“สมคิด”หนุนสร้างที่อยู่อาศัยกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ปานกลาง และผู้สูงอายุ

รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พร้อมหนุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ปานกลาง และผู้สูงอายุ มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติและธนาคารอาคารสงเคราะห์เร่งวางแผนโครงการ ติดขัดตรงไหนพร้อมช่วยเต็มที่  พร้อมเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมโครงการที่อยู่อาศัยต้นทุนต่ำสนองกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในลักษณะโครงการเพื่อสังคม

ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน “บ้าน ธอส.เอ็กซโป @ กรุงเทพฯ” ซึ่งจัดโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ร่วมกับพันธมิตรที่อยู่อาศัย รวมทั้งการเคหะแห่งชาติ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า การร่วมจัดงานครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ประเทศไทยยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งต้องหาวิธีให้สามารถเข้าถึงได้

“ผมให้นโยบายไปแล้วกับการเคหะแห่งชาติ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก
ที่ต้องแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย โดยต้องเร่งรัดหาทางแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย  ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนเต็มที่ ติดขัดเรื่องไหนให้บอกมา จะหาทางออกและช่วยเหลือเต็มที่”

Advertisement

กลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการให้ความช่วยเหลือคือ กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนชั้นกลาง
ที่ต้องการสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ต้องการเพียงที่อยู่อาศัย หากยังต้องการสังคมและ
สิ่งอำนวยความสะดวกด้วย

ทั้งนี้ ราคาที่อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย และต้องคำนึงถึงระดับราคา  การเช่าหรือผ่อน
การก่อสร้างทำได้เร็วเพราะเทคโนโลยีก่อสร้างปัจจุบันทันสมัย  ส่วนการใช้ที่ดินมีทางเลือกหลายทาง เช่น ที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ หรือที่ดินเอกชน ซึ่งกำลังเร่งรัดการเคหะแห่งชาติและธนาคารอาคารสงเคราะห์ช่วยคิดโครงการ

“อย่างโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดง ได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า มีความคืบหน้าไปมาก บริเวณนั้นมีศักยภาพสูงสามารถพัฒนาโครงการที่ดีได้อีกหลายโครงการ ในราคาที่ถูก และมีคุณภาพดีด้วยต้นทุนต่ำ
ที่สำคัญผู้อยู่อาศัยเดิมสามารถอยู่อาศัยต่อไปได้”

Advertisement

ดร.สมคิด กล่าวอีกว่า โครงการที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยนั้นจะเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยใช้ต้นทุนต่ำ และไม่เป็นโครงการแสวงหากำไร แต่เป็นโครงการตอบแทนสังคม

“ผลประโยชน์ที่เอกชนจะได้รับจากการร่วมมือกับรัฐบาลนั้น แม้เป็นโครงการราคาถูก ไม่มีกำไร แต่จะเกิดการสร้างงาน จ้างงาน ทำให้คนมีงานทำ และผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย แล้วเอกชนก็ไปทำโครงการอื่นๆ ที่ได้กำไรควบคู่กันไป”

ทางด้าน ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ในงานนี้ การเคหะแห่งชาติได้นำโครงการบ้านเคหะประชารัฐให้จับจองทั้งสิ้น 203 โครงการ จำนวน 16,790 หน่วย ในระหว่างวันที่ 24 – 27 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด และอาคารพาณิชย์ ประกอบด้วย โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และโครงการ
เปิดขายใหม่

โดยได้รับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองโครงการภายในงาน ประกอบด้วย ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทุกโครงการ  ลูกค้าที่เช่าซื้อเฉพาะ 48 โครงการพร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% ส่วนผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อเป็นการเช่าในลักษณะเช่าเพื่อซื้อหรือ Rent to Buy หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยโครงการบ้านประชารัฐจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน เฉพาะโครงการที่มีราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยอัตราผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขธนาคาร และหากจองโครงการเปิดขายใหม่จะกันที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุไว้ ร้อยละ 10 ของจำนวนหน่วยก่อสร้าง ผู้สนใจสอบถามได้ที่ Call Center 1615 หรือ www.nha.co.th

***********************

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image