การเคหะฯสตาร์ทโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าแห่งแรก

การเคหะแห่งชาติสตาร์ทโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าแห่งแรกที่ประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี จำนวน 556 หน่วย ราคาประมาณ 860,000 บาท – 1.3 ล้านบาท เผยเนื้อหอมมีเอกชนทั้งไทยและต่างชาติรุมตอมโครงการร่วมทุนฯ 5 แห่ง แต่ยังรอความชัดเจนการตีความ พ.ร.บ.การร่วมทุนเอกชน พ.ศ.2556 ก่อน

ดร.ธัชพล กาญจนกูล  ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า  ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ประชานิเวศน์3) ว่า โครงการดังกล่าวเป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น 4 อาคาร ขนาดห้อง 25.5 – 30 ตารางเมตร จำนวนรวม 556 หน่วย ราคาประมาณ 860,000 – 1.3 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการเคหะชุมชนประชานิเวศน์ จ.นนทบุรี ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู 2.5 กิโลเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562

โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางจนถึงรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงาน ต้องการสร้างครอบครัวใหม่ ประกอบอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน

Advertisement

“เปรียบเทียบราคากับคู่แข่งแล้ว ของเราค่อนข้างถูก คุณภาพดี และอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้ดี และเป็นโครงการตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าแห่งแรกของการเคหะแห่งชาติ”

ดร.ธัชพล กล่าวด้วยว่า การเคหะแห่งชาติยังเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนร่วมลงทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 จำนวน 5 โครงการ ได้แก่

Advertisement

1.โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าระยะที่ 2 ภายในโครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า เขตลาดพระบัง กทม. จำนวน 2 แปลง 72 ไร่และ 107 ไร่

2.โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3 และ 4 รองรับผู้อยู่อาศัยใหม่

3.โครงการเชิงพาณิชย์ในที่ดิน 52 ไร่ ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย)

4.โครงการพัฒนาพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการ และโครงการเชิงพาณิชย์บนที่ดิน 136 ไร่
อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

5.โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการและโครงการเชิงพาณิชย์บนที่ดิน 118 ไร่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

“โครงการเหล่านี้มีเอกชนสนใจเข้ามาหารือมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น จีน และญี่ปุ่น  แต่เรายังต้องรอการพิจารณาตีความ พ.ร.บ.ร่วมทุนภาคเอกชนให้ชัดเจนก่อน ถ้าโครงการเหล่านี้ไม่ต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ การเคหะแห่งชาติสามารถเร่งดำเนินการเองได้เร็วขึ้นตามนโยบายของรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ต้องการเห็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image