นายสุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร GEMBA (Global Executive MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทุกวงการอุตสาหกรรมต่างได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและลบจากกระแสความเป็นดิจิทัล หลายธุรกิจกำ ลังหวั่นเกรงกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล(Digital Disruption ) ที่ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจขึ้นมาใหม่ ซึ่งนวัตกรรมและรูปแบบใหม่เหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมเดิม จนอาจถึงขั้นต้องยกธงขาวพ่ายแพ้ให้กับความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริหารต่างต้องเร่งปรับตัวกันขนานใหญ่ เพราะความเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเขย่าทุกอุตสาหกรรมในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้บริหารและผู้ประกอบการต้องพลิกกลยุทธ์ เปลี่ยนวิธีคิดกันแบบ 360 องศา เพื่อหาแนวทางรับมือและฉวยโอกาสสำคัญจากปรากฏการณ์ดังกล่าว
นายสุรพิชย์ กล่าวว่า สิ่งจำเป็นที่ผู้บริหารในยุคนี้ควรที่จะเรียนรู้ เพื่อนำไปต่อยอดทั้งในแง่การขยายธุรกิจ และการอยู่รอดท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งการเรียนรู้ตลาดออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ และเรื่องดิจิทัลจะมีผลมากต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ทั้งการทำตลาด และการจัดการทุกอย่าง ซึ่งแม้ว่าถนนทุกสายต่างมุ่งสู่โลกดิจิทัล แต่ในเวลาเดียวกันก็กำลังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดออนไลน์ ขณะเดียวกัน ผู้บริหารยุคใหม่ก็ยังต้องเข้าใจธุรกิจในระดับโลก เข้าใจการตลาดระดับนานาชาติ เพื่อให้รู้ถึงความท้าทาย อุปสรรค กลยุทธ์ แล้วนำทั้งหมดนี้มาเชื่อมโยงเป็นองค์ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
นายสุรพิชย์ กล่าวอีกว่า จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริหารและคนทำงานที่มาเรียน MBA มีเวลาน้อย ธุรกิจยุ่ง งานเยอะ จึงต้องการความชัดเจนเรื่องการเรียน และต้องการอะไรที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพ จึงได้พัฒนาหลักสูตร GEMBA เป็นหลักสูตร MBA การจัดการธุรกิจสากล (นานาชาติ) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้เวลาการเรียนเข้มข้นเพียง 1 ปี ระหว่างนี้มีการศึกษาดูงานต่างประเทศ 3 แห่งที่เป็นกรณีศึกษาที่ดี เช่น สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ รวมทั้ง ยุโรปหรืออเมริกา รวมทั้งมีเครือข่ายวิทยากรระดับชั้นนำที่เป็นตัวจริงในวงการและเข้าใจธุรกิจนั้นๆ เป็นอย่างดีมาร่วมจัดการเรียนการสอน ทำให้การเรียนหลักสูตรนี้จึงไม่ใช่ MBA ที่เรียนแต่ตำราและหลักทฤษฎี แต่เป็น MBA ยุคใหม่ที่เรียนโดย กรณีศึกษาใช้กรณีศึกษา เรียนจากปัญหา เรียนจากประเด็นที่เกิดขึ้นจริง ผู้เรียนสามารถเลือกสิ่งที่ตรงกับตัวเองมาทำเป็นงานค้นคว้าอิสระ ภายใต้การดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐ และบริษัทเอกชนชั้นนำทั่วโลก ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพราะผู้เรียนสามารถนำ สิ่งที่อยากพัฒนา หรือธุรกิจที่อยากลองทำมาศึกษาเหมือนเป็นการวิจัยเล็ก ๆ
“ผู้เรียนสามารถมั่นใจได้ว่า ความรู้ที่จะได้รับการถ่ายทอดจาก GEMBA จะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในธุรกิจ เพราะมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเครือข่ายความร่วมมือกับภาคธุรกิจหลายร้อยแห่งที่เป็นองค์กรชั้นนำระดับประเทศ และมีสาขาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
และยังมีภาคธุรกิจที่เป็นพาร์ทเนอร์มาร่วมออกแบบหลักสูตรและเนื้อหาการเรียนการสอน จากประสบการณ์ตรง เพราะรู้ว่าในธุรกิจนี้มีสิ่งใดเป็นอุปสรรค และรู้ว่าเมื่อทำงานกับผู้บริโภคระดับโลก ควรต้องรู้เรื่องอะไร ต้องทำการตลาดอย่างไร ทำวิจัยอย่างไรจึงจะประสบผลสำเร็จ” นายสุรพิชย์ กล่าว
