‘เฟลชแมน ฮิลลาร์ด’ ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเวชดุสิตฯ และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติผลงานสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จากกระทรวงวัฒนธรรม
กรุงเทพฯ – 30 สิงหาคม 2560 — มูลนิธิเวชดุสิตฯ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย คว้ารางวัลโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติผลงานสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประเภทสื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตสตรี ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส จากภาพยนตร์โฆษณา “ความฝันไม่มีวันพิการ ปีที่ 1”
ภาพยนตร์สั้นประกอบโครงการ “ความฝันไม่มีวันพิการ” ได้ถูกจัดทำขึ้นและฉายเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2558 โดยภาพยนตร์ดังกล่าวได้บอกเล่าเรื่องราวของเด็กผู้พิการสามคนที่มีความฝันในรูปแบบของตนเอง โดยรางวัลดังกล่าวได้คัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่นและส่งเสริมสังคมไทยอย่างเข้าใจ มีความคิดสร้างสรรค์ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อสังคม มีเนื้อหาและเทคนิคการเล่าเรื่องที่ดีมีคุณค่า และการใช้ภาษาไทย-ภาษาเทศสุภาพ และตรงตามความหมายที่ต้องการสื่อสาร
การประกาศผลรางวัลถูกจัดขึ้นภายในงานรวมพลังสื่อสร้างสรรค์สังคมไทย จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ภาพยนตร์โฆษณา “ความฝันไม่มีวันพิการ ปีที่ 1” ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 26 ผลงานที่ได้รับโล่ยกย่องสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จากผลงานที่ได้รับการเสนอเข้าพิจารณากว่า 300 ผลงานจากทั่วประเทศ
“ดิฉันเชื่อว่างานที่เราทำร่วมกับโครงการนี้ไม่เพียงแต่จะยกระดับคุณภาพการประชาสัมพันธ์ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดประกายความตระหนักในเชิงบวกและการเปลี่ยนแปลงที่เราควรจะทำต่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการสนับสนุนผู้ด้อยโอกาส” น.ส.โสพิส เกษมสหสิน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย กล่าว “นับตั้งแต่วันแรกที่ได้ร่วมงานกับมูลนิธิเวชดุสิตฯ เราทุ่มเทพลังกาย พลังใจ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับโครงการนี้เพื่อให้คู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรติ และในโอกาสนี้ดิฉันอยากจะขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคนมีส่วนร่วมและได้ทำงานกันอย่างหนัก ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมูลนิธิเวชดุสิตฯและพวกเราทุกคน” น.ส.โสพิส กล่าวเสริม
“เรารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และอยากจะขอใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณมูลนิธิเวชดุสิตฯ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคน ที่ช่วยกันทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งปีนี้โครงการความฝันไม่มีวันพิการ ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ภายใต้ชื่อ “ความฝันไม่มีวันพิการ ปีที่ 3 ร่วม-ลงมือ-ทำ” ซึ่งในปีนี้ มูลนิธิเวชดุสิตฯ ได้ร่วมมือกับกลุ่มดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ได้แก่ Sretsis (สเรทซิส), Patinya (ปฏิญญา), และ Greyhound Original (เกรฮาวด์ ออริจินัล) ในการช่วยกันทำความฝันของน้องๆให้เป็นจริง โดยร่วมกันพัฒนาทักษะ ความสามารถ และเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้แสดงศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมา ผ่านการให้โอกาสในการเรียนรู้และสัมผัสการทำงานด้านการออกแบบแฟชั่น รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์และออกแบบ Adaptive Clothing หรือ เสื้อผ้าดัดแปลงสำหรับผู้มีข้อจำกัดทางร่างกาย เพื่อให้พวกเขาสามารถนำประสบการณ์การทำงานร่วมกับมืออาชีพระดับแถวหน้าของเมืองไทยไปต่อยอดตามเส้นทางอาชีพของตนเองได้” น.ส.โสพิส กล่าว
รศ. อัจจิมา เศรษฐบุตร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเวชดุสิตฯ กล่าวว่า “จากประสบการณ์การทำงานร่วมกับเยาวชนผู้พิการมาอย่างยาวนาน ทำให้ดิฉันได้ตระหนักว่าแท้จริงแล้วเยาวชนผู้พิการทุกคนล้วนมีศักยภาพอยู่ในตนเอง แต่น่าเสียดายที่สังคมของเราอาจจะยังไม่สามารถให้การสนับสนุนด้านโอกาสในการทำงานและสิทธิ์ของผู้พิการได้อย่างเต็มที่ เราจึงได้ริเริ่มโครงการความฝันไม่มีวันพิการขึ้นมา โดยมูลนิธิเวชดุสิตฯ ต้องการเป็นอีกแรงหนึ่งในการเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสให้กับเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและประสบความสำเร็จตามความฝันของตนเอง”
ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิเวชดุสิตฯ มุ่งให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมไปถึงสนับสนุนความฝันของน้องๆ ผู้พิการให้เป็นจริง ผ่านโครงการช่วยเหลือต่างๆ อาทิ โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ โครงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ และ พยาบาลฯ โครงการสนับสนุนการศึกษา และรวมไปถึงการพัฒนาด้านอาชีพ ให้แก่ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการภายใต้โครงการ “ความฝันไม่มีวันพิการ”
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ “ความฝันไม่มีวันพิการ ปีที่ 3 ร่วม-ลงมือ-ทำ” จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ขับเคลื่อน และสนับสนุนให้เกิดสังคมแห่งความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วม รวมไปถึงการสร้างโอกาสทางสังคมอย่างจริงจังให้กับผู้พิการ และเปิดประตูโอกาสให้น้องผู้พิการสร้าง “ความฝัน” ที่ไม่มีข้อจำกัดได้” รศ. อัจจิมา กล่าว
นอกเหนือจากรางวัลระดับประเทศแล้ว ผลงานจากโครงการ “ความฝันไม่มีวันพิการ” ยังได้รับการนำเสนอชื่อให้เป็นผลงานรอบไฟนอล 5 ลำดับสุดท้ายในงานประกาศผลรางวัล ‘Asia-Pacific SABRE Awards’ ซึ่งงานดังกล่าวดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 รายทั่วโลกในแต่ละปีเพื่อร่วมแสดงผลงานการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด
###
