ซีพีเอฟพร้อมรับนักวิ่ง 5,000 คนร่วมงาน CPF Sea Run 2018 นำรายได้สมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี
9 มีนาคม 2561 – บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดย โรงงานผลิตอาหารสัตว์บก ศรีราชา ประกาศความพร้อมต้อนรับนักวิ่ง 5,000 คนร่วมงานวิ่งเพื่อการกุศล CPF Sea Run 2018 (ซีพีเอฟ ซีรัน 2018) ในวันอาทิตย์ ที่ 18 มีนาคม 2561 พร้อมชมสะพานชลมารควิถี 84 พรรษา แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดชลบุรี รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงาน
นายวิโรจน์ คัมภีระ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ ในฐานะ ประธานชมรม CPF Running Club กล่าวว่า การจัดแข่งขัน CPF Sea Run 2018 ที่จะจัดขึ้น ได้รับความสนใจจากนักวิ่งและผู้รักสุขภาพร่วมวิ่งมากถึง 5,000 คน นับเป็นจำนวนคนที่ร่วมกิจกรรม CPF Run For Charity มากที่สุดนับตั้งแต่ซีพีเอฟจัดมาตั้งแต่ปี 2560 ทั้งนี้ ชมรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการจัดงานอย่างรอบคอบ และมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินจัดการแข่งขัน และให้การต้อนรับนักวิ่งทุกท่านได้ร่วมเดิน-วิ่งออกกำลังกายเพื่อการกุศล ในบรรยากาศของความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนริมทะเลอีกด้วย
“การจัดแข่งขัน CPF Sea Run 2018 นับเป็นครั้งแรกของกิจกรรม CPF Run For Charity 2018 ที่ได้บรรจุการวิ่งระยะ 21 กิโลเมตร หรือ ฮาร์ฟมาราธอนอยู่ในรายการ และได้รับความสนใจจากนักวิ่งสมัครเข้าร่วมแข่งขันในระยะนี้ถึง 800 คนสะท้อนว่าคนให้ความสนใจกับการวิ่งมากขึ้น” นายวิโรจน์กล่าว
ด้าน นพ. สุทัศน์ ดวงดีเด่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขไทยที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าอัตราตายของคนไทยด้วยโรคมะเร็งจะสูงเป็นอันดับ 2 รองจากการเกิดอุบัติเหตุ เงินสมทบทุนที่โรงพยาบาลได้รับจากรายได้ส่วนหนึ่งจากค่าสมัครของ CPF Sea Run 2018 จะช่วยสนับสนุนโรงพยาบาลได้เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ องค์ความรู้ ตลอดจนเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อให้บริการผู้ป่วย และดำเนินงานป้องกันโรคมะเร็งในภูมิภาคตะวันออกได้ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับในปี 2561 ชมรมซีพีเอฟรันนิ่งคลับ จะจัด CPR Run For Charity อย่างต่อเนื่องเดือนละครั้งในจังหวัดที่มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกของซีพีเอฟตั้งอยู่ อาทิ จ.สระบุรี จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.สงขลา จ.สระบุรี จ.ราชบุรี เป็นต้น โดยมีระยะทางการแข่งขัน 10 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้ออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลโรค พร้อมกับยังได้ร่วมทำประโยชน์ให้กับชุมชนของตนเองอีกด้วย
