สายกินห้ามพลาด งานเทศกาลอาหารถิ่น เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค ที่แหลมแท่น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และเทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมจัดเทศกาลอาหารถิ่น ‘เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค’28-30 ก.ค.ที่แหลมแท่น เอาใจนักเที่ยวสายกินด้วยอาหารถิ่นหากินยากจากห้าภาค ซีฟู้ดสดอร่อย และอีกหลายร้านดัง รวมกว่า150ร้านในบรรยากาศติดทะเล ภายในงานยังมีการเสวนากับเชฟบุ๊ค-มิสแอนเดรีย ดนตรีอะคูสติก การแสดงศิลปวัฒนธรรม มินิคอนเสิร์ต แสตมป์-อภิวัชร์, ลูกหว้า-พิจิกา และป๊อป-ปองกูล เข้างานฟรี!

กลับมาให้เหล่านักเที่ยวสายกินอิ่มอร่อยในบรรยากาศติดทะเลเป็นปีที่ 2 สำหรับงานเทศกาลอาหารถิ่นประเทศไทย หลังจากปีที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างงดงามในธีม ‘วันชื่นคืนสุขที่บางแสน(อร่อย)’ โดยปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ เทศบาลเมืองแสนสุข กำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านอาหารถิ่นภายใต้แนวคิด เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค @บางแสน ระหว่างวันศุกร์ที่ 28 ถึงวันอาทิตย์ 30 กรกฎาคม 2560 ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดสามวันพอดี ณ ลานอเนกประสงค์แหลมแท่น ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี

วัตถุประสงค์ของการจัดงาน เทศกาลอาหารถิ่นประเทศไทย ประจำปี 2560 : เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค @บางแสน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนไปยังชุมชน และผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ถึงคุณค่าอาหารไทยแบบลึกซึ้ง หรือ Local Experience ในการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาปรุงอาหารให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย

ไฮไลท์ของงานได้แก่ การคัดสรรเมนูเด็ดอาหารถิ่นที่ขึ้นชื่อหากินยากจากหลายจังหวัดใน 5 ภูมิภาคของประเทศ ทั้งภาคเหนือ อิสาน กลาง ตะวันออก และใต้ มาออกร้านให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมหรือซื้อกลับไปฝากญาติสนิทมิตรสหาย อาทิ แกงหมูชะมวง เนื้อโคขุน โพนยางคำ เต้าคั่ว ฯลฯ ไม่เพียงอาหารพื้นบ้านแสนอร่อยทั่วไทย งานจัดเมืองชายทะเลทั้งที ห้ามพลาดอาหารทะเลหรือซีฟู้ดสดใหม่มากมาย, จานเด็ดและของฝากจากร้านดังในบางแสน-หนองมน และจังหวัดชลบุรี รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าอาหารจากสถานที่ต่างๆ รวมแล้วกว่า 150 ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมเลือกชิมตลอดงานสามวัน

Advertisement

สำหรับฉะเชิงเทรา เพื่อนบ้านของจังหวัดชลบุรีที่มีแม่น้ำบางปะกงเป็นธรรมชาติเชื่อม จะนำของดีเมืองแปดริ้วใหม่มาให้นักท่องเที่ยวรู้จักภายในงาน “เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค @บางแสน” ได้แก่ ปลากะพงยักษ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ระหว่าง 3-8 กิโลกรัม

นายประโยชน์ โสรัจจกิจ รองประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา ฝ่ายพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในฐานะตัวแทนเกษตรกรกลุ่มเพาะเลี้ยงปลากะพงยักษ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า “ปลากะพงยักษ์คือปลากะพงขาวที่่เลี้ยงนานกว่า 18 เดือน จนมีน้ำหนักตั้งแต่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป เทียบกับปลากะพงขาวปกติ 7-9 ขีดที่เรากินกันเป็นจานๆตามร้านอาหารหรือโต๊ะจีน จังหวัดฉะเชิงเทราถือเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงยักษ์แห่งใหญ่ของบ้านเรา เพราะสภาพแวดล้อมและอากาศเหมาะสม จึงสามารถเลี้ยงปลาได้นานร่วมสองปี ล่าสุด ททท.ฉะเชิงเทราได้ยกให้ปลากะพงยักษ์เป็นอีกหนึ่งของดีเมืองแปดริ้ว”

Advertisement

“ที่ผ่านมา เราขายปลากะพงยักษ์เป็นตัวๆให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารภัตตาคาร ปัจจุบันมีการแปรรูป แล่เป็นชิ้น จำหน่ายเป็นแพ็คเกจ ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ปลากะพงยักษ์ของเราผ่านขบวนการเอาเลือดออกแบบญี่ปุ่น แบบเดียวกับปลาแซลมอน บวกกับการหมักบ่มระยะเวลาหนึ่ง เนื้อปลาจึงขาว หนา แน่น หวาน อร่อย ไม่มีกลิ่นคาวเลือด อุดมด้วยโอเมก้า-3”
“เนื้อปลากะพงยักษ์ที่แล่แล้ว สามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายแบบเดียวกับหมู ไก่ เป็ด วัว แต่ถ้าต้องการสัมผัสความอร่อยของเนื้อปลาจริงๆ สามารถกินง่ายๆแบบนึ่ง ลวกจิ้ม ย่าง ก็ได้ ลาบปลาทอดกับสเต็กปลา เป็นตัวอย่างของเมนูยอดนิยม”

“ปลากะพงยักษ์แปดริ้วได้รับเกียรติให้ออกร้านในงานเที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค ที่แหลมแท่น จึงขอเชิญชวนผู้มาเที่ยวงานได้ลองมาเห็นปลากะพงไซส์ยักษ์ของจริง รวมทั้งลิ้มลองรสชาติเนื้อปลากันด้วยครับ”

เที่ยวงานเทศกาลอาหารถิ่นประเทศไทยที่แหลมแท่น ไม่เพียงอิ่มท้อง แต่ยังอิ่มสมองด้วย เพราะผู้จัดได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร 2 ท่านมาร่วมพูดคุยให้ข้อมูลความรู้ และสาธิตการทำอาหารสดๆบนเวทีกิจกรรมกลาง ได้แก่ เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต จะเล่าเรื่องราว อาหารถิ่น..กินตามตำนาน

พร้อมทั้งสาธิตวิธีการปรุงอาหารไทยที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่โบราณ และ มิสแอนเดรียไดอารี่ ซึ่งจะมาพูดคุยเรื่องโภชนาการของอาหารไทยในอดีต และการทำอาหารเพื่อสร้างอาชีพ โดยเริ่มตั้งแต่การจัดเตรียมวัตถุดิบ การคำนวณต้นทุน-กำไร เคล็ดลับการปรุง จนถึงการหาทำเล

อิ่มท้อง อิ่มสมอง แล้วยังอิ่มใจด้วยกับการมาเที่ยวงาน “เที่ยวข้ามถิ่น..กินข้ามภาค @บางแสน” เพราะตลอดงาน 3 วัน ผู้มาเดินงานจะได้ชมและฟังการแสดงดนตรีอะคูสติก การแสดงศิลปวัฒนธรรม และฟรีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ แสตมป์-อภิวัชร์, ลูกหว้า-พิจิกา และ ป๊อป-ปองกูล ณ เวทีกลาง ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2560 ตามลำดับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image