เป๊ปซี่ ผนึกวงใน–ไลน์แมน ส่งแคมเปญ “ปักหมุดซ่า ล่าร้านเด็ด” รับเทรนด์กินอาหารนอกบ้านโต

กรุงเทพฯ – เครื่องดื่ม “เป๊ปซี่” โดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ตอกย้ำภาพเครื่องดื่มยอดนิยมคู่มื้ออร่อย ส่งแคมเปญใหม่ “เป๊ปซี่ ปักหมุดซ่า ล่าร้านเด็ด” รับเทรนด์การบริโภคอาหารนอกบ้านเติบโต 12%โดยผนึกพันธมิตร “วงใน” (WONGNAIและ “ไลน์แมน” (LINE MAN) ผู้นำอันดับหนึ่งด้านแอพพลิเคชั่นรีวิวอาหารและธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ออนไลน์ เพื่อรุกกิจกรรมการตลาดบนสื่อออนไลน์และดิจิตอลแบบเต็มสูบ มุ่งเจาะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไปถึงไหนก็อร่อยถึงรสชาติกับเป๊ปซี่” (Pepsi: Taste the Destination) มาพร้อมไฮไลต์ “Pepsi Foodie Map” ครั้งแรก! กับการรวบรวมลายแทงร้านอาหารเด็ด 17 ย่านใน 12จังหวัดทั่วประเทศหวังเอาใจสายกิน เสริมทัพด้วยสื่อสนับสนุน 360 องศาที่มีสองดาราคู่ขวัญ ‘เจมส์ มาร์’ และ ‘คิมเบอร์ลี’ ร่วมชูโรงเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พ่วงท้ายด้วยการเดินสายจัด 3 ฟู้ดอีเว้นท์ทั้งในกรุงเทพฯ ชลบุรีและเชียงใหม่

 นายสมชัย เกตุชัยโกศล  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม  บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “พฤติกรรมการทานอาหารนอกบ้านของคนไทยในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 12%* ทำให้เป็นโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม โดยเฉพาะน้ำอัดลมที่ผู้บริโภคมักเลือกดื่มคู่กับมื้ออาหาร ดังนั้น ในปีนี้ เป๊ปซี่ จึงกลับมาตอกย้ำความเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมคู่มื้ออร่อยอีกครั้งด้วยการส่งแคมเปญใหม่ที่มีชื่อว่า ‘เป๊ปซี่ ปักหมุดซ่า ล่าร้านเด็ด’ เพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชอบเสาะหาร้านอาหารเพื่อรับประทานนอกบ้าน รวมถึงในบ้านโดยผ่านบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ โดยเฉพาะร้านแนวสตรีตฟู้ดและร้านแผงลอยข้างทางที่ติดอันดับหนึ่งใน 3 ช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด”

“ภายใต้แคมเปญนี้ เป๊ปซี่ได้ผนึกพันธมิตรอย่างต่อเนื่องกับสองผู้นำอันดับหนึ่งที่ให้บริการด้านอาหารเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในยุคนี้ นั่นคือ วงใน (WONGNAIเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นรีวิวร้านอาหารอันดับหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งถือเป็น Top of Mind เมื่อคิดถึงร้านอาหาร โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 8 ล้านคนและมีฐานข้อมูลร้านอาหารมากกว่า 2.9 แสนร้านทั่วประเทศ และ ไลน์แมน (LINE MANผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ออนไลน์ ที่มีเครือข่ายร้านอาหารเจ้าดังกว่า 3 หมื่นรายและมีลูกค้าเฉลี่ย 5 แสนคนต่อเดือน โดยเราเตรียมส่งกิจกรรมการตลาดหลากรูปแบบผ่านสื่อออนไลน์และดิจิตอลแพลตฟอร์มให้เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Pepsi: Taste the Destination หรือ ‘ไปถึงไหนก็อร่อยถึงรสชาติกับเป๊ปซี่’ คือไม่ว่าผู้บริโภคจะเดินทางไปย่านไหน เป๊ปซี่ก็จะคอยแนะนำให้ทุกคนได้ลองอาหารเด็ดประจำถิ่น เรียกได้ว่าสัมผัสถึงรสชาติในท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยเราได้จัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ไว้คิดเป็น 30% ของงบการตลาดทั้งหมด” นายสมชัย กล่าวเสริม

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของแคมเปญนี้ที่ถือเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคได้อร่อยถึงรสชาติในแต่ละท้องถิ่น คือ การเปิดตัว “Pepsi Foodie Map” หรือแผนที่ลายแทงร้านเด็ดในรูปแบบดิจิตอลที่รวบรวมสุดยอดร้านอาหารดังประจำถิ่นถึง 17 ย่านใน 12จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งพร้อมให้ดาวน์โหลดฟรีผ่านทาง Facebook และ LINE ของเป๊ปซี่ พร้อมกันนี้ เป๊ปซี่ยังเตรียมส่งโปรโมชั่นร่วมกับ LINE MAN มอบส่วนลด 50 บาทสำหรับค่าจัดส่งอาหารจาก 20 ร้านเด็ดทั่วกรุงเทพฯ สูงสุดถึง 2,000รางวัลตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้

Advertisement

เป๊ปซี่ยังจัดเต็มด้วยสื่อสนับสนุนแบบ 360 องศา นำโดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่นำแสดงโดยสองพรีเซ็นเตอร์สุดฮอต ‘เจมส์ มาร์’ และ ‘คิมเบอร์ลี’ เพื่อมุ่งสร้างการรับรู้ของแคมเปญในวงกว้าง ควบคู่ไปกับสื่อโฆษณานอกบ้าน สื่อกลางแจ้ง สื่อในโรงภาพยนตร์ ตลอดจนสื่อในร้านค้าและ ณ จุดขาย นอกจากนี้ เพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภค  เป๊ปซี่ยังได้จับมือ WONGNAI เตรียมเดินสายจัดฟู้ดอีเว้นท์หรือเทศกาลอาหารเด็ดประจำถิ่นใน 3 จังหวัด คือ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในกรุงเทพฯ เซ็นทรัลมาริน่าพัทยา จังหวัดชลบุรี และ เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยซ่าของแคมเปญ “เป๊ปซี่ ปักหมุดซ่า ล่าร้านเด็ด” พร้อมดาวน์โหลด “Pepsi Foodie Map” ได้แล้ววันนี้ผ่านทาง Facebook PepsiThai และ LINE Official Account: PepsiThai  และสามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดของเป๊ปซี่ได้ที่ https://youtu.be/a1p_xnSuAe8

************************************************************************

#PepsiTastination #ไปถึงไหนก็อร่อยถึงรสชาติกับเป๊ปซี่

อ้างอิงรายงานการวิจัย “Food Trips 2017” ของ บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด ซึ่งระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้บริโภคชาวไทยทานข้าวนอกบ้านถึง 56 ครั้งต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่จำนวน 50 ครั้งต่อเดือน โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างชาวไทย 1,000 คน อายุ 15-60 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและในเขตเทศบาลต่างจังหวัด ช่วงเวลาการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กรกฏาคม 2560

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image