่ายด้วยบัตรยูเนียนเพย์ (ร้อยละ 29) ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในประเทศลำดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมจับจ่ายด้วยบัตรยูเนียนเพย์
  • พนักงานโรงแรมที่พูดภาษาจีนกลางได้ สิ่งนี้เป็นหนึ่งในคำร้องขอลำดับต้น ๆ ของลูกค้าชาวจีน แต่เป็นเรื่องที่บรรดาผู้ประกอบการโรงแรมไม่ค่อยให้ความสำคัญ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ผู้ประกอบการโรงแรมในไทยมีแผนที่จะยกระดับบริการให้ลูกค้าชาวจีนโดยร้อยละ 35 จะพุ่งความสำคัญไปที่โปรแกรมทางการตลาดเฉพาะกลุ่ม และร้อยละ 38 มีแผนที่จะขยายสื่อสังคมของตนให้ครอบคลุมและเข้าถึงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 24 เท่านั้นที่มีแผนจะเพิ่มพนักงานหน้างานที่พูดภาษาจีนกลางได้
  • ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า ภัตตาคารหรือร้านอาหารจีนในโรงแรม ร้านค้าในโรงแรม และรูมเซอร์วิส เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนรุ่นมิลเลนเนียลใช้จ่ายเงินมากที่สุดในอันดับที่หนึ่ง สอง และสาม ตามลำดับ แต่ผู้ประกอบการโรงแรมในไทยกลับระบุว่าบริการสปาของโรงแรมเป็นสิ่งที่ลูกค้าชาวจีนใช้จ่ายเงินมากที่สุด และมากกว่าลูกค้าจากประเทศอื่น ๆ

โดยรวมแล้ว ห้าข้อหลักที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องการให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยพัฒนาเพิ่ม ได้แก่

  1. พนักงานโรงแรมที่พูดภาษาจีนกลางได้
  2. การรองรับวิธีชำระเงินของชาวจีน
  3. บริการรถรับส่งในพื้นที่
  4. มัคคุเทศก์ภาษาจีนกลาง
  5. ภัตตาคารหรือร้านอาหารจีนในโรงแรม

ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ

นักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่สร้างประโยชน์มหาศาลให้กับเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2559 มีผู้คนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจำนวน 122 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 4 และสูงกว่าปี 2554 ถึงร้อยละ 74[1]

นายอภิราม ชาวดรีย์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการของ Hotels.com ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและลาตินอเมริกา กล่าวว่า ศักยภาพการเติบโตทั้งในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน และอำนาจซื้อของพวกเขานั้นมีมากมายมหาศาล

“ผลวิจัยของเราระบุว่า นักท่องเที่ยวขาออกของจีนนั้นสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาลให้กับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ดังนั้น โรงแรมทั้งหลายจึงจำเป็นต้องนำเสนอสิ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีน และพัฒนาบริการนวัตกรรมเพื่อรองรับกับกำลังซื้อมหาศาลของพวกเขา”

“ประเทศต่าง ๆ ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกจับตามองว่าเป็นตลาดท่องเที่ยวที่กำลังจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในอนาคต ดังนั้น นอกเหนือไปจากการหาบริการที่หลากหลายเพื่อรองรับกับความต้องการในรูปแบบจำเพาะของนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว การเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้จะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งตลอดในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้”

สุดยอดจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวจีนตั้งใจไปเยือนมากที่สุดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า (จากผลสำรวจของ CITM)

อันดับในปี 2560 ประเทศ สัดส่วน

นักท่องเที่ยวชาวจีน

อันดับในปี 2559
1 ฝรั่งเศส 18% 9
1 สหรัฐอเมริกา 18% 12
3 ออสเตรเลีย 16% 1
3 แคนาดา 16% 17
5 เยอรมนี 12% 17
6 มัลดีฟส์ 11% 5
7 ญี่ปุ่น 10% 2
7 นิวซีแลนด์ 10% 12
7 สิงคโปร์ 10% 6
7 ไทย 10% 6
7 สหราชอาณาจักร 10% 17

 

# # # # #

[1] กรมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (China National Tourism Administration – CNTA)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image