“ทิปโก้ บีท” ผู้นำตลาดไฮโปรตีน บุกตลาดต่อเนื่อง ดีเดย์ปี’61ด้วยงานระดับโลกร่วมงานนิวยอร์กแฟชั่นวีค 2018 พร้อมควงแบรนด์แอมบาสเดอร์ “น้ำตาล – ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มั่นใจส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้ให้รู้จักมากขึ้น ตอกย้ำกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่รักสุขภาพและออกกำลังกาย พร้อมทุ่มงบทางการตลาดต่อเนื่องพร้อมตั้งเป้าการเติบโตกว่า 50% อย่างแน่นอน
นายกิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำนวัตกรรมเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “ทิปโก้ บีท” (Tipco Beat) เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ และ
แบรนด์แอมบาสเดอร์ “น้ำตาล – ชลิตา ส่วนเสน่ห์” เมื่อกลางปีที่ผ่านมา (2560) ได้กระแสการตอบรับจากผู้บริโภคในทิศทางที่ดีมาก ด้วยจุดเด่นของ Product Concept ที่เป็นเครื่องดื่มไฮโปรตีน คลีนลีนโปรตีนจากถั่วลันเตาสีเหลือง สกัดจากพืช 100% รสชาติทานง่ายทำให้ดื่มได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่มีไขมันจากสัตว์ ไม่ต้องกังวลถึงคอเลสเตอรอลและยังช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอในชีวิตประจำวัน เสริมสร้างกล้ามเนื้อสำหรับคนที่ออกกำลังกาย นับว่าเป็นเทรนด์โลกที่กำลังมาแรง
ดังนั้นทิปโก้ บีท จึงสบโอกาสที่จะบุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นที่รู้จักและขยายฐานให้มากขึ้น จึง
ดีเดย์ปีนี้ด้วยกิจกรรมระดับโลกโดยพาแบรนด์แอมบาสเดอร์บินลัดฟ้าร่วมงาน New York Fashion week 2018 โดยได้นั่ง front row แบบติดขอบเวทีซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเชิญและเข้าพบ Designer ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Ralph Lauren, Kate Spade เป็นต้น พร้อมกระทบไหล่เหล่านางแบบที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น ทั้งในเอเชียและอเมริกา ใจกลางมหานครนิวยอร์กด้วยและเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมาซึ่งล่าสุดได้ร่วมงาน Victoria’s Secret ณ เซียงไฮ้
นายกิตติเชษฐ์ กล่าวอีกว่า “เรามั่นใจว่าทิปโก้ บีท จะได้รับความสนใจทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น สามารถต่อยอดความสำเร็จจากการเปิดตัวครั้งนี้ฯ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นและตอกย้ำ positioning ของผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องดื่ม ไฮโปรตีน เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่รัก-ใส่ใจสุขภาพและชื่นชอบการออกกำลังกาย ซึ่งแบรนด์แอมบาสเดอร์นับเป็น inspiration (แรงบันดาลใจ) ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักการดูแลตัวเองด้วย สำหรับแผนและกลยุทธ์การตลาดปีนี้ เรายังคงมุ่งเน้นการตลาดเชิงสร้างสรรค์และสร้างการรับรู้ ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ กิจกรรมทางออนไลน์ เฟสบุค รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นผ่านช่องทางจัดจำหน่ายต่างๆ ทั้งนี้ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักมากขึ้นคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการออกกำลังกาย มองหาเครื่องดื่มที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รักษารูปร่างให้ลีนกระชับและมีสัดส่วนฟิตเฟิร์ม”
โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตประมาณกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาด้วยเหตุผลคือ 1.จุดเด่นของสินค้าที่คัดสรรวัตถุดิบมีคุณภาพพร้อมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนามาเป็นสูตรพิเศษ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีและประโยชน์สูงสุด 2. แบรนด์แอมบาสเดอร์ เสมือนเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ดูแลตัวเองทั้งในเรื่องการออกกำลังกาย และการดูแลรูปร่างให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม 3. รุกกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับทราบความเคลื่อนไหวและมีส่วนร่วมโดยเฉพาะทางออนไลน์
ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่ม ไฮโปรตีน ประมาณ 360 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 15-20% โดย ทิปโก้ บีท ตั้งเป้าการเติบโตกว่า 50% หรือวางเป้ายอดขายไว้ประมาณกว่า 20% ของมูลค่าตลาดอีกด้วย
